รมว.ทส. วอน ปชช. ร่วมมือ ใช้มาตรการแก้มลพิษฝุ่น หวังไม่ต้องใช้ยาแรง จำกัด วิ่งรถบรรทุกเข้ากทม. ช่วงมค.-กพ. ย้ำ กรมป่าไม้ ยึดกฎหมาย ปมที่ดินปารีณา เผย เร็วๆ นี้ รู้ผลตีความจากกฤษฎีกา
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ว่า วันนี้ตนเองกับทีมงานก็ใช้วิธีคาร์พูล ดังนั้นถ้าใครบ้านใกล้กันก็ขอให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน สลับกันใช้รถ อย่างไรก็ตาม โดยสภาพอากาศและมลพิษที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเราต้องมาแก้ไขกันที่ปลายเหตุ เมื่อเรารู้ว่าสถานการณ์ฝุ่นยังไม่ดีขึ้นสภาพอากาศแย่มากก็อาจจะต้องพกหน้ากากติดตัวออกมาจากบ้าน
นายวราวุธ กล่าวว่า ทางรัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการควบคุมมลพิษเตรียมนำเสนอมาตรการ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 21 ม.ค.นี้ ที่จะห้ามให้รถบรรทุกเข้ากรุงเทพชั้นใน โดยขีดเส้นไว้ที่ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกและให้เข้าเฉพาะวันคู่ ไม่ให้เข้าวันคี่ ซึ่งจะเป็นการสกัดต้นตอของสาเหตุ เนื่องจากตัวเลขที่ได้รับรายงานในกรุงเทพมหานครปริมาณ PM2.5 ที่เกิดขึ้น 72% มาจากยวดยานพาหนะบนท้องถนน ดังนั้นแต่ละมาตรการที่จะออกมานั้นต้องเรียงจากการขอความร่วมมือ และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้การจะออกมาตรการใด พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นห่วงถึงความสะดวกของพี่น้องประชาชนด้วย และขอความร่วมมือจากทุกคนในการช่วยกันแก้ปัญหา ปริมาณ PM2.5 เช่นกัน
นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการทำความเข้าใจระหว่างทางกระทรวงกับผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกจะมีการหารือพูดคุยกัน และภาคอุตสาหกรรมก็ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อระบุว่ายินดีช่วยลดปริมาณการผลิต อย่างไรก็ตามมาตรการที่ขอความร่วมมือนี้ไม่ใช่การบังคับใช้ทั้ง 365 วัน เรื่องรถบรรทุกก็ขอความร่วมมือเพียงแค่เดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์เท่านั้น เพื่อบรรเทาสถานการณ์ลง พอสภาพอากาศที่เหมือนฝาชีครอบประเทศไทยเปลี่ยนไปมีลมพัดมากขึ้น ก็จะเปิดให้รถวิ่งมากขึ้นเหมือนเดิมเพียงแต่ในเมื่อวันนี้สภาพอากาศเป็นเช่นนี้เราทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมี จิตสำนึกและความตื่นตัวเรื่องมลภาวะ PM2.5 มาตรการของเราคงไม่ต้องไปถึงการใช้ยาแรง
นายวราวุธ ยังกล่าวถึงกรณี ความคืบหน้าปัญหาการถือครองที่ดินของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า ล่าสุดอธิบดีกรมป่าไม้ รายงานว่าทางกฤษฎีกา เชิญทั้งกรมป่าไม้ไปให้ข้อมูลเป็นครั้งที่สองแล้ว ดังนั้นภายในเร็ววันนี้ คงจะได้ข้อสรุปจากทางกฤษฎีกากลับมา และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างแน่นอน ไม่มีการชะลอ ไม่มีการยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนไว้ใจและอุ่นใจได้ว่าเราทำตามกฏหมายไม่มียกเว้น กฎหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีใช้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ
เมื่อถามว่ากฤษฎีกามีกรอบการทำงานหรือไม่ และทางกระทรวงได้เร่งรัดสอบถามไปหรือไม่ รมว.ทส. กล่าวว่า ได้บอกว่าขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะกรณีนี้เป็นเรื่องที่จับตาของสังคม แต่ถ้าจะเร่งไปมาก ก็จะโดนบางคนฟ้องร้องกลับมาหาว่าเราเลือกปฏิบัติเร่งรัดแต่กรณีนี้ จึงขอเรียนว่าการดำเนินงานของกรมป่าไม้นั้นเราทำเป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกๆ กรณี
