ผู้จัดการรายวัน 360/เอเจนซีส์ - จีนวอนประชาชนงดเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมเพิ่มมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสร้ายที่ทำให้มีคนตายเพิ่มเป็น 106 คน และผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ด้านฮูมั่นใจว่า ปักกิ่งจะควบคุมได้ "บิ๊กตู่" ตั้ง "อนุทิน" นำทีมแก้ปัญหาไวรัสอู่ฮั่น สธ.เผยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 6 ราย รวมทั้งหมดเป็น 14 ราย
ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่จะเกิดกับเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการแบนการเดินทางและการเพิ่มวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้ตลาดหุ้นตกระนาวทั่วโลก ราคาน้ำมันดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และเงินหยวนอ่อนยวบที่สุดนับจากต้นปี
สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มีที่มาจากตลาดลักลอบค้าสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปีที่แล้วนั้น ได้ระบาดทั่วแผ่นดินใหญ่และลามไปยังกว่าสิบประเทศ แม้จีนออกมาตรการจำกัดการเดินทางครั้งใหญ่ เช่น ปิดเมืองอู่ฮั่นและอีกหลายเมืองในมณฑลหูเป่ย ครอบคลุมประชากรกว่า 50 ล้านคนตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อสกัดการระบาดในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ปกติแล้วคนจีนหลายร้อยล้านคนจะออกเดินทางทั่วประเทศและต่างประเทศ
หลังจากนั้นจีนยังระงับการเดินทางไปต่างประเทศและภายในประเทศของกรุ๊ปทัวร์ จำกัดการเดินทางต่างๆ ภายในประเทศ รวมถึงรถบัสที่วิ่งรับส่งระยะทางไกล บริการรถไฟกว่า 2,000 เส้นทาง ขยายวันหยุดจนถึงวันที่ 2 เดือนหน้าเพื่อให้ประชาชนอยู่บ้าน และเลื่อนวันเปิดเรียนไม่มีกำหนด ทว่า ถึงตอนนี้ดูเหมือนมาตรการเหล่านั้นยังไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง
ล่าสุดวันอังคาร (28) มีผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่ม 26 คน เป็น 106 คน, ผู้ติดเชื้อ 4,515 คน จาก 2,835 คน และผู้สงสัยติดเชื้อ 7,000 คน ขณะที่ โจว เซียนหวัง นายกเทศมนตรีอู่ฮั่น ยอมรับว่า การจัดการวิกฤตของเมืองไม่ดีพอและส่งสัญญาณว่า ยินดีลาออก
ในวันอังคาร ทางการจีนเรียกร้องให้ประชาชนเลื่อนการเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ฮู) กล่าวระหว่างพบกับหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐของจีนว่า ฮูไม่แนะนำให้ประเทศต่างๆ อพยพพลเมืองออกจากจีน พร้อมแสดงความมั่นใจว่า จีนสามารถควบคุมและป้องกันการระบาดของไวรัสอู่ฮั่นได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ 16 คนของฮูลงความเห็นว่า สถานการณ์ในจีนยังไม่ถึงขั้นที่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ล่าสุดคือศรีลังกาและเยอรมนี รวมแล้วมี 15 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตทั้ง 106 คนอยู่ในจีน ในจำนวนนี้มีเพียง 6 คนอยู่นอกเมืองอู่ฮั่น
ขณะที่ไทยยืนยันเมื่อวันอังคารพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 6 คน รวมเป็น 14 คน ถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 2 รองจากจีน ขณะที่รัสเซียสั่งปิดพรมแดนติดกับจีนจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ และฮ่องกงระงับบริการเรือเฟอร์รีข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่ ด้านมองโกเลียห้ามรถยนต์จากจีนเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงปิดโรงเรียนและห้ามการชุมนุมสังสรรค์ขนาดใหญ่
ศรีลังกา มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ยกระดับการจำกัดวีซ่าสำหรับนักเดินทางจากจีน ขณะที่แคนาดาที่มีผู้ติดเชื้อ 2 คน และสงสัยติดเชื้อ 19 คน เตือนพลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปมณฑลหูเป่ย ส่วนอเมริกา ตุรกี และเยอรมนี เรียกร้องพลเมือง “ทบทวน” การเดินทางไปจีน
ที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เอกอัครราชทูตจีนกล่าวภายหลังเข้าพบแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นว่า รัฐบาลจีนให้ความสำคัญสูงสุดในการรับมือการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และกำลังร่วมมือกับนานาชาติอย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และอิงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์
กระนั้น ประเทศต่างๆ ยังไม่คลายความกังวลและพยายามร่างแผนอพยพพลเมืองออกจากอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย ท่ามกลางความท้าทายทั้งด้านลอจิสติกส์และระบบราชการของจีน
ญี่ปุ่นประกาศว่า จะส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับพลเมือง 200-650 คนออกจากอู่ฮั่นเช้าวันพุธ (26) รวมทั้งนำหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันไปมอบให้คนจีนและคนญี่ปุ่นที่ยังตกค้างอยู่
หากภารกิจดังกล่าวสำเร็จ ญี่ปุ่นจะถือเป็นประเทศแรกที่ส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองออกจากอู่ฮั่น ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเลื่อนการรับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลและพลเมืองออกจากเมืองดังกล่าวเป็นวันพุธ จากกำหนดเดิมวันอังคาร
"บิ๊กตู่" ตั้ง "อนุทิน" นำทีมแก้ปัญหาไวรัสอู่ฮั่น
วานนี้ (28 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงถึงการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการแก้ปัญหาทั้งระบบ และวันนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการฯ โดยให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ดูแลเรื่องนี้ และมั่นใจว่าทางการจีน จะสามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้
สำหรับประเทศไทย ก็มีประสบการณ์ในการควบคุมโรคระบาดลักษณะนี้ ทั้งซาร์ส ไข้หวัดนก และไทยก็อยู่ในลำดับที่ 6 ของโลก ถือว่าเป็นลำดับต้นๆ ของโลกจากการจัดลำดับ โดย Global health security index ในการควบคุมโรคระบาด โดยสหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ 1 อันดับ 2 สหราชอาณาจักร อันดับ 3 เนเธอร์แลนด์ อันดับ 4 ออสเตรเลีย อันดับ 5 แคนาดา แต่เราจำเป็นต้องปรับมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ความรุนแรง
เตรียมแผนพาคนไทยกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการนำคนไทยในจีนกลับ เรามีแผนรับกลับแล้ว พร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ไปช่วยคนไทยอย่างไรแล้วในตอนนี้ เราต้องเตรียมแผนจัดลำดับ และรอทางการจีนอนุญาตมาก่อน
"วันนี้ทีมแพทย์ไทย ก็ติดต่อคนไทยในเมืองอู่ฮั่น ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ เราได้ประสานสถานทูตจีนในไทย และไทยในจีนด้วยว่ามาตรการของจีน มีอย่างไร และเราจะมีมาตรการเสริมอย่างไร " นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ในทุกพื้นที่ไปแล้ว โดยสามารถติดตามสถานการณ์และคนที่อยู่ในพื้นที่ได้ ถ้าอยู่ในกลุ่มต้องสงสัยก็ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เช่น อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของโรงพยาบาล ช่วยกันดูแล หากพบผู้ต้องสงสัยก็จะต้องมีการตรวจ และเข้าสู่ระบบของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีมาตรการอยู่
พบป่วยในไทยเพิ่มอีก 6รวมเป็น14ราย
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว สถานการณ์เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ของประเทศไทยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยืนยันแล้ว เพิ่มอีก 6 ราย จากเดิม 8 ราย รวมเป็นทั้งหมด14 ราย โดยรักษาหายดี กลับบ้านแล้ว 5 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่เป็นชาวจีนทั้งหมด โดยจำนวนนี้ 5 ราย เป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อแม่ ลูกหลาน ซึ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นมณฑลหูเป่ย มีตั้งแต่อายุ 6-70 กว่าปี เป็นการติดเชื้อในครอบครัว ส่วนอีกราย มาจากหูเป่ย เช่นกัน โดยมีอาการป่วยหลังผ่านด่านแล้วจึงมาขอรับการรักษาที่ รพ. อยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร เช่นกัน ทั้งหมดเป็นการติดเชื้อจากภายนอกประเทศไทย
สำหรับผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 136 ราย เป็นการคัดกรองได้ที่สนามบิน 29 ราย มาที่รพ.เอง 107 ราย อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 55 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ รักษาอยู่ในรพ. 48 ราย
ทั้งนี้ สธ.ได้ระดมบุคลากรทางการแพทย์ 5 พันคน เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการทำหน้าที่คัดกรองเฝ้าระวัง เช่น ให้จากปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี มาช่วยที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จาก สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม มาช่วยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และได้รับความร่วมมือจากกรมแพทย์ทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ มหาวิทยาลัย พร้อมให้ความร่วมมือดูแลผู้ป่วย
สำหรับการคัดกรอง จะขยายการคัดกรองเป็นคนจีนทุกคนจากทุกเมือง โดยเตรียมเครื่องมือต่างๆ เพื่อคัดกรอง 100% และร่วมมือกับสายการบินไทยและต่างประเทศที่นำคนเข้ามา ให้มีการตรวจคัดกรองไข้ก่อนขึ้นเครื่อง หากมีไข้ก็ขอไม่ให้ขึ้นเครื่องมา ประสานสายการบินในไทย ให้ตรวจคัดกรองก่อนเดินทาง หากมีไข้ ก็ไม่ให้ขึ้นเครื่อง ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่แค่เราระแวงจีน เพราะจีนก็ระแวงเราเหมือนกัน จึงขอให้เรามีการคัดกรองด้วย นอกจากนี้ จะกระตุ้นจิตอาสาด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่มีครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยดูแลสถานที่บ้านพักประชาชน แหล่งต่างๆ เพื่อดูแลมากขึ้น
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ในกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย ที่เป็นครอบครัวเดียวกันนั้น พบว่า เป็นการเดินทางมาเที่ยวกันเอง รวมทั้งหมด 7 คน ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการปิดเมืองอู่ฮั่น โดยรายหนึ่งมีอาการป่วยตั้งแต่ก่อนเดินทางมา 3-4 วัน ซึ่งเมื่อมาถึงสนามบิน เราก็ตรวจจับผู้ป่วยรายนี้ได้ และนำเข้าห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร ส่วนอีก 6 คนพบภายหลังว่า 4 ราย เริ่มมีอาการป่วย เมื่อมีอาการก็นำเข้าห้องแยกโรค เช่นกัน ฉะนั้นโอกาสที่ 4 คนจะออกไปแพร่โรค จึงน้อยมาก สำหรับอีกคนหนึ่งมาจากมณฑลหูเป่ย โดยทั้งหมดไม่มีรายใดอาการรุนแรง และอาการเริ่มดีขึ้น
ยันสต๊อกหน้ากากอนามัยมีเพียงพอ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงปริมาณสต๊อกหน้ากากอนามัยในประเทศไทยขณะนี้ว่า ยังมีเพียงพอ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ ในช่วงระยะเวลาที่มีปัญหาเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา
ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าในประเทศไทย มีการผลิตหน้ากากอนามัยโดยเฉลี่ยเดือนละ 30 ล้านชิ้น ซึ่งกรมการค้าภายในจะเชิญผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศที่มี 10 ราย มาหารือในวันที่ 29 ม.ค.นี้ เพื่อจะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องปริมาณการผลิตหน้ากากอนามัยให้มีเพียงพอกับความต้องการของประชาชนในประเทศ พร้อมกับป้องกันการกักตุน รวมถึงดูแลราคาหน้ากากอนามัยให้อยู่อัตราที่สมเหตุสมผล ไม่มีการโก่งราคาในภาวะที่จำเป็นต้องใช้ และยังไม่จำเป็นที่จะต้องกำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม
สำหรับการค้าขายกับประเทศจีนนั้น หลังจากที่ตนมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์ในจีน ที่มี 7 แห่ง ประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลจีน ซึ่งประเมินสถานการณ์ทั้งหมดแล้วได้รายงานว่า ขณะนี้บางเมืองในจีนเริ่มมีความต้องการที่จะนำเข้าหน้ากากอนามัย และถุงมือยางพาราจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น อาทิ นครเฉิงตู เมืองเซี่ยเหมิน ซึ่งตนได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปตรวจดูปริมาณการผลิตสินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีเพียงพอกับตลาดใน และต่างประเทศ ซึ่งไทยพร้อมส่งออกสินค้าดังกล่าวไปให้จีน เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ
จุฬาฯให้นิสิต-กลุ่มเสี่ยงหยุด14วัน
ศ.ดร.บัณฑิตย์ เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามในประกาศจุฬาฯ ให้หยุดงาน หรือหยุดเรียนได้ ในช่วงไวรัสโคโรนาระบาด เพื่อสังเกตอาการติดเชื้อ 2019-nCoV เนื่องจากมีผู้ป่วย หรือผู้ได้รับเชื้อได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย จึงได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.63 เรื่อง ให้หยุดเรียน หรือหยุดงานในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาระบาด เนื่องจากมีนิสิต และบุคลากรจุฬาฯ ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หรืออยู่ใกล้กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือในพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีอาการใดๆ สามารถหยุดเรียนหรือหยุดงานได้เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการโดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน หรือขาดการปฏิบัติงานและไม่นับเป็นวันลา
ทร.แจงกรณีทหารเรือ20 นายกลับไทย
พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึง กรณีที่กองทัพเรือส่งคณะกรรมการตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำ 20 คน ไปปฏิบัติราชการอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นแหล่งต้นเหตุเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ว่า คณะกรรมการฯทั้งหมดได้เดินทางกลับไทยครบหมดแล้ว ด้วยเครื่องบินพลเรือน ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และปลอดภัยดี และจะเดินทางกลับไปทำงานที่เมืองอู่ฮั่นต่อไป เมื่อได้รับการสั่งการจากผู้บังคับบัญชา โดยระหว่างนี้ได้เข้ารายงานตัวต้นสังกัดและตรวจสุขภาพโดยต่อเนื่อง ที่กรมแพทย์ทหารเรือ ในส่วนงานตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำที่กำลังดำเนินการร่วมกับบริษัทอู่เรือคู่สัญญานั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน และทางอู่ต่อเรือได้ประกาศวันหยุดตั้งแต่ วันที่ 22 ม.ค.-2 ก.พ. 63 กำลังพลคณะกรรมการตรวจการจ้างเรือดำน้ำ ทร. จึงได้ขออนุญาตลาพักผ่อน และแยกย้ายกันเดินทางออกทัศนศึกษา ตามเมืองต่างๆโดยไม่มีใครทราบมาก่อนว่าจะมีการปิดเมือง
หลังจากนั้นทางการจีนสั่งปิดเมือง กำลังพลดังกล่าว ก็ไม่สามารถกลับเข้าเมืองอู่ฮั่นได้ จึงได้ขออนุมัติทร.เดินทางกลับไทย โดยทะยอย กลับจากเมืองต่างๆ ที่แต่ละคนอยู่ในขณะนั้น โดยเดินทางกลับถึงไทยเรียบร้อย ในวันที่ 26 ม.ค.63
ส่วนที่กองทัพเรือ ไม่ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว เพราะมีนโยบายไม่ต้องการให้สังคมเกิดความตื่นตระหนก หรืออาจนำข่าวไปขยายผลให้เกิดความสับสนในสังคม
สั่งคุมเข้ม นักโทษจีนเข้าใหม่14ราย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการดูแลควบคุมผู้ต้องขัง ของกรมราชทัณฑ์ว่า ได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แจ้งไปยังผู้บัญชาการเรือนจำทุกแห่ง ให้ดูแลนักโทษโดยเฉพาะรายใหม่ซึ่งเป็นชาวจีน โดยช่วงเดือนม.ค. พบว่ามีนักโทษชาวจีนที่เข้าไปใหม่ 14 ราย โดยให้ดูแลอย่างใกล้ชิดว่ามีอาการใดผิดปกติ เป็นไข้ หรือมีอาการใดที่เป็นข้อสงสัยของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือไม่ และได้สั่งการให้เรียกประชุมผู้บัญชาการเรือนจำทั้งหมด ในวันที่ 30 -31 ม.ค.นี้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ในการป้องกันอย่างละเอียด รวมกับวาระอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ เรือนจำมีลักษณะปิด ไม่มีผู้คนเข้ามากมายเว้นแต่นักโทษใหม่ที่จะเข้าไป ซึ่งเบื้องต้นข้อมูลพบว่ามี 14 รายดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบแล้ว ก็ไม่พบว่ามีอาการที่จะติดเชื้อใดทั้งสิ้น นักโทษส่วนใหญ่เป็นคนไทย แต่ถ้าเป็นคนจีน เราก็ดูแลตามปกติ