หัวหน้าอนาคตใหม่ ลั่นเริ่มครั้งที่ 1 ชุมนุมแสดงตนไม่พอใจระบอบ คสช. ยันไม่ได้คิดอิงเทศกาลดนตรีเรียกคน ซัดพวกยึดอำนาจจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง บอกพร้อมสู้ต่อทุกรูปแบบไม่สนคำวินิจฉัยศาล ชูม็อบเป็นสิทธิ คุมได้ อ้างอาจมีพวกจัดตั้งให้มาเผชิญหน้า เป็นข้ออ้างสืบทอดอำนาจ วอนสาวกช่วยกันดู รับ ส.ส.คุยอนาคตการเมืองแต่ยังไม่ขอพูด ด้าน “วรัญชัย” โผล่มอบกล้วย-งูเห่าปลอมให้กำลังใจ
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการประกาศชุมนุมในหัวข้อเมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเองในวันนี้ ที่บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามและสถานีสนามกีฬา สี่แยกปทุมวันว่า เป็นการจัดกิจกรรมที่เชิญชวนประชาชนทุกคนที่ไม่พอใจต่อระบอบการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาแสดงตนแสดงพลังด้วยกันว่าให้เห็นหัวประชาชนบ้าง พวกเราประชาชนเป็นผู้ทรงสิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตย พวกเขาจะทำงานการเมืองโดยไม่เห็นหัวประชาชนต่อไปไม่ได้ ซึ่งการแสดงพลังร่วมกันก็จะมีลักษณะแฟลชม็อบ ประมาณ 1 ชม.ที่สกายวอล์ก หน้าห้างสรรพสินค้า MBK
เมื่อถามถึงข้อสังเกตที่มาจัดชุมนุมใกล้สถานที่จัดเทศกาลดนตรี จะเป็นการอาศัยช่วงจังหวะนั้นจัดกิจกรรรมด้วยหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า เราไม่ได้คิดขนาดนั้น เราคิดว่ามันเป็นสถานที่สาธารณะที่มีความเหมาะสม ประชาชนเดินทางได้สะดวก
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นการเริ่มต้นความขัดแย้งรอบใหม่อาจเป็นเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียว นายธนาธรกล่าวว่า ตนเรียนว่า คนที่นำการเมืองมาสู่จุดนี้ ที่เป็นต้นตอของความขัดแย้งไม่ใช่ประชาชนแต่เป็นกลุ่มคนที่ยึดอำนาจมาตั้งแต่ปี 2557 และไม่ยอมที่จะให้ระบบรัฐสภาเดินหน้าทำงานได้อย่างปกติ ดังนั้นคนที่ทำสังคมให้เกิดความขัดแย้งมากขณะนี้ก็คือกลุ่มคนที่สืบทอดอำนาจจาก คสช.
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการนำเรื่องส่วนตัวมาชุมนุมหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของอนาคตใหม่ เราเชิญชวนประชาชนที่ไม่ยอมทนอีกต่อไปแล้วจากระบอบการสืบทอดอำนาจของ คสช.มาแสดงตนแสดงพลังร่วมกัน เป็นเรื่องของอนาคตของสังคม
ในขณะที่เรื่องคดีความ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า คงไม่มีอะไรหรอกเพราะว่าปากกาอยู่ที่เขาอำนาจในการวินิจฉัยอยู่ที่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่พวกเรา ส่วนการเตรียมพร้อมหากเกิดอะไรกับพรรคอนาคต ใหม่นั้น เราสู้ต่อ พวกเขาไม่ให้ตนอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ตนก็ขอกลับไปอยู่กับประชาชน ตนขอใช้เวลาตรงนี้เปิดพื้นที่ทางการเมืองใหม่ๆ ต่อสู้ร่วมกันกับประชาชนจนกว่าจะได้ประชาธิปไตย จะได้ระบบนิติรัฐ นิติธรรมกลับคืนมา
เมื่อถามว่ามีการเตรียมพรรคสำรองหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า เราสู้ต่อทุกรูปแบบ ทั้งในสภาฯ และพื้นที่ทางการเมืองอื่นๆ
“ก็เดี๋ยวลองดู เรายังไม่รู้เลยว่าตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยังไง ดังนั้น เรื่องการถูกยุบพรรคหรือไม่ถูกยุบ ก็เรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เราไม่มีอำนาจในการไปมีอิทธิพลต่อคำวินิจฉัยของศาล ดังนั้น ศาลท่านจะตัดสินใจยังไงก็ว่าไป พวกเราพร้อมทุกกรณี พร้อมสู้ต่อทุกรูปแบบของการวินิจฉัย” นายธนาธรกล่าว
เมื่อถามว่า การต่อสู้เรากังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า การชุมนุมแสดงจุดยืนทางการเมืองในที่สาธารณะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ เมื่อถามต่อว่า มั่นใจว่าจะควบคุมมวลชนได้หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ได้สิ เดี๋ยววันนี้ก็ดู เป็นเรื่องของการชุมนุมแสดงตัวอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา อย่างสร้างสรรค์และสันติ ตนยืนยัน
“ต้องเรียนว่าอาจจะมีกลุ่มคนที่ถูกจัดตั้งมาเพื่อทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ผมต้องเรียนว่าความเกลียดกลัวและการเผชิญหน้ากันเป็นเงื่อนไขของการดำรงอยู่ของเผด็จการ ถ้าประชาชนไม่เกลียดกลัวกันเองไม่ขัดแย้งกันเอง พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะดำรงอยู่ ความเกลียดกลัวที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เป็นความเกลียดกลัวเกลียดชังกันเองที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เป็นการเกลียดชังที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างจงใจโดยระบอบ คสช. เพื่อให้ประชาชนเผชิญหน้ากัน เพื่อที่จะได้ใช้ข้ออ้างนี้ในการสืบทอดอำนาจ” นายธนาธรกล่าว
เมื่อถามถึงการป้องกันมวลชนจัดตั้ง นายธนาธรกล่าวว่า ก็ให้ประชาชนที่ร่วมไปแสดงตนช่วยกันสอดส่องดูแลอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น อย่าไปหลงเชื่อ เขาพูดเสมอว่าการชุมนุมคือความวุ่นวาย ความรุนแรง ไม่ใช่นะ การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเป็นการแสดงจุดยืนทางการเมือง มีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่สำคัญมากในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามถึงการจัดเวทีเสวนาต่อต้านลัทธิชังชาติของ นพ.วรงค์ เดชวิกรม สมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายธนาธรกล่าวว่า ก็อย่างที่บอก กลุ่มคนที่ตั้งองค์กรใดๆ ขึ้นมาเพื่อที่จะสร้างความเกลียดชังกันเพิ่มขึ้นให้กับสังคม สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นอาหารอันโอชะของระบอบรัฐประหาร สิ่งที่เกิดขึ้นคือความพยายามที่จะเอาอดีตมาฉุดรั้งอนาคต เอาอดีตมาฉุดรั้งอนาคตไม่ได้หรอก
ส่วนเป้าหมายของการชุมนุมวันนี้ นายธนาธรกล่าวว่า เป็นการแสดงตน แสดงความไม่พอใจต่อระบอบการสืบทอดอำนาจของ คสช. เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้เหมือนเป็นยกแรก นายธนาธรกล่าวว่า ครั้งที่ 1
เมื่อถามถึงการจัดตั้งพรรคสำรองหรือหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายธนาธรหัวเราะ พร้อมกล่าวว่าพรรคยังไม่โดนยุบนะ ไม่มีการคิดว่าใครเป็นหัวหน้า ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ส่วนการต่อสู้ในชั้นศาลที่มีการตั้งข้อสังเกตอาจจะเหมือนกับพรรคไทยรักษาชาตินั้น นายธนาธรกล่าวว่า ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้เลย ปล่อยให้ศาลทำหน้าที่ เราพร้อมสู้ต่อทุกกรณี คำวินิจฉัยออกมาแบบไหนพร้อมสู้ต่อทุกรูปแบบ
เมื่อถามว่า ในส่วนของ ส.ส.พรรคได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ก็มีนะแต่ขอสงวนสิทธิ์ยังไม่พูดถึงเรื่องนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง พรรคตั้งขึ้นมาด้วยความไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรม ดังนั้นไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเราจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ประชาธิปไตย เพื่อเอาอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากฉันทามติของประชาชนออกไปให้ได้ นั่นก็คือเจตจำนงของเรา หยุดยั้งการสืบทอดระบอบ คสช.ให้ได้
เมื่อถามว่า แต่การต่อสู้ผ่านการชุมนุมจะไม่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ นายธนาธรกล่าวว่า ที่ผ่านมาความขัดแย้งมันจบไปแล้วเหรอ มันไม่จบนะ มันจะไม่จบจนกว่าเราจะได้ประชาธิปไตย กลับคืนมา จนกว่าเราจะได้ข้อตกลงระบบระเบียบว่าเราจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไรกลับคืนมา ความขัดแย้งยังไม่มีวันจบ ใครที่คิดว่าที่ผ่านมา 5 ปีคือความสงบไม่ใช่นะ 5 ปีที่ผ่านมาคือการกดขี่ ความขัดแย้งไม่ได้หมดไป จนกว่าเราจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน ว่าฝ่ายบริหารรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการองค์กรอิสระ และภาคประชาชน เอ็นจีโอ ควรจะมีอำนาจเท่าไหร่ เราจะแบ่งสรรอำนาจให้ทุกฝ่ายยอมรับภายใต้กติการเดียวกันได้อย่างไร ถ้ายังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ ไม่มีทางยุติความขัดแย้งได้ ดังนั้นมีทางเดียว ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนผู้ทรงอำนาจในการร่างฯ เข้ามามีส่วนร่วม ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทุกฝ่ายเคารพข้อตกลงร่วมกัน นั่นเป็นทางออกเดียวของสังคมไทยที่จะนำไปสู่สันติสุข สังคมที่ไม่มีความขัดแย้ง นี่เป็นทางออกทางเดียวที่เหลืออยู่
โดยนายธนาธรได้เดินทางมาร่วมเสวนาพรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดโดยคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ร่วมกับหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอีกหลายพรรค ขณะที่ก่อนการให้สัมภาษณ์ กลุ่มพลังประชาธิปไตย นำโดยนายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมมอบกล้วยและงูเห่าปลอมเป็นสัญลักษณ์