“ผกก.เมืองนนท์” บุกร้อง “กรมเจ้าท่า” ตรวจสอบท่าเรือบ้านพัก “เสรีพิศุทธ์” ย่านเกียกกาย สร้างเกินที่ขออนุญาต ล่วงล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ชี้ที่เจ้าตัวอ้างคดียุติแค่ส่วนเดียว ความผิดฐานรุกล้ำลำน้ำสาธารณะยังไม่ได้ตรวจสอบ พร้อมฝาก “ก.เจ้าท่า” จี้คดีรุกล้ำลำนำแควน้อยด้วย “อธิบดี” รับลูกตรวจสอบ หากผิดพร้อมดำเนินคดีตาม กม.
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กรมเจ้าท่า พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี) เดินทางยื่นหนังสือต่อ นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เพื่อให้ตรวจสอบกรณีมีการปลูกสร้างท่าเรือหน้าโฉนดที่ดิน เลขที่ 4295 ซึ่งติดกับ วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต ล่วงล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งท่าเรือดังกล่าวอยู่ในพื้นที่บ้านพักของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามข่าวที่เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเข้าแจ้งตำรวจ สน.บางโพ ว่ามีการสร้างท่าเรือดังกล่าวรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา โดยไม่เป็นตามแบบที่ขออนุญาตไว้ ซึ่งทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่เป็นเจ้าของระบุว่า เรื่องยุติแล้ว ในฐานะที่ตนเป็นผู้ที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ดำเนินคดีอาญากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าคำชี้แจงของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพราะกรณีที่สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง 1 มีคำสั่งยุติดำเนินคดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.53 นั้น เฉพาะเรื่องการสร้างโดยไม่ขออนุญาตจากสำนักงานเขต แล้วตำรวจสั่งไม่ฟ้อง เพราะคดีขาดอายุความ 1 ปี เท่านั้น แต่ส่วนที่สร้างท่าเทียบเรือสร้างเกินไปจากที่ขออนุญาตกรมเจ้าท่า และจากภาพถ่ายทางอากาศพบว่ารุกล้ำลำน้ำสาธารณะนั้น ยังไม่มีการตรวจสอบ และไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ด้วย
“คดีนี้ยังไม่จบ ผมมายื่นเรื่องและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ กรมเจ้าท่า เพื่อตรวจสอบว่า การก่อสร้างท่าเทียบเรือของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ได้ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าว่าเป็นการบุกรุกแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่“ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เคยทวงถามเรื่องไปยังศาลปกครองเกี่ยวกับคดีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฟ้องกระทรวงคมนาคมและพวก กรณีรื้อถอนรีสอร์ตใน จ.กาญจนบุรี รุกล้ำแม่น้ำแควน้อย ความคืบหน้าเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองยังติดตามความคืบหน้าอยู่ เพราะเป็นผู้กล่าวหาในส่วนของสำนวนคดีอาญา พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมีการขออนุญาต แต่ส่วนที่มีข้อพิพาทกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาฟ้องตนและนายตำรวจอีกหลายคน รวมถึงกรมเจ้าท่า ว่าปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบมีการบุกรุก ซึ่งคดีที่ถูกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ฟ้องที่ อ.ทองผาภูมิ ยุติไปแล้ว แต่ในส่วนของศาลปกครองกลาง ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นผู้ฟ้องกรมเจ้าท่า มีคำพิพากษามาแล้วว่าการที่กรมเจ้าท่าสั่งรื้อนั้นชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ระยะเวลา 5 ปี และศาลสูงยังไม่มีคำวินิจฉัยลงมา จึงขอฝากรมเจ้าท่าให้ติดตามเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามว่าเหตุที่มาร้องต่อกรมเจ้าท่า เพราะเป็นคู่ความกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้ แต่ตนเห็นในข่าวว่ากรมเจ้าท่าไปแจ้งความ และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาพูดไม่ครบประเด็น จึงนำเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้องมายื่นให้กรมเจ้าท่าเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติม เป็นการทำให้จบกระบวนการ
ด้าน อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นเมื่อตนได้รับหนังสือแล้ว ก็จะดำเนินตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร มีความผิดหรือไม่อย่างไร ถ้าพบว่ามีความผิด ก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ซึ่งทางกรมฯได้มีการตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะทั่วประเทศอยู่แล้ว ถ้าหากพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะมีขั้นตอนการดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะแจ้งความ หรือสั่งให้รื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา นายธวัชชัย ฮะประสาร หัวหน้ากลุ่มคดีและบังคับคดี สำนักกฎหมาย กรมเจ้าท่า ได้เข้าแจ้งความต่อ สน.บางโพ ให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีมีผู้สร้างท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านห้างแม็กโคร สาขาบางกระบือ ถ.สามเสน ซึ่งระบุว่าเป็นของนักการเมืองคนดังในซีกฝ่ายค้าน หลังพบว่ามีเอกสารการขออนุญาตก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2544 แต่กลับมีการก่อสร้างผิดแบบ ไม่เป็นไปตามที่ขออนุญาตไว้ ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยอมรับว่าเป็นท่าเรือของตนเอง แต่คดีได้ยุติไปตั้งแต่ปี 2553 แล้ว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ไม่ปรากฎว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถือครองบ้านหลังดังกล่าวแต่อย่างใด โดยมีรายงานด้วยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มักใช้บ้านหลังดังกล่าวจัดกิจกรรมของพรรคเสรีรวมไทยบ่อยครั้ง.