xs
xsm
sm
md
lg

มองข้ามช็อต “ยุบส้มหวาน”! ดร.นิว หวังสร้าง “ปชต.”ที่ถูกต้อง มิใช่ลัทธิจอมปลอม ของ “ธนาธร-ปิยบุตร”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ดร.นิว" ศุภณัฐ อภิญญาณ คู่ปรับตลอดกาล “ธนาธร-ปิยบุตร” มองข้ามช็อต “ยุบส้มหวาน” หวังสร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ใช่ลัทธิจอมปลอม ที่นำไปสู่ ความรุนแรงและอนาธิปไตย

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(7 ก.พ.63) เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์หัวข้อ “#ผมจะทำอะไรต่อเมื่อไม่มีพรรคอนาคตใหม่?”

โดยระบุว่า “ที่ผ่านมาผมสู้ตามหลักการที่ได้แจกแจงมาตั้งแต่ต้น...

1.เป็นพันธมิตรกับทุกฝ่ายที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสถาบัน

2.ต่อต้านการปลุกระดมใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองอันนำไปสู่สงครามการเมืองหรือการรัฐประหาร

จุดมุ่งหมายของผมชัดเจน คือ การสร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

ที่ผมต้องสู้กับนายธนาธร(จึงรุ่งเรืองกิจ)และปิยบุตร(แสงกนกกุล)ที่เป็นผู้นำลัทธิประชาธิปไตยจอมปลอมนั้น เป็นปัญหาเรื่องของหลักวิชา เพราะคนกลุ่มนี้สืบทอดแนวทางประชาธิปไตยที่ผิดและบิดเบือนซึ่งขัดขวางการสร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

อีกทั้งพวกเขาใช้การเคลื่อนไหวที่โกหกบิดเบือน ปลุกระดมมวลชนด้วยความต้องการนำสังคมไปสู่ความรุนแรงเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยการแอบอ้างประชาธิปไตย ทั้งๆที่เนื้อแท้นั้นก็คือ อนาธิปไตย

และเมื่อประชาธิปไตยจอมปลอมกลุ่มนี้เสื่อมลงจนไม่อาจที่จะขัดขวางการสร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้องได้อีก...

ผมจะผลักดันในสิ่งที่ผมมีความตั้งใจมาตั้งแต่ต้นในฐานะประชาชนคนหนึ่งด้วยแนวทางในขั้นต่อไป...

3.ยกเลิกระบอบเผด็จการ 2475 และสถาปนาประชาธิปไตยที่ถูกต้องขึ้นโดยสันติ

เพราะระยะเวลาเกือบ 90 ปีที่ผ่านมา ได้ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า แนวทางของคณะราษฎร เป็นแนวทางที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ และไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกัน และวงจรอุบาทว์ที่ทำให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยปัญหาและระบอบเผด็จการที่มีเผด็จการหลากหลายรูปแบบรวมตัวกันอยู่

ความมุ่งหวังในการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องนี้ เป็นไปเพื่อยุติความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนานและรวบรวมพี่น้องประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน

ผมสู้เพื่อประชาชน เพราะตัวผมเองก็เป็นประชาชน
เมื่อประชาชนได้ประโยชน์...ผมเองก็ได้ประโยชน์

ไม่มีความจำเป็นอันใดที่เราจะสู้กันเองต่อไปให้เสียโอกาสไปมากกว่านี้ แต่การที่เราจะข้ามวิกฤตของชาติในครั้งนี้ได้...

มันมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่เราต้องนำหลักวิชาที่ถูกต้องขึ้นมาสร้างประชาธิปไตย ที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนโดยสมบูรณ์

ประชาธิปไตยที่ถูกต้องจะต้องเกิดขึ้นโดยสันติ...
ไม่มีใครแพ้...เพราะทุกคนจะชนะไปด้วยกัน

ขนาดทุกวันนี้ที่เราขัดแย้งกัน อยู่ในหลุมของความขัดแย้งและความไม่แน่นอนทางการเมืองมาเกือบ 90 ปี แต่...ประเทศไทยของเราก็ไม่ได้แย่ แถมยังดีกว่าประเทศอีกหลายๆประเทศด้วยซ้ำ แล้วประเทศไทยของเราก็ยังนับได้ว่ามีความเจริญและความสำคัญอยู่ในแถวหน้าของภูมิภาคในแถบนี้

เรามาลองจินตนาการไปด้วยกันดูนะครับ...สมมติว่า ถ้าเราไม่มีความขัดแย้งต่อกัน ยอมรับในความแตกต่างอย่างเข้าใจ คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ของส่วนตน และสามัคคีจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน

ประเทศไทยของเราจะเจริญก้าวหน้าขนาดไหน?
#ประชาธิปไตยTheseris by ดร.ศุภณัฐ”

แน่นอน, กรณีที่จะไม่มีพรรคอนาคตใหม่ ก็คือ พรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค และคดีที่จ่ออยู่ในศาลรัฐธรรมนูญที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ เวลานี้มีคดีเดียว คือ คดีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้กู้กับพรรคอนาคตใหม่ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรค ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยไปแล้ว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ คือ กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องและคำขี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีพอวินิจฉัยได้ ไม่จำต้องทำการไต่สวนพยานบุคคล แต่เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้พยานบุคคล รวม 17 ปาก ตามที่ผู้ถูกร้องยื่นบัญชีระบุพยาน จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 ก.พ.63

และให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะผู้เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือและส่งเอกสาร ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 ก.พ.63 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 27 วรรคสาม

และนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 15.00 นาฬิกา เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์

ภาพจากแฟ้ม
อย่างไรก็ตาม ทางด้านพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้อง ดูเหมือน ยังคงเชื่อมั่นว่า พรรคจะไม่ถูกยุบอย่างแน่นอน

เห็นได้ชัดจากเมื่อวันที่ 7 ก.พ.63 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ไต่สวนพยานบุคคลที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์ท่าพระจันทร์) ว่า

ตนอยากให้สังคมช่วยกันตั้งข้อสงสัยว่า คดีนี้มีเอกสารหลุดจาก คณะกรรมการการเลือกตั้งมาแล้ว ทางพรรคอนาคตใหม่เอง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยื่นสอบพยานทั้ง 17 คน ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน ที่วินิจฉัยว่า ให้ยกฟ้องในกรณีนี้ ตั้งแต่ชั้น กตต.

ดังนั้นเราจึงอยากทราบว่า ทำไมศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่เปิดให้มีโอกาสไต่สวนพยาน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต. ซึ่งเห็นว่า คดีนี้ ควรจะยกฟ้อง เพราะ 1.ไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน 2.พรรคการเมืองอื่นก็กู้เงิน 3.เงินกู้ไม่ใช่รายได้และไม่ใช่เงินบริจาค

เช่นเดียวกันกับการกำหนดวันอ่านคำวินิจฉัย ก่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพียงแค่ไม่กี่วัน ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัยเช่นกัน

เมื่อถามว่า หากคำวินิจฉัย มีผลออกมาเป็นลบ ในส่วนของการทำงานนอกสภานั้นจะเป็นอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า สำหรับตน การทำงานการเมือง ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็น ส.ส. แต่มันหมายถึงการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชน เข้าใจจุดยืนทางการเมืองของเรา ซึ่งจุดยืนของ อนค. คือการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในอนาคตต้องไม่มีรัฐประหารอีก รวมถึงความเท่าเทียมของคนทุกคนในประเทศไทย และความก้าวหน้าของประเทศ ดังนั้นการเป็น หรือ ไม่เป็น ส.ส. ก็จะรณรงค์เรื่องนี้ต่อทั่วประเทศ

“ในส่วนของ ส.ส.อนาคตใหม่นั้น ผมเชื่อว่า พวกเขาเหล่านี้มีความหนักแน่นมากกว่าที่หลายคนคิด ผมมีความภูมิใจในตัว ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้น เหตุการณ์ผึ้งแตกรักคงจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อมไว้สำหรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ จะเกิดเราก็ไม่หวั่น ขอให้ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่อย่าหวั่นไหว พร้อมเดินด้วยกันต่อไป”

เมื่อถามถึงความมั่นใจในคดีเงินกู้ นายธนาธ กล่าวว่า มั่นใจ 100% คดีนี้เรามีเอกสารหลุดจาก กกต.ที่ยืนยันแล้วว่า คดีนี้ควรยกฟ้องไปตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ นอกจากนี้ในวันที่ 21 ก.พ. คาดว่าเราจะฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่พรรคอนาคตใหม่เหมือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Charnvit Kasetsiri นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ก็โพสต์หัวข้อ ที่น่าสนใจว่า “จะรอดหรือ ???”

โดยระบุว่า “The problems of this country
is the military-bureaucratic polity

ปัญหาของระบอบประชาธิปไตย ในประเทศไทยของเรานี้
มาจากการที่เสนาอำมาตย์ และเครือข่ายติ่ง ของรัฐข้าราชการมีอำนาจล้นฟ้า

พวกอำมาตย์กับเสนา และเครือข่ายติ่ง ในรัฐข้าราชการไทย ได้ยุบพรรคการเมืองมาแล้ว 375 พรรค

พวกอำมาตย์กับเสนา และเครือข่ายติ่ง ในรัฐข้าราชการไทย ได้ทำรัฐประหารมาแล้วกว่า 10 ครั้ง

พวกอำมาตย์กับเสนา และเครือข่ายติ่ง ในรัฐข้าราชการไทย ได้ฉีกและเขียนรัฐธรรมนูญมาแล้วจนมีฉบับที่ 20

หมายเหตุ
ข้อมูลการยุบพรรคการเมืองนี้ มาจาก ดร.ธำรงศักดิ์ฯ
ที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐข้าราชการไทย ของเสนาอำมาตย์ และติ่งเครือข่าย ได้ทำการยุบพรรคการเมือง มากว่ากึ่งศตวรรษที่ผ่านมา 375 พรรค

ครั้งแรกปี 2476 คือพรรคสมาคมคณะราษฎร

ครั้งหลังสุดปี 2562 ในรอบเวลา 87 ปี
คือ พรรคไทยรักษาชาติ

ดังนั้น ตราบใดที่รัฐข้าราชการของอำมาตย์กับเสนา และติ่งเครือข่าย ยังคงมีอำนาจล้นฟ้า เหนือกว่าประชาชน

ตราบนั้น การยุบพรรคการเมือง ก็จะดำเนินต่อไป
รวมทั้ง การที่จะมีรัฐประหารซ้ำอีก และมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก

เราจะหยุดวัฏจักรแห่งความชั่วร้ายนี้ ได้หรือไม่ ???
The answer my friends....???”

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ซึ่งคงต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้ายก่อนตัดสิน

ดังนั้น การมองข้ามช็อต ของ “ดร.นิว” ก็ยังต้องลุ้นเช่นกัน ว่าจะยังคงมีพรรคอนาคตใหม่ เป็นก้างชิ้นโต ในการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องได้ตามเจตนารมณ์ในเร็ววันหรือไม่ หรือยังต้องต่อสู้ฟาดฟันกันต่อในทางหลักการและวิชาการ

แต่ที่น่าสนใจ คือ ประชาธิปไตยที่ถูกต้องของ ดร.นิว กับ ประชาธิปไตย ของ “ธนาธร-ปิยบุตร” ที่ถูกโจมตีว่าจอมปลอมนั้น เมื่อไหร่จะมีข้อพิสูจน์???

เพราะถ้าเป็นอย่าง ดร.นิวว่า ยิ่งช้า ก็ยิ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรง และอนาธิปไตย อย่างนี้ไม่เป็นผลดีต่อประชาชนไทยและประเทศไทยแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น