ทีอย่างนี้ถือว่ายุติธรรม “ช่อ” ยกศาลรัฐธรรมนูญสร้างมาตรฐานกฎหมาย ที่วินิจฉัย “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองฯ ด้าน “หมอวรงค์” แนะ “ทอน” เปลี่ยนวิธีคิดโทษรัฐประหาร
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (22 ม.ค. 63) “ช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองฯ ว่า
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ คือการสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมาย ว่าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) ปิยบุตร (แสงกนกกุล) กรรมการบริหารพรรค ไม่ได้มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ขอให้ยุติเฟกนิวส์ใส่ร้ายและนิติสงครามตามล่าล้างยุบพรรค เราเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมามากพอแล้ว (จากไทยโพสต์)
นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก พรรณิการ์ วานิช ยังโพสต์ หัวข้อ “ขอบคุณทุกกำลังใจ หลังศาล รธน. #ไม่ยุบพรรค”
โดยระบุว่า “คดีนี้ไม่ควรเป็นคดีตั้งแต่แรก ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิ่งที่พวกเราคิดและทำนั้นคือการรักษาระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคงและยั่งยืน เพราะระบอบประชาธิปไตยไม่มีที่ยืนให้การรัฐประหาร การรัฐประหารต่างหากที่เป็นการล้มล้างการปกครอง
ดังนั้นจึงไม่ใช่ประชาชนและพรรคการเมืองที่คิดล้มล้างการปกครอง แต่เป็นกองทัพที่ก่อการรัฐประหารต่างหากที่ล้มล้างการปกครอง ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เป็นการล้มล้าง ไม่ใช่ประชาชน พรรคการเมือง แต่เป็นกลุ่มบุคคล กองทัพ ทหาร เป็นคนล้มล้าง โดยสัปดาห์นี้พรรคจะยื่นญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาแนวทางการป้องกันการรัฐประหาร
#ส่วนการฟ้องกลับยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ #และขอให้ยุติกระบวนการนิติสงครามกัน #ส่วนคดีเงินกู้ก็พร้อมที่จะสู้ #เพราะเห็นว่าไม่เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง
พวกเรา ส.ส.อนาคตใหม่ ยืนยันเดินหน้าทำงานทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ต่อไป ยังมีกระบวนการร้องยุบพรรคที่ยังต้องการทำลายอนาคตใหม่อยู่ กระบวนการนิติสงครามมิใช่หนทางที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยตั้งมั่นได้ แต่การเปิดพื้นที่ให้ต่อสู้กันในระบบ จึงจะพาประเทศไปสู่อนาคตแบบใหม่ได้” ปิยบุตรกล่าว
#ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ทั้งมาที่นี่และทางบ้าน ตนเองและพรรคอนาคตใหม่ขอขอบคุณทุกคนที่ผลักดันให้ก้าวมาถึงจุดนี้ วันนี้พรรคอนาคตใหม่ได้รับคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญแล้วว่าพรรคจะเดินหน้าต่อไป
โดยขอสัญญาว่า ด้านหนึ่งตนเองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่จะทำงานมุ่งมั่นสร้างสรรค์ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขัน จะมุ่งมั่นทำให้นโยบายของเรา คำสัญญาระหว่างประชาชนกับพรรคการเมืองเป็นจริงให้ได้
จากนี้จะรณรงค์ในหลายร่างพระราชบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็นคุ้มครองสิทธิแรงงาน ยกเลิกเกณฑ์ทหารแบบบังคับ หรือสุราก้าวหน้า ซึ่งเป็นนโยบายที่เราใช้หาเสียง เราจริงจัง เรามุ่งมั่น และอีกด้านหนึ่งก็จะทำงานกับประชาชนอย่างต่อเนื่องนอกสภา จะไปพบปะประชาชนทั่วทุกภูมิภาค ไปรับฟังความเดือดร้อน เอาปัญหามาฝากเพื่อน ส.ส. ไปสู่การผลักดันเพื่อการแก้ไข ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นวิถีทางเดียวที่จะพาเราออกจากความขัดแย้ง
“วันนี้ทุกคนเห็นแล้วว่า พวกเราทำงานหนักแค่ไหน วันนี้ขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาสนับสนุนเรา การเดินทางนี้เพิ่งเริ่มต้น จากวันที่เราตั้งพรรคถึงวันนี้ยังไม่ถึง 2 ปี ยังมีหลายเรื่องที่เราอยากผลักดัน สัญญาจะว่าผลักดันนโยบายให้เป็นจริง และเป็นตัวแทนความฝันของประชาชนที่ต้องการเห็นประเทศไทยไปข้างหน้า ขอขอบคุณทุกกำลังใจ”
#ธนาธร #ปิยบุตร #อนาคตใหม่
วันนี้เช่นกัน (22 ม.ค. 63) เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์หัวข้อ “ให้เลือกเอา”
โดยระบุว่า “หลังจากศาลไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเราคงได้ฟังนายธนาธรแถลงและโทษการรัฐประหารว่า เป็นสิ่งล้มล้างการปกครองของประเทศ ผมคิดว่าวิธีคิดของนายธนาธรนั้น เป็นปัญหาต่อความสงบสุขของประชาชนไทย
นายธนาธรใจกว้างสักนิด อย่าโทษแต่ทหาร เอาเหตุและผลมาพิจารณาก็จะได้รับรู้ว่า ความเลวร้ายของระบอบทักษิณที่ประชาชนต้องออกมานับล้านคนนั้นเป็นต้นเหตุ นำไปสู่การรัฐประหาร ถ้านักการเมืองไม่เลวร้ายขนาดนั้น การรัฐประหารไม่มีทางทำได้
หากนายธนาธรไม่เปลี่ยนวิธีคิด ขุดการเข่นฆ่าในอดีตของสังคม ทั้งๆที่ตนเองยังไม่เกิด แต่เลือกที่จะพูด ไม่ยอมพูดถึงการฆ่าประชาชนที่ตากใบ รวมทั้งการฆ่าตัดตอน 2500 ศพ ต่อให้นายธนาธรมีอำนาจ สังคมก็ไม่สงบสุข
นายธนาธรจะช่วยกันดันประเทศเดินไปข้างหน้า หรือจะดึงประเทศย้อนหลังวนเวียนแต่เรื่องเก่าๆ และเป็นปฏิปักษ์ต่อความสงบสุขของประชาชนไทย ให้เลือกเอา #รู้ทันพวกชังชาติ #ปราบลัทธิชังชาติด้วยความจริง
และก่อนหน้านี้ (21 ม.ค. 63) นพ.วรงค์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า
“ด่วน...ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเราเคารพคำตัดสินของศาลครับ
แต่ภารกิจของพวกเรายังไม่จบ ถ้าตราบใดยังมีคนที่มีพฤติกรรมชังชาติ ล้างสมองเยาวชน และสร้างความเกลียดชัง
ประเทศเราต้องพัฒนาไปข้างหน้า บนพื้นฐานของความภูมิใจในความเป็นคนไทย
ท้ายที่สุดขอขอบคุณและให้กำลังใจ ดร.ณฐพร โตประยูร ที่ห่วงใยและช่วยกันปกป้องสถาบันหลักของชาติ.
ด้าน ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ถึงพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญไม่ยุบพรรค ว่า
“อย่าเพิ่งฉลองนะคะ พรรคส้มหวาน ดิชั้นขอเตือนล่วงหน้า.”
อันเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ยังมีคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท ที่ กกต.ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ในชั้นของศาลรัฐธรรมนูญรอการวินิจฉัย ซึ่งคดีนั้น พยานหลักฐานมัดแน่น เหลือก็แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะตีความข้อกฎหมายอย่างไรเท่านั้น
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวว่า ได้ติดตามฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีดังกล่าวโดยเชื่อมั่นว่า ทุกฝ่ายให้การยอมรับ ทั้งนี้หวังว่าที่ได้โอกาสทำงานการเมืองต่อไป ในฐานะฝ่ายค้านในสภาฯ จะยึดมั่นตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย โดยยึดเอาประชาชนเป็นหลัก
วันนี้ทุกคนทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ จึงอยากขอให้พรรคการเมืองต่างๆ ใช้ช่องทางตามระบอบรัฐสภาในการเคลื่อนไหวเป็นปากเสียงให้กับประชาชนอย่างแท้จริง การปลุกกระแสม็อบต่างๆ ในช่วงเวลานี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเพราะเป็นการก่อกวนความสงบของประเทศชาติ แต่เป็นเวลาที่ประเทศต้องเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชน
“สังคมคงได้ประจักษ์แล้วว่า คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกระบวนการยุติธรรมของไทย คงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและความยุติธรรม ดังนั้น ควรใช้วิจารณญาณในการพิจารณารับฟังวาทกรรมที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาปลุกปั่นโจมตีบั่นทอนด้อยค่ากระบวนการยุติธรรมไทย เพราะการกระทำดังกล่าวล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสิ้น”
แน่นอน, โพสต์ของ “ช่อ” ที่ยกย่องว่าศาลรัฐธรรมนูญได้สร้างมาตรฐานทางกฎหมายขึ้น กรณีวินิจฉัย “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองฯ
และก็ได้แต่หวังว่า คดีเงินกู้ 191 ล้านบาท ถ้าเกิดศาลรัฐธรรมนูญ “ยุบพรรคอนาคตใหม่” ขึ้นมา “ช่อ” และพลพรรคอนาคตใหม่ จะไม่โทษศาลรัฐธรรมนูญ หรือโทษ “เผด็จการ” เพราะคนที่ทำผิดคือ นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ และศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยตามเหตุและผลของคดี อย่างที่ไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ คดีล้มล้างการปกครองฯนั่นเอง