อนาคตใหม่เฮ! หลังศาล รธน.ยกคำร้องล้มล้างการปกครอง “ปิยบุตร” ชี้ไม่ควรเป็นคดีตั้งแต่แรก จ่อยื่นญัตติตั้ง กมธ.วิฯ ป้องกันรัฐประหาร ยันพรรคยังทำการเมืองสร้างสรรค์ อ้างร้องยุบพรรคไม่ใช้หนทางทำประชาธิปไตยยั่งยืน ยังไม่ชัวร์ฟ้องกลับนักร้อง พร้อมสู้คดีกู้เงิน ด้าน “ธนาธร” ลั่นเดินการเมือง 2 ขา ใน-นอกสภาต่อ เผยบริสุทธิ์ใจวิ่งไล่ลุง โวยหลายจังหวัดยังโดนคุกคาม แย้มร่วมกิจกรรมอีก
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่พรรคอนาคตใหม่ เมื่อเวลา 12.15 น. บรรยากาศภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยยกคำร้องในคดีที่มีผู้ฟ้องพรรคกระทำผิดรัฐธรรมนูญล้มล้างการปกครองเป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้สนับสนุนพรรคที่มารอคอยฟังคำวินิจฉัยต่างตะโกนแสดงความดีใจ พร้อมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ต่อมาในเวลา 13.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค พร้อม ส.ส.ของพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวท่ามกลางเสียงมวลชนตะโกนต้อนรับ โดยนายปิยบุตรกล่าวว่า ตนคิดว่าคดีนี้ไม่ควรเป็นคดีตั้งแต่แรก ตนยืนยันว่านายธนาธร ตน และพรรค ไม่ได้มีความคิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สิ่งที่พวกเราคิด ทำ กำลังดำเนินการอยู่คือการรักษาระบอบประชาธิปไตยฯ ให้มั่นคง ยั่งยืน การรัฐประหาร การยึดอำนาจประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตั้งตนเองเป็นรัฐฏาธิปัตย์ต่างหากคือการล้มล้างการปกครองฯ จึงมิใช่ประชาชน พรรคการเมืองที่ล้มล้างการปกครองฯ แต่เป็นกลุ่มบุคคล กองทัพที่ถืออาวุธก่อการรัฐประหารยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ
นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ ตนและ ส.ส.พรรค ได้ยื่นญัตติขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการป้องกันการรัฐประหาร เพราะเราเชื่อว่าประชาธิปไตยฯ มิอาจดำรงได้อย่างยั่งยืนมีเสถียรภาพต่อไปได้หากประเทศไทยยังตกอยู่ในวงจรรัฐประหาร รวมทั้งการพิจารณากรณีเลื่อนการใช้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีโรงเรือนที่ดินไปก่อน, กรณีผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 และเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ้รัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า พร้อมยืนยันวันนี้พรรคยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
“แม้วันนี้คำร้องของนายณฐพร โตประยูร จะถูกยกออกไป แต่ก็ยังมีกระบวนการร้องยุบพรรคที่ต้องการทำลายพรรคอนาคตใหม่อยู่ พวกเราเชื่อมั่นว่าการร้องยุบพรรค กระบวนการนิติสงคราม มิใช่หนทางที่ระบอบประชาธิปไตยยั่งยืนได้ เราเชื่อมั่นว่ามีแต่การเปิดพื้นที่ทางการเมืองใหม่ๆ เปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลต่างๆ ที่มีความคิดแตกต่างหลากหลาย เข้ามาต่อสู้กันในระบบรัฐสภา ในกระบวนการแบบประชาธิปไตยเท่านั้น ถึงจะนำพาประเทศไปสู่อนาคตแบบใหม่ได้” นายปิยบุตรกล่าว
ด้านนายธนาธรกล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ วันนี้พรรคได้รับคำวินิจฉัยจากศาลธรรมนูญแล้วว่าให้พรรคเดินต่อไป เราขอสัญญาว่าขาที่ 1 งานในสภาฯ ตนและ ส.ส.จะมุ่งมั่นทำงานอย่างสร้างสรรค์ มีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขัน จะมุ่งมั่นที่จะทำให้นโยบายของพรรคเป็นจริงให้ได้ ในระยะกลางภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเราจะรณรงค์ในหลายร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอทั้งยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช.17 ฉบับ, คุ้มครองสิทธิแรงงาน, ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ และสุราก้าวหน้า ส่วนอีกด้านหนึ่งเราก็จะทำงานกับประชาชนอย่างต่อเนื่องนอกสภาฯ ตนจะไปพบประชาชนทั่วทุกภูมิภาคเพื่อรับฟังปัญหา ความเดือดร้อน หากพอมีช่องทางก็จะเอาปัญหามาฝาก ส.ส.เพื่อผลักดันนำไปสู่การแก้ไขต่อไป และรณรงค์ให้เข้าใจถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าจะมีการฟ้องร้องกลับนายณฐพรหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ แต่ตนเชื่อว่ากระบวนการร้องเรียนกันไปมาเรื่องการยุบพรรคไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรต่อการเมืองการปกครองของไทย และประชาธิปไตย ตนคิดว่ายุติกระบวนการร้องยุบพรรคกันได้แล้ว ยุตินิติสงครามแล้วเดินหน้าทำงานด้วยกัน
ส่วนคดีเงินกู้ที่ยังอยู่ในศาลธรรมนูญนั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า พร้อมที่จะสู้คดี ตามที่ชี้แจงไปว่ากระบวนการพิจารณาในชั้นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ถูกต้องตามระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย กกต. นั่นก็คือคณะอนุกรรมการหลายๆ คณะก็ยกคำร้องโดยมติเอกฉันท์ไปแล้วแต่ กกต.ก็ยังคงเดินหน้าร้องยุบพรรคต่อไป เรื่องเหล่านี้พรรคได้ไปฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตประพฤติมิชอบ โดยฟ้องต่อ กกต.เรียบร้อยแล้ว และศาลก็กำลังเรียกเอกสารเหล่านี้จาก กกต.ไปเพื่อชี้ขาดว่าจะรับคำฟ้องไว้หรือไม่ ส่วนการต่อสู้คดีในชั้นศาลธรรมนูญเราจะยื่นเอกสารคำให้การต่างๆ และจะร้องขอให้ศาลธรรมนูญเปิดกระบวนการไต่สวนเพื่อเรียกเอกสารพยานหลักฐานพยานบุคคลต่างๆ เพื่อพิจารณาร่วมกัน โดยมั่นใจว่าเราไม่ผิด คดีนี้ไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรค เพราะการกู้เงินไม่มีกฏหมายใดห้าม ก็มีหลายพรรคการเมืองที่กู้กัน และเงินกู้ไม่ใช่รายได้ ไม่ใช่ประโยชน์ ไม่ใช่เงินบริจาค รับมาแล้วต้องใช้คืนและเราทยอยคืนไปแล้วบางส่วน พรรคกู้มาเพื่อทำกิจการพรรค ไม่ใช่มาประกอบธุรกิจ ตนอยากฝากไปถึงบรรดานักร้องว่า ในเมื่อกฏหมายมันไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ต้องยอมรับและยุติ ถ้ามัวแต่จะหาช่องกันแบบนี้ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ก็จะไม่เกิด
"เราไม่เคยปฏิเสธกระบวนการการตรวจสอบ พร้อมจะยืนอยู่ในที่แจ้งพร้อมจะถูกตรวจสอบตลอดเวลา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ผิดต้องยอมรับ มิใช่หาช่องทางเพื่อที่จะนำไปสู่การยุบพรรคให้ได้" นายปิยบุตรกล่าว
นายธนาธรยังกล่าวถึงการเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงว่า ไม่ได้ร่วมเพื่อการตัดสินคดีในวันนี้ หรือวันหลัง ตนเข้าร่วมด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้ยังมีการข่มขู่คุกคามปิดกั้นการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่ในหลายจังหวัด พรรคยืนยันว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ได้รับการรองรับไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พรุ่งนี้ (22 ม.ค.) กมธ.สิทธิมนุษยชน สภาฯ จะมีการเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ ม.พะเยา ที่มีการดำเนินการต่อนักศึกษาที่เข้าไปร่วมกิจกรรมทางสังคม การชุมนุม การแสดงออกสิ่งใดที่ตนคิดว่ามีประโยชน์ต่อประเทศตนก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมในฐานะประชาชนคนหนึ่ง