xs
xsm
sm
md
lg

มีผู้กำกับ! “ปิยบุตร” แฉ “ยุบส้มหวาน” ต้องการปิดฉากพวกตน ตอกย้ำ กกต.-ศาล รธน.มิชอบ-ส่อพิรุธ?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ส้มหวาน” ขานรับ “ปิยบุตร” เชื่อมีผู้กำกับคดีเงินกู้ 191.2 ล้าน ระบุ กกต.ฟ้องมิชอบ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ยอมไต่สวน “เอกสารลับ กกต.-พยานบุคคล” ทั้งนัดฟังคำวินิจฉัย ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียง 3 วัน ส่อหวังผลทางการเมือง

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 ก.พ. 63) เฟซบุ๊กพรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party โพสต์หัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญไม่ยอมเปิดไต่สวนเอกสารลับ กกต.ทำข้ามขั้นตอน-ไม่ไต่สวนพยานบุคคลเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ลงความเห็นว่าอนาคตใหม่ไม่ผิด แถมนัดอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียง 3 วัน - ปิยบุตรเย้ยผู้กำกับให้ยุบพรรคจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ทุกข้อ - ลั่นแกนนำ-ส.ส.จัดทัพพร้อมแล้วเดินหน้าสู้ต่อใน-นอกสภา”

โดยระบุว่า “ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ วันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 63 โดยจะไม่เปิดให้มีการไต่สวนตามคำร้องของพรรคอนาคตใหม่นั้น

ปิยบุตรกล่าวว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเมื่อวานนี้ไม่อนุญาตให้มีการไต่สวนพยานในคดีที่พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และให้ส่งเอกสารบันทึกถ้อยคำพยานบุคคล 17 รายแทน

พวกเราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ เนื่องจากในกรณีนี้ความปรากฎขึ้นมาแล้วว่า มีเอกสารของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลุดออกมา ยืนยันว่า กกต.ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและระเบียบของ กกต.เอง เนื่องจาก กกต.ได้ส่งเรื่องไปที่อนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนถึง 2 คณะ และมีการยกคำร้องทั้ง 2 คณะ ตามกฎหมายเรื่องต้องยุติลงทันที แต่ กกต.กลับยังเดินหน้ากระบวนพิจารณาต่อไป

“นอกจากนี้ กกต.ยังอ้างฐานความผิด คือ การได้เงินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อขอให้มีการยุบพรรค ทั้งๆ ที่ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ไม่เคยเปิดโอกาสให้พรรคได้ต่อสู้คดี

แต่อย่างไร เราตั้งใจว่าจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดกระบวนการไต่สวน เพื่อให้มีการเรียกเอาเอกสารชิ้นนี้ออกมาจาก กกต. และนำมาพิสูจน์กันในศาล ซึ่ง กกต.ก็ยังไม่ยอมรับชัดแจ้งว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ไม่เคยบอกว่ากระบวนพิจารณาทำอย่างไร มีการข้ามขั้นตอนหรือไม่ เราจึงต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดกระบวนการไต่สวน เพื่อเรียกเอกสารชิ้นนี้มาดูกัน แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดโอกาสนี้ไป”

ปิยบุตรกล่าวต่ออีกว่า ในพยานบุคคล 17 รายที่พรรคอนาคตใหม่ขอให้มีการไต่สวนนั้น หลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต.เองที่มีความเห็นว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิด สามารถกู้เงินได้ หลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ยกคำร้องว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิด เราจึงต้องการให้พยานบุคคลเหล่านี้มาให้การในศาล จึงเป็นที่น่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดโอกาสให้มีการสู้กันในศาล

นอกจากนี้ หากดูตามจังหวะเวลาแล้วจะเห็นได้ว่า เมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรมีดำรินัดพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคร่วมรัฐบาลมาตกลงกันว่าเราจะอภิปรายไม่ไว้วางใจเริ่มต้นในวันไหน พรรคฝ่ายค้านเสนอไปว่า ให้เริ่มวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในช่วงบ่าย ฝ่ายรัฐบาลตอบกลับมาว่าพร้อม ทำให้การกำหนดวันอภิปรายมีความชัดเจนแล้วว่าจะเริ่มต้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

แต่ในเวลาช่วงเย็นวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญก็มีจดหมายข่าวออกมา ซึ่งตารางเวลาที่ตนพูดมาทั้งหมดนี้ทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนจำนวนมากวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่า พรรคอนาคตใหม่มีโอกาสถูกยุบก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่มีชื่อพรรคอนาคตใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร จะทำให้ ส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิและอดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้ ส.ส.บางส่วนย้ายไปสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล ทำให้เสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายไป ทำให้สภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำหมดไป จะทำให้รัฐมนตรีทั้ง 6 รอดพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไปได้

“แต่ดังที่ผมย้ำไปแล้วว่า ภาพยนตร์ที่ชื่อยุบพรรคดำเนินการมาหลายครั้งในรอบ 13 ปีที่ผ่านมา ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการใช้การยุบพรรคเพื่อต้องการดึง ส.ส. ตัดสินแกนนำไม่ให้มีบทบาททางการเมือง ทำลายอุดมการณ์ความคิดของพรรคนั้นๆ ไม่ให้เขาได้เติบโตต่อไป และล่าสุดตามที่พี่น้องสื่อมวลชนได้ตั้งข้อสังเกตคือต้องการไม่ให้พวกเราอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเรารู้ว่าวัตถุประสงค์ของผู้กำกับภาพยนตร์เป็นแบบนี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือทำให้วัตถุประสงค์เหล่านี้ไม่สำเร็จให้ได้” ปิยบุตรกล่าว

ปิยบุตรกล่าวต่อว่า เรายังคงเชื่อมั่นในความยุติธรรม พวกเราพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า จะทำให้วัตถุประสงค์ของการยุบพรรคในครั้งนี้ไม่สำเร็จให้จงได้ เรามั่นใจว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่จะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรก และแม้ว่าพรรคจะถูกยุบ ส.ส.ของพรรคก็จะคงเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรีอย่างเอางานเอาการแข็งขันต่อไป

การอภิปรายครั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ได้เตรียมข้อมูลที่ไม่เคยปรากฏในสื่อใดมาก่อน มีประเด็นที่หนักและชี้ขาดสำคัญ ที่จะทำให้รัฐบาลเสียความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง เราขอยืนยันว่าแม้จะยุบพรรคหรือไม่ เราจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายในสภาอย่างแน่นอน และถ้าหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริงๆ ธนาธรและปิยบุตรจะเดินสายอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คนนอกสภา เพื่อประสานกับเพื่อน ส.ส.ของเราในสภาต่อไป

“ถ้าไม่ได้เป็น ส.ส. เราก็ทำงานการเมืองต่อไป ถ้าเราหยุดก็เท่ากับเรากำลังเข้าทางผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องยุบพรรคนี้ แต่เรายืนยันว่าเราไม่หยุด เรายังคงมั่นใจในเพื่อน ส.ส. เราว่าเดินหน้าสู้ต่อแน่นอน และพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่เป็นแค่ร่างกายในรูปของพรรคการเมืองเท่านั้น แต่เรากำลังทำให้พรรคอนาคตใหม่เป็นจิตวิญญาณ เป็นอุดมการณ์ เป็นความคิดด้วย แม้ร่างกายจะตายไป แต่จิตวิญญาณ อุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่จะยังคงอยู่ต่อไป”
#อนาคตใหม่

ภาพจากเฟซบุ๊ก พรรคอนาคตใหม่
แต่อย่างไรก็ตาม กกต.พยายามที่จะอธิบายปัญหาระหว่าง กกต.กับพรรคอนาคตใหม่ อย่างน้อย สองครั้ง เพื่อให้สาธารณชน เข้าใจข้อมูลทั้งสองด้าน

ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 62 อันเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ ยื้อส่งเอกสาร จนเลยกำหนด ก่อนจะโจมตีว่าไม่ยอมขยายเวลา

กกต.ชี้แจงว่า ตามที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กกต.พิจารณาการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่เป็นไปโดยมีธงทางการเมือง หรือมีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่

เนื่องจากมีเอกสารความเห็นของบุคคลระดับสูงของสำนักงาน กกต.ได้ชี้นำในสำนวนไว้แล้วว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยความเห็นนี้มีมาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 62 แต่ กกต.มาเรียกพยานหลักฐานในเดือนตุลาคม 2562 นั้น

ขอเรียนว่า การแถลงข่าวข้างต้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง ในการนี้สำนักงาน กกต.ขอให้ข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีขั้นตอนการพิจารณาตามกฎหมายมาเป็นลำดับ ดังนี้

ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 เลขาธิการ กกต.ต้องมีความเห็นในสำนวนการสืบสวนเพื่อเสนอความเห็นต่อ กกต. ซึ่งกรณีนี้เลขาธิการ กกต.ได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 62 ตามที่ปรากฏเป็นข่าวข้างต้น โดยการเสนอความเห็นในสำนวนเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบมิใช่การชี้นำในสำนวนการสืบสวนแต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 62 เลขาธิการ กกต.ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน อยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหา หรือข้อโต้แย้งเพื่อพิจารณาและมีความเห็นเสนอต่อ กกต.ตามระเบียบต่อไป

ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 62 และวันที่ 23 ต.ค. 62 ประธาน กกต.ได้ให้ข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบและมิได้มีการเร่งรัดแต่อย่างใด โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้ขอเอกสารจากพรรคอนาคตใหม่เพื่อประกอบการพิจารณา แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารตามที่ขอ คณะอนุกรรมการฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่ เพื่อจัดทำความเห็นเสนอต่อกกต.พิจารณาตามระเบียบต่อไป

ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาและเสนอความเห็นต่อ กกต.แล้ว กกต.ได้มีมติเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. 62 ให้หมายเรียกขอเอกสารที่คณะอนุกรรมการฯ ขอจากพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคอนาคตใหม่ได้จัดส่งเอกสารที่ขอให้บางส่วน และขอขยายเวลาการจัดส่งเอกสารที่ยังไม่ได้จัดส่งออกไปอีก 120 วัน

กกต.ได้มีมติเมื่อวันอังคารที่ 26 พ.ย. 62 ให้หมายเรียกขอเอกสารที่พรรคอนาคตใหม่ยังไม่ได้จัดส่งอีกครั้ง โดยให้พรรคอนาคตใหม่จัดส่งเอกสารภายในวันที่ 2 ธ.ค. 62 หากพรรคอนาคตใหม่ไม่จัดส่งเอกสารภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ถือว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ติดใจที่จะส่งเอกสารตามที่กกต.ร้องขอ และจะพิจารณาเอกสารเท่าที่มีอยู่

ดังนั้น การดำเนินการของ กกต.เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกขั้นตอน และให้โอกาสผู้ที่เกี่ยวข้องตามควรแก่กรณี ซึ่ง กกต.ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้มาเป็นลำดับปรากฏตามเอกสารแนบนี้ โดย กกต.มิได้มีความเห็นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 62 ตามที่มีการกล่าวอ้าง และไม่ได้มีเหตุจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

จากนั้น กกต.ออกมาชี้แจงอีกครั้งกรณีพรรคอนาคตใหม่เผยแพร่เอกสารลับ อ้างว่าเป็นรายงานการสืบสวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงาน กกต.ชุดที่มีนายเกรียงศักดิ์ ม่วงอ่อน เป็นประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน

กรณีมีการกล่าวหาว่า พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ วงเงิน 191.2 ล้านบาท โดยมิชอบ พร้อมกับรายละเอียดการไต่สวนพยานหลายราย รวมถึงนายธนาธร นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้อง โดยท้ายที่สุดคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงาน กกต. มีความเห็นไปยังคณะกรรมการ กกต. ว่า ควรยกคำร้องกรณีดังกล่าวนั้น

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 63 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการ กกต. เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า

เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายของสำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ อย่างไร และจะมีการเผยแพร่เอกสารชี้แจงในภายหลัง อย่างไรก็ดีตนยังไม่ได้ดูรายละเอียดในเอกสารส่วนนี้

เมื่อถามว่า ความเห็นของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงาน กกต.เห็นควรว่ายกคำร้อง ทำไมที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.จึงมีความเห็นควรส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ประเด็นอยู่ที่ข้อกฎหมายที่ยังไม่ตรงกัน และเรื่องทั้งหมดเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ กกต. ที่จะวินิจฉัยออกมาในแนวทางใด ซึ่งโดยสรุปคือ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ม.ค. 63 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีนี้ ระบุว่า การแถลงข่าวของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) นั้น ยังคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงขอชี้แจงและให้ข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับกรณีนี้ 2 ประเด็น

1. การดำเนินคดีอาญา เป็นกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องกล่าวหาว่า พรรคอนาคตใหม่ทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายธนาธร คณะกรรมการ กกต.ได้ดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดขั้นตอนการพิจารณาการสืบสวนจำนวน 4 ขั้นตอน ได้แก่

1.1 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน 1.2 เลขาธิการ กกต. 1.3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง 1.4 คณะกรรมการ กกต. โดยขั้นตอน 1.1-1.3 เป็นการเสนอความเห็นเพื่อให้คณะกรรมการ กกต. พิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งความเห็นในแต่ละขั้นตอนเป็นอิสระต่อกัน และไม่ผูกพันคณะกรรมการ กกต. ในการพิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาด สำหรับสำนวนการสืบสวนนี้ เสร็จสิ้นการพิจารณาในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ กกต.

2. กรณีการดำเนินการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยก่อนที่คณะกรรมการ กกต.จะได้วินิจฉัยสำนวนการสืบสวนตามข้อ 1. เพื่อให้การดำเนินการต่อกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย คณะกรรมการ กกต. มีมติให้นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณา และดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

จึงเป็นการดำเนินการกรณีความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองดำเนินการตามมาตรา 93 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ว่า พรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืน มาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ จึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ

สำหรับสำนวนการยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า พรรคอนาคตใหม่ทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายธนาธร ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมือง นายทะเบียนพรรคการเมืองจึงได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ กกต. ว่าพรรคอนาคตใหม่กระทำการอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมือง และ กกต.มีมติเห็นชอบให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่

การดำเนินการเกี่ยวกับทั้ง 2 กรณีข้างต้น คณะกรรมการ กกต.ได้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ

อนึ่ง สำนักงาน กกต.อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนำเอกสารสำนวนการสืบสวนดังกล่าวข้างต้นไปเปิดเผย และพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลที่นำเอกสารราชการซึ่งเป็นชั้นความลับไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยไม่มีอำนาจต่อไป...

ดังนั้น สิ่งที่สาธารณชนจะต้องใช้วิจารณญาณในการติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ก็คือ ความจริงทั้งหมด ที่มิใช่ความจริงเพียงครึ่งเดียว ที่เหลือเป็นเกมการเมือง “ดิสเครดิต” องค์กรยุติธรรม เพื่อบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ ชี้นำทางสังคม ทำให้เห็นว่า องค์กรยุติธรรมมีคนบงการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ และท้ายที่สุดก็จะโยนความผิด ว่า ถูกกลั่นแกล้งรังแกจากอำนาจเผด็จการ ทั้งที่เป็นความผิดของตนอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 ก.พ. 63 ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร เชื่อว่าทุกคนยอมรับในคำวินิจฉัยอย่างแน่นอน ส่วนจะมีคนอ้างถูกกลั่นแกล้งรังแกจากเผด็จการ ก็ให้นึกเสียว่า แผ่นเสียงมันตกร่องมานานแล้ว จนคนไทยเริ่มชาชินแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น