“อัษฎางค์ ยมนาค” สุดเซ็งรัฐบาลไร้น้ำยาปราบพวกปล่อย “ข่าวเท็จ” ไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะทีวีช่องหนึ่งลอยหน้าลอยตาบิดเบือนข้อเท็จจริง หมั่นไส้ “ปล่อยเขาตีให้ตายคามือไปเถอะ”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (30 ม.ค. 63) เฟซบุ๊ก “อัษฎางค์ ยมนาค” ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุว่า
“สื่อทีวีช่องหนึ่ง ทำไมกล้าปล่อยข่าวเท็จ แถมเสี้ยมประชาชนด้วยข่าวเท็จว่ารัฐบาลออกข่าวว่าดูแลนักท่องเที่ยวจีนอย่างดี แล้วคนไทยที่ติดอยู่ในจีนทำไมไม่เหลียวแล ทำไมปล่อยให้ผจญภัยอยู่ในจีน ทำไมไม่เอากลับมาดูแลที่เมืองไทย
ทั้งๆ ที่เป็นสำนักข่าว ย่อมรู้ข่าวดีกว่าชาวบ้าน ว่ารัฐบาลเตรียมการแล้ว แต่ต้องรอรัฐบาลจีนอนุมัติ เหมือนชาติต่างๆ ทั่วโลกที่ต้องรอให้จีนอนุมัติ ถึงจะเข้าไปเอาคนกลับบ้านได้ รัฐบาลปล่อยสื่อ ระดับสื่อทีวี ออกข่าวเท็จให้ร้ายรัฐบาล และเสี้ยมให้ประชาชนโกรธรัฐบาลอยู่ได้ยังไง
ถ้ารัฐบาลยังเป็นคุณเฉย ก็ปล่อยให้เขาตีให้ตายคามือไปเถอะ เราเป็นชาวบ้านธรรมดา ช่วยรัฐบาลชี้แจงแล้ว แต่ทำได้ไม่เท่ากับที่รัฐบาลจะทำเองหรอก
สื่อชั่วกับนักข่าวชั่วๆ ลอยหน้าลอยตาปล่อยข่าวเท็จทำลายรัฐบาลได้ทั่วเมืองแบบนี้ เพราะเขารู้ว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยาจะจัดการกับพวกเขาได้
เหนื่อยใจกับคุณเฉยรัฐบาลจริงๆ”
ขณะเดียวกัน (30 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก “พงศกร รอดชมพู” ของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์ข้อความระบุว่า
“จะไม่ขอพูดแรงๆ สักครั้งนะครับ คนอื่นพูดมาเยอะแล้วทำไมต้องรีบรับคนไทยกลับมา? เพราะไทยเรายังไม่ระบาดมาก มีระบบการแพทย์ดี ไม่แออัด และที่สำคัญไม่ถูกทิ้งให้มีความเสี่ยงหากติดโรคอยู่ในต่างแดนที่คนไข้เขาล้นแล้ว รับมาแล้วไม่ถึง 100 คน หรือที่อื่นมาร่วมก็คงไม่เกิน 200 คน เหมา รพ.รัฐขนาดใหญ่สักแห่งที่พื้นที่กว้างขวาง ลมถ่ายเทดี อากาศร้อนสักหน่อย จัดให้เป็นเขตกักกัน
ใช้เวลาแค่ 7-14 วัน ตามวงจรชีวิตไวรัส ผ่านไปแล้วไวรัสก็ตายเอง ถ้าป่วยก็รักษาตามอาการ ตรงนี้การแพทย์ของไทยจึงสำคัญที่จะประคองให้ผ่านพ้นช่วงอันตรายไปได้ พ้น 14 วันก็ปลอดภัยแล้ว ปิดงานได้ง่ายๆแบบนี้ ไม่ต้องใช้ความฉลาดอะไรมากครับ แค่สนใจชีวิตของประชาชนเจ้าของเงินภาษีที่จับจ่ายฟุ่มเฟือยกันเท่านั้น
ป.ล. ถ้ายังคิดไม่ออกว่าเครื่องบินทหารหรือเครื่องบินพาณิชย์เหมาลำอะไรดีกว่ากันก็ใช้โยนหัว โยนก้อยเอานะครับ เผื่อจะกล้าตัดสินใจบ้าง”
และวันนี้เช่นกัน (30 ม.ค. 63) เฟซบุ๊ก “จุลเจิม ยุคล” ของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความหลังมีกระแสข่าวส.ส. นักการเมืองใช้การระบาดของไวรัสโคโรนา มาโจมตีกันเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยใช้ความเห็นส่วนตัวประกอบกับข่าวเท็จมาโจมตีกันทางการเมืองว่า
“โรคระบาดแม้จะน่ากลัว แต่นักการเมืองตีไข่ใส่สีน่าเกลียดน่ากลัวกว่า.”
อย่างไรก็ตาม ถ้าย้อนไปเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 จะเข้าใจถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่า มีการนำข่าวเท็จมาใช้อย่างไร และรัฐบาลแก้ข่าวแค่ไหน ชัดเจนหรือไม่
เริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนักศึกษาไทยในอู่ฮั่นที่ต้องการเดินทางกลับประเทศว่า ล่าสุดได้รวบรวมชื่อไว้แล้วกว่า 60 คน แต่จีนยังไม่อนุญาตให้นำเครื่องบินเข้าประเทศ ดังนั้นเมื่อพร้อมก็จะรับกลับมาทันที หากได้รับการอนุญาตจากทางการจีน
วันที่ 28 ม.ค. 63 ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เหน็บรัฐบาลว่า ไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่ารัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้เครื่องบินของประเทศอื่นบินไปรับพลเมืองของตัวเองออกจากอู่ฮั่นไง แล้วทำไมวันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ถึงสามารถส่งเครื่องบินไปรับเจ้าหน้าที่การทูตและประชาชนของเขากลับประเทศได้
“ถ้าสมมติลูกหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ ตกค้างอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยโรคระบาดบ้างแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จะยังนั่งไขว่ห้างใจเย็นได้แบบนี้ไหม” รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 63 ทหารเรือที่ไปปฏิบัติราชการอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น (ตรวจการสร้างเรือดำน้ำ) ทั้งหมด 20 คน ได้ทยอยเดินทางกลับประเทศไทยครบหมดแล้ว
วันที่ 28 ม.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงข้อวิจารณ์ที่ว่า เพราะเหตุใดทหารเดินทางกลับได้แต่นักศึกษากลับไม่ได้ว่า นี่เป็นคนละเรื่องกัน เชื่อว่ามีการคัดกรอง และตรวจเจ้าหน้าที่ทหารแล้วว่าไม่มีเชื้อจึงอนุญาตให้เดินทางกลับ ซึ่งเป็นการเดินทางกลับประเทศโดยเครื่องบินพาณิชย์จากเมืองอื่นไม่ใช่การส่งเครื่องบินทหารเข้าไปรับ
วันที่ 28 ม.ค. 63 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า รัฐบาลคงต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นในการสร้างความเชื่อมั่น เพราะแม้แต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ หรือรัฐบาลพูด ประชาชนก็ต้องตรวจสอบว่า เป็นจริงหรือไม่ เช่น กรณีบอกว่า เตรียมการไว้เป็นเดือนในการอพยพคนไทยในพื้นที่ระบาดออกมา ทั้งที่ไวรัสเพิ่งระบาดสิบกว่าวัน
“ส่วนการขออนุญาตรัฐบาลจีนยากลำบากขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมประเทศอื่นสามารถดำเนินการอพยพคนของชาติเขาออกมาได้ แต่ประเทศไทยกลับไม่สามารถดำเนินการได้ หรือการที่กระทรวงการต่างประเทศ บอกว่าดูแลคนไทยอย่างดี แต่คนไทยที่อยู่ในพื้นที่ระบาดบอกว่า ไม่ได้รับการเหลียวแล” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
กองทัพเรือได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ “กองทัพเรือ โดยโฆษกกองทัพเรือ” ว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ทางอู่ต่อเรือได้ประกาศวันหยุดตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 63 ถึง 2 ก.พ. 63 ดังนั้น ช่วงเวลาดังกล่าวจึงตรงกับการหยุดพักผ่อนของกำลังพล และมีข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสในเมืองอู่ฮั่น ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 62
กรรมการตรวจการจ้างเรือดำน้ำ กองทัพเรือ จึงขออนุญาตลาพักผ่อน โดยไม่มีใครทราบมาก่อนว่าจะมีการปิดเมือง หลังจากนั้น ทางการจีนสั่งปิดเมือง ทางกำลังพลเองก็ไม่สามารถกลับเข้าเมืองอู่ฮั่นได้ จึงขออนุมัติกองทัพเรือ เดินทางกลับ กระทั่งกลับถึงไทยครบทุกคนเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 63
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษก พรรคพลังประชารัฐ ตอบโต้ว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่แสดงความคิดเห็นออกมาเช่นนี้ เป็นการสะท้อนการทำงานการเมืองแบบเก่าที่ฉวยโอกาสในยามที่บ้านเมืองกำลังอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน...(ทั้งหมดไทยรัฐออนไลน์ 28 ม.ค. 63 อ้างว่ามีการรวบรวมข่าวจริงมานำเสนอ)
ที่สำคัญ เฟซบุ๊ก “อัษฎางค์ ยมนาค” เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 63 โพสต์ข้อความที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า
“ก่อนจะถามว่า ทำไมลุงตู่ไม่ส่งเครื่องบินไปรับคนไทย ให้ถามก่อนว่า ทำไม ส.ส.ฝ่ายค้านชอบปล่อยข่าวเท็จและทำไมผู้มีหน้าที่จัดการกับคนปล่อยข่าวเท็จ ดูเหมือนไม่จัดการอะไรเลย
............................................................................
วันที่ 28 ม.ค. 63 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่า....ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ, เกาหลีใต้, ฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่งลาวสามารถอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โรคระบาดได้ทำไมรัฐบาลลุงตู่ทำไม่ได้
วันที่ 28 ม.ค. 63 ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่ารัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้เครื่องบินของประเทศอื่นบินไปรับพลเมืองของตัวเองออกจากอู่ฮั่น ทำไมรัฐบาลสหรัฐ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส ถึงสามารถส่งเครื่องบินไปรับเจ้าหน้าที่การทูตและประชาชนกลับประเทศได้ โดยสหรัฐน่าจะเป็นประเทศแรกที่อพยพคนอเมริกัน
............................................................................
ท่านทูตนริศโรจน์ เฟื่องระบิล ให้ความรู้กับคนที่ชอบแกล้งโง่ และประชาชนที่หลงเป็นเหยื่อข่าวเสี้ยมว่า
เรื่องการส่งเครื่องบินไปรับผู้ที่ติดอยู่ในเมืองอู่ฮั่นกลับประเทศนั้น ถ้าทางการจีนไม่อนุญาตก็ไม่มีชาติใดปฏิบัติการได้
เมืองอู่ฮั่นนั้น อยู่ในเขตอธิปไตยของจีน อยู่ดีๆ จะส่งเครื่องบินไปรับโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็เท่ากับรุกล้ำอธิปไตยของเขา ทางการจีนมีสิทธิ์ยิงเครื่องบินตกได้ ใครจะรับผิดชอบ
อยู่ดีๆเขาเปิดเมืองให้ต่างประเทศมาขนคนออกไปทั้งๆที่สถานการณ์ยังคุมไม่ได้ อาจเป็นช่องทางให้โรคแพร่กระจายไปก็ได้
ทางการจีนเขาจะอนุญาตให้ชาติใดส่งเครื่องบินไปรับคนของชาติตนออกมาได้ เขาก็ต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยในภาพรวมเป็นหลักด้วย
............................................................................
ล่าสุด สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นเตรียมเครื่องบินไปรับชาวญี่ปุ่นกลับบ้าน ในเช้าวันพุธ คือวันนี้
เกาหลีใต้เตรียมเครื่องบินไปรับชาวเกาหลีระหว่างวันพฤหัสบดีถึงวันศุกร์
ส่วนออสเตรเลีย, อินเดีย เตรียมส่งเครื่องบินอพยพพลเมืองจากอู่ฮั่นกลับประเทศภายในสัปดาห์นี้
............................................................................
สรุป
ก่อนวันที่ 29 ม.ค.63 คือวันนี้ ยังไม่มีชาติใดในโลก นำเครื่องบินเข้าไปรับพลเมืองของตนกลับบ้านแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมารัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้ชาติใดนำเครื่องบินเข้าไปรับคนของตน
............................................................................
ส.ส. ควรจะเป็นผู้ทรงเกียรติ แต่ในขณะนี้ ส.ส.ฝ่ายค้านระดับแกนนำหลายคน ไม่รักษาเกียรติ แถมปล่อยข่าวเท็จ
ว่าหลายชาติได้ส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองของตนกลับบ้านแล้ว
ซึ่งการปล่อยข่าวเท็จนี้ ก็เพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อหวังทำลายภาพพจน์ของนายกฯและรัฐบาล อย่างไร้จรรยาบรรณ ไร้สติ น่ารังเกียจ
กฎหมายที่กำกับและจัดการกับข่าวเท็จในสังคม และในสื่อคอมพิวเตอร์มีเอาไว้ทำไม อยากถามกระทรวงที่กำกับดูแลเรื่องนี้ คุณไม่ดำเนินการใดๆ แปลว่าคุณละเลย ไม่ปฏิบัติหน้าที่รึเปล่า และควรได้รับโทษด้วยรึเปล่า เพราะทำให้รัฐบาลเสียหาย เท่ากับ ทำให้ชาติเสียหาย
............................................................................
สุดท้าย
............................................................................
ที่ปล่อยข่าวว่า วันนี้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ที่เกิดจลาจลในกัมพูชา ทำไมรัฐบาลทักษิณส่งเครื่องบินไปรับคนไทยกลับในทันทีทันใด
คำตอบง่ายและสั้นมาก
คือ รัฐบาลกัมพูชาอนุญาต
เพราะมันไม่ได้เป็นเรื่องของโรคระบาด แต่คราวนี้มันเป็นเรื่องของโรคระบาด ที่ต้องควบคุม และคัดกรองก่อน
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาต ชาติใดให้บินเข้าไปเอาคนของตนกลับบ้าน ทั้งสิ้น
............................................................................
ส่วนข่าวว่าทำไมทหารเรือ 20 นาย ได้เดินทางกลับมาจากประเทศจีนได้
คำตอบคือ ทหารทั้งหมดได้ผ่านการตรวจคัดกรองจากทางการจีนแล้วว่าไม่ได้มีการติดเชื้อ จึงได้เดินทางกลับมา “ก่อนที่จะสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น”
แปลให้อีกทีว่า ทหารเรือกลับมาก่อนจะมีการประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น
............................................................................
ความจริง การทำงานผิดพลาดของรัฐบาลก็มีให้จับผิดอยู่ไม่น้อย รวมทั้งการตรวจสอบการทำงานเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด และทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจ ไม่น่าจะโหนกระแสความเป็นความตายของประชาชน มาสร้างเรื่องราวโจมตีรัฐบาลอีกเลย ถ้าคิดไม่ออกว่ามีเรื่องอะไรให้ตรวจสอบ มากกว่าการสร้างเรื่องเท็จก็ลองลงพื้นที่ให้มาก ถามประชาชนให้มาก เขาเดือดร้อนอะไรกันแน่ เชื่อว่าจะมีเรื่องที่สร้างสรรค์มาเสนอรัฐบาล หรือวิจารณ์รัฐบาลได้เป็นอย่างดี หรือว่าความเดือดร้อนของชาวบ้านตาดำๆ มันไม่สำคัญและไม่สะใจเท่ากับเอาเรื่องเท็จมาขยายผล?