ไข้หวัดเล่นงาน "บิ๊กตู่" ต้องพักตามคำสั่งแพทย์ ยันไม่เข้าข่ายติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น "อนุทิน" เผยนายกฯโหมงานหนักจนป่วย วอนอย่าปั่นเฟกนิวส์ ลั่นพร้อมบินรับคนไทยในอู่ฮั่นทันที รอจีนคอนเฟิร์มวัน เตรียมถกยกเลิก Visa On Arrival สยบข่าวนักท่องเที่ยวจีนทะลักหลักล้าน ยันตัวเลขแค่หลักหมื่น ส่วนผู้ป่วยในไทยหายแล้ว 6 รายจาก 14 ราย “ดีอีเอส” จับจริง 2 มือปล่อยข่าวปลอม "จุรินทร์" ตรวจโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ระบุสินค้าเพียงพอ จีนพบยาที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันจำนวน 3 รายการ สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระดับเซลส์ได้ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 170 คน WHO จ่อยกระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน
วานนี้ (30 ม.ค.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ยกเลิกหมายงานตลอดทั้งวัน โดยคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า นายกฯได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านพัก ตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากมีอาการไข้หวัด ครั่นเนื้อครั่นตัว จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ยังสามารถสั่งงานได้ตามปกติ ซึ่งการป่วยครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปตรวจติดตามการปฏิบัติงานที่ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนวันนี้ (31 ม.ค.) นายกฯได้ยกเลิกกำหนดการ ที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถาบันบำราศนราดูร แต่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงเช้าจะเป็นประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก "Gen.Prayut-Chan-o-cha” ของทีมงานนายกฯ ได้โพสต์ข้อความว่า "ยืนยันนายกฯ ป่วยเป็นไข้มาหลายวันแล้ว ไม่เกี่ยวกับลงพื้นที่สุวรรณภูมิ หายไวๆ ครับนาย" ซึ่งต่อมา เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut -Chan-o-cha ว่า "ช่วงนี้ข่าวปลอมเยอะครับ ผมขอให้ทุกคนรับข่าวสารอย่างมีสติ จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ข้อมูล #ไวรัสโคโรนา สามารถติดตามได้ทุกวัน จากศูนย์ปฏิบัติการฯ กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเพิ่มความถี่การรายงานเป็นวันละ 2 รอบ 10.00 น. และ 15.00 น. หรือโทรสายด่วน 1422 วันนี้ผมลาป่วย เป็นไข้หวัดเล็กน้อย พักผ่อนตามคำสั่งแพทย์ครับ"
หมอยันนายกฯไม่ติดโคโรนา
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ตนได้ขอให้นายกฯ ยกเลิกภารกิจการไปตรวจเยี่ยมสถาบันบำราศนราดูร ในวันที่ 31 ม.ค. เนื่องจากนายกฯไม่สบาย และสถาบันบำราศนราดูร เป็นพื้นที่เสี่ยงสำหรับคนเป็นไข้หวัด ยืนยันนายกฯไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังไปตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่เป็นเพราะท่านโหมงานหนัก มาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ และมีอาการไม่สบายอยู่แล้ว ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้หยุดพักผ่อน
นพ.ชัยพร สุชาติสุนทร ผอ.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายกฯไม่เข้าข่ายผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพราะหากติดเชื้อ จะมีระยะฟักตัวเป็นเวลา 14 วัน ที่ได้รับเชื้อ แต่นายกฯไม่สบายหลังตรวจเยี่ยมพื้นที่สุวรรณภูมิเพียง 1 วันเท่านั้น จึงไม่เข้าข่ายแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าไวรัสโคโรนา ไม่รุนแรงเท่ากับโรคซาร์ส
พร้อมรับคนไทยกลับ-รอจีนคอนเฟิร์ม
นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน กลับประเทศไทยว่า รัฐบาลเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งเครื่องบิน บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเวชภัณฑ์ที่จะไปดูแลตามขั้นตอนการขนส่งผู้โดยสารจากเมืองที่มีสถานการณ์โรคระบาด ขณะนี้รอเพียงการประสานจากทางจีนเท่านั้น ปัจจุบันยังไม่ได้รับการยืนยันวันที่จะเข้าไปรับคนไทยที่ชัดเจน ซึ่งตนไม่รู้ว่า กระแสข่าวว่าจะไปรับคนไทย วันที่ 4 ก.พ. มาจากไหน แต่ยืนยันว่า จะเดินทางไปรับคนไทยให้เร็วที่สุด ตอนนี้รอไฟเขียวจากจีนเท่านั้น และก่อนขึ้นเครื่องจะต้องมีการตรวจร่างกายก่อนทุกคน
"ขอยืนยันอีกครั้งว่า คนไทยที่อยู่ในอู่ฮั่น ยังไม่มีการรายงานใดๆว่ามีคนไทยคนไหนป่วยเลย จากการรายงานทราบว่าทุกคนได้รับการดูแลจากสถานทูตไทย และรัฐบาลจีนถึงตัวทุกคน ทั้งหมด แต่การที่เราจะรับคนไทยชุดดังกล่าวกลับมา ก็เพื่อต้องการให้เกิดความอุ่นใจ มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เพราะขณะนี้ทุกคนอยู่ในสภาพที่กดดัน ดังนั้นถ้าเราได้รับการอนุญาตจากทางการจีน ให้นำคนไทยกลับมา เราก็ยินดี และพร้อมที่จะนำกลับมาทันที แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่า คนไทยในอู่ฮั่นไม่ใช่คนป่วย ขณะนี้ทุกคนมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง" นายอนุทิน กล่าว
แย้มเลิก Visa on Arrival คนจีน
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีกระแสข่าวคนขับแท็กซี่ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา จากนักท่องเที่ยวจีน และขณะนี้เข้ารับการรักษาให้ห้องแยกโรคเรียบร้อยแล้วนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในเรื่องรายละเอียด ขอให้การข่าวมาจากศูนย์ข่าวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก ส่วนสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อในประเทศไทย วันนี้ตัวเลขอย่างเป็นทางการมีเพียง 14 ราย และวันนี้ก็เหลือเพียง 8 ราย เพราะอีก 6 คนนั้นหายแล้ว ขณะที่ทางการจีนก็ได้พยายามขอร้องให้นักท่องเที่ยวของเขา เลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบินมาเมืองไทย โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยมากที่สุด แต่ไม่ถึง 2 ล้านคนอย่างที่เป็นข่าว มีเพียงหลักหมื่นเท่านั้น
"กรณีเฟกนิวส์ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาผิดเอาถูก แต่ต้องชี้แจงให้มากที่สุด อยากจะให้ไปกราบเท้าทุกคนก็ได้ที่เล่นเฟกนิวส์ อย่าทำเลย เอาไว้สถานการณ์ปกติ จะเล่น จะว่า จะแซวกัน ก็ค่อยให้ถึงเวลานั้น แต่ตอนนี้ขอให้เป็นเวลาทุกคนต้องร่วมกันให้เกิดความสงบ ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ได้มากที่สุด" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ที่นายกฯ แต่งตั้งให้ตนเป็นประธานอำนวยการ ในเวลา 13.00 น.วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมจะเสนอมาตรการต่างๆ รวมไปถึงการเสนอให้ยกเลิกการออกวีซ่าให้คนจีน ที่ขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบินในประเทศไทย หรือ Visa on Arrival เพราะจากสถานการณ์ช่วงนี้ต้องทำให้คนจีนเข้ามาประเทศไทยให้น้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความสบายใจของคนไทย แต่เราก็ไม่สามารถที่จะไปยกเลิกวีซ่า ที่ออกโดยสถานทูตจีนได้ ซึ่งอาจจะต้องกำหนดมาตรการ เช่น มีใบรับรองแพทย์มาแสดง เป็นต้น
“ดีอีเอส” รวบ 2 มือปล่อยข่าวปลอม
วันเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่าขณะนี้ปรากฏข่าวลือเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งสร้างความตระหนก และหวาดกลัวให้แก่คนในสังคม ล่าสุดดีอีเอส ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สรุปพบจุดที่เป็นต้นทางนำเข้าข่าวปลอมแล้ว 15 จุด มีการขอศาลออกหมายค้นและทำการเข้าตรวจค้น สามารถตรวจพบผู้ที่คิดว่าน่าจะเข้าข่ายผิด ปล่อยข่าวปลอม 6 จุด ในจำนวนนี้ดำเนินการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริง และดำเนินการจับกุมแล้ว 2 ราย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ส่วนอีก 4 ราย จากไม่พบความตั้งใจในการสร้างความเสียหาย จึงทำการตักเตือน และลงบันทึกประจำวันไว้
พณ.มั่นใจหน้ากากอนามัยเพียงพอ
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เผยภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ณ บริษัท ไทยฮอสพิทอล โปรดักส์ จำกัด ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า กำลังการผลิตทั้งระบบมี 10 โรงงานใหญ่ สามารถผลิตได้รวมเดือนละ100 ล้านชิ้น มีความต้องการใช้ในประเทศเฉลี่ย เดือนละ 30 ล้านชิ้น แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่พัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น และความต้องการใช้จะเพิ่มจาก 30 ล้านชิ้น เป็น 40 และ 50 ล้านชิ้นต่อเดือน ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเท่าที่ประเมินเบื้องต้น ยังมีกำลังการผลิตเพียงพอ และสต๊อกปัจจุบัน ก็มีมากถึง 200 ล้านชิ้น สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างน้อย 4-5 เดือน ถ้าไม่มีการผลิตเพิ่ม แต่ก็มีการผลิตเพิ่มเรื่อยๆจึงไม่น่ามีปัญหาอะไร
ไวรัสอู่ฮั่นคร่าเหยื่อแล้ว170ราย
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีนนั้น คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ภายในประเทศจนถึงช่วงค่ำวันที่ 29 ม.ค. อยู่ที่ 170 คน เพิ่มขึ้น 38 คน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันเดียว ส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 7,711 คน และมีผู้อาจติดเชื้อที่อยู่ภายใต้การสังเกตอาการอีก 81,000 คน นอกจากจีนแล้วยังพบผู้ติดเชื้อในอย่างน้อย 15 ประเทศและดินแดน รวมจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 104 คน แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตนอกจีน และจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละแห่งก็ยังไม่มาก
ขณะที่ภาคส่วนต่างๆในประเทศจีนได้ประกาศระงับกิจกรรม ระงับการผลิต หรือปิดร้าน อาทิ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ขยายวันหยุดสำหรับโรงงานผลิตบางแห่งในจีน แมคโดนัลด์ปิดทุกสาขาในมณฑลหูเป่ย ส่วนอิเกีย ห้างเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดน ปิดสาขาต่างๆ ราวครึ่งหนึ่งจากที่มีอยู่ทั้งหมด 30 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ ด้าน โตโยต้า, สตาร์บัคส์, เทสลา, และฟ็อกซ์คอนน์ ตัดสินใจระงับการผลิตหรือปิดเอาต์เล็ตขนาดใหญ่ในจีน เช่นเดียวกับสมาคมฟุตบอลจีนที่ประกาศเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลทุกระดับและทุกประเภททั่วประเทศในปีนี้อย่างไม่มีกำหนด
WHOจ่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการดูเบาสถานการณ์การระบาดของไวรัสอู่ฮั่น ได้มีการต้องเรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ซึ่งคาดกันว่า จะมีการประกาศยกระดับเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลก
โดย ไมเคิล ไรอัน หัวหน้าโครงการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของฮู กล่าวว่า ทั่วโลกจำเป็นต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ขณะเดียวกัน ประเทศที่อพยพหรือกำลังเตรียมการอพยพพลเมืองออกจากอู่ฮั่นหรือจีน จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไปขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดมากขึ้น
พบ 3 ยาปัจจุบันต้านไวรัสได้
สำนักข่าวซินหัว ของจีน รายงานว่า หนังสือพิมพ์หูเป่ยเดลี่ เผยข้อมูลเกี่ยวกับ ยาทั้ง 3 รายการ ได้แก่ เรมเดซิเวียร์ คลอโรควิน และริโทนาเวียร์ ที่มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ ปัจจุบันยาทั้งหมดนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญเพื่อรอการอนุมัติการใช้รักษาพยาบาล
โดยยาเรมเดซิเวียร์เป็นยาต้านการรวมตัวของสารพันธุกรรมอาร์เอ็นเอ ที่เคยใช้รักษาอีโบลา ส่วนยาคลอโรควิน เป็นยารักษาโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งมักใช้รักษาโรคมาลาเรีย โรคติดเชื้ออะมีบา และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ส่วนยาริโทนาเวียร์เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี