นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง การแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานว่า วันนี้ตนเองกับทีมงานก็ใช้วิธีคาร์พูล ดังนั้น ถ้าใครบ้านใกล้กันก็ขอให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน สลับกันใช้รถ อย่างไรก็ตามโดยสภาพอากาศและมลพิษที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเราต้องมาแก้ไขกันที่ปลายเหตุ เมื่อเรารู้ว่าสถานการณ์ฝุ่นยังไม่ดีขึ้น สภาพอากาศแย่มาก ก็อาจจะต้องพกหน้ากากติดตัวออกมาจากบ้าน
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการควบคุมมลพิษ เตรียมนำเสนอมาตรการ เข้าที่ประชุมครม.ในวันอังคารที่ 21 ม.ค.นี้ ที่จะห้ามให้รถบรรทุกเข้ากรุงเทพชั้นใน โดยขีดเส้นไว้ที่ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอก และให้เข้าเฉพาะวันคู่ ไม่ให้เข้าวันคี่ ซึ่งจะเป็นการสกัดต้นตอของสาเหตุ เนื่องจากตัวเลขที่ได้รับรายงานในกรุงเทพมหานคร ปริมาณ PM2.5 ที่เกิดขึ้น 72% มาจากยวดยานพาหนะบนท้องถนน ดังนั้น แต่ละมาตรการที่จะออกมานั้นต้องเรียงจากการขอความร่วมมือ และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การจะออกมาตรการใด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นห่วงถึงความสะดวกของพี่น้องประชาชนด้วย และขอความร่วมมือจากทุกคนในการช่วยกันแก้ปัญหา ปริมาณ PM2.5เช่นกัน
ส่วนเรื่องการทำความเข้าใจระหว่างทางกระทรวงฯ กับผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุก จะมีการหารือพูดคุยกันและภาคอุตสาหกรรมก็ได้ติดต่อเข้ามา เพื่อระบุว่ายินดีช่วยลดปริมาณการผลิต อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ขอความร่วมมือนี้ ไม่ใช่การบังคับใช้ทั้ง 365 วัน เรื่องรถบรรทุก ก็ขอความร่วมมือเพียงแค่เดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ เท่านั้น เพื่อบรรเทาสถานการณ์ลงพอสภาพอากาศที่เหมือนฝาชีครอบประเทศไทยเปลี่ยนไปมีลมพัดมากขึ้น ก็จะเปิดให้รถวิ่งมากขึ้นเหมือนเดิม เพียงแต่ในเมื่อวันนี้สภาพอากาศเป็นเช่นนี้ เราทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมีจิตสำนึกและความตื่นตัวเรื่องมลภาวะ PM2.5 มาตรการของเราคงไม่ต้องไปถึงการใช้ยาแรง
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 13.30 น. วันนี้ (17 ม.ค.) ตนจะเป็นประธานหารือ การประชาสัมพันธ์และสร้างการเรียนรู้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กทม.จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ กรมทางหลวง กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา เข้าร่วม
ทั้งนี้ เพื่อกำหนดแนวทางนโยบายประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจประชาชนถึงการดำเนินการของรัฐบาลในการแก้ปัญหา การป้องกันและการดูแลประชาชน รวมถึงการเผยแพร่มาตรการต่างๆที่กำลังดำเนินการและมาตรการต่างๆที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการควบคุมมลพิษ ยกระดับการแก้ไขปัญหา ที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร)ในวันที่ 21 ม.ค.ที่จ.นราธิวาส เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้เพิ่มความเข้มข้นในการประชาสัมพันธ์ การสื่อสารที่ชัดเจนไปถึงประชาชน และสร้างความเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการจากสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่า เตรียมจะทบทวนมาตรการทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยใช้หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อช่วยลดปัญหา PM 2.5 ว่า ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับจากภาคเอกชนอยู่แล้ว แต่การแก้ปัญหา PM2.5หากจะทำให้สำเร็จ ต้องคุยกันทั้งระบบ ทั้งลดวันทำงาน และเหลื่อมเวลาเข้างาน เข้าเรียน โดยเฉพาะในระบบราชการ ที่ส่วนมากเป็นการเตรียมเอกสาร ต้องยืดหยุ่น เรื่องกฏระเบียบ ปรับวิธีคิดการทำงานในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ที่มีปัญหามลพิษ
นโยบายพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องการทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน เป็นกระแสโลกที่กำลังมา หากเชื่อมโยงกันได้ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหามลพิษ ยังช่วยลดเวลาในการเดินทางวันละหลายชั่วโมง นำมาใช้ประโยชน์ทั้งการเรียน และการทำงาน
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการควบคุมมลพิษ เตรียมนำเสนอมาตรการ เข้าที่ประชุมครม.ในวันอังคารที่ 21 ม.ค.นี้ ที่จะห้ามให้รถบรรทุกเข้ากรุงเทพชั้นใน โดยขีดเส้นไว้ที่ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอก และให้เข้าเฉพาะวันคู่ ไม่ให้เข้าวันคี่ ซึ่งจะเป็นการสกัดต้นตอของสาเหตุ เนื่องจากตัวเลขที่ได้รับรายงานในกรุงเทพมหานคร ปริมาณ PM2.5 ที่เกิดขึ้น 72% มาจากยวดยานพาหนะบนท้องถนน ดังนั้น แต่ละมาตรการที่จะออกมานั้นต้องเรียงจากการขอความร่วมมือ และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การจะออกมาตรการใด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นห่วงถึงความสะดวกของพี่น้องประชาชนด้วย และขอความร่วมมือจากทุกคนในการช่วยกันแก้ปัญหา ปริมาณ PM2.5เช่นกัน
ส่วนเรื่องการทำความเข้าใจระหว่างทางกระทรวงฯ กับผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุก จะมีการหารือพูดคุยกันและภาคอุตสาหกรรมก็ได้ติดต่อเข้ามา เพื่อระบุว่ายินดีช่วยลดปริมาณการผลิต อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ขอความร่วมมือนี้ ไม่ใช่การบังคับใช้ทั้ง 365 วัน เรื่องรถบรรทุก ก็ขอความร่วมมือเพียงแค่เดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ เท่านั้น เพื่อบรรเทาสถานการณ์ลงพอสภาพอากาศที่เหมือนฝาชีครอบประเทศไทยเปลี่ยนไปมีลมพัดมากขึ้น ก็จะเปิดให้รถวิ่งมากขึ้นเหมือนเดิม เพียงแต่ในเมื่อวันนี้สภาพอากาศเป็นเช่นนี้ เราทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งเชื่อว่าทุกคนมีจิตสำนึกและความตื่นตัวเรื่องมลภาวะ PM2.5 มาตรการของเราคงไม่ต้องไปถึงการใช้ยาแรง
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 13.30 น. วันนี้ (17 ม.ค.) ตนจะเป็นประธานหารือ การประชาสัมพันธ์และสร้างการเรียนรู้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กทม.จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ กรมทางหลวง กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา เข้าร่วม
ทั้งนี้ เพื่อกำหนดแนวทางนโยบายประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจประชาชนถึงการดำเนินการของรัฐบาลในการแก้ปัญหา การป้องกันและการดูแลประชาชน รวมถึงการเผยแพร่มาตรการต่างๆที่กำลังดำเนินการและมาตรการต่างๆที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการควบคุมมลพิษ ยกระดับการแก้ไขปัญหา ที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร)ในวันที่ 21 ม.ค.ที่จ.นราธิวาส เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องการให้เพิ่มความเข้มข้นในการประชาสัมพันธ์ การสื่อสารที่ชัดเจนไปถึงประชาชน และสร้างความเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการจากสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่า เตรียมจะทบทวนมาตรการทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยใช้หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อช่วยลดปัญหา PM 2.5 ว่า ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับจากภาคเอกชนอยู่แล้ว แต่การแก้ปัญหา PM2.5หากจะทำให้สำเร็จ ต้องคุยกันทั้งระบบ ทั้งลดวันทำงาน และเหลื่อมเวลาเข้างาน เข้าเรียน โดยเฉพาะในระบบราชการ ที่ส่วนมากเป็นการเตรียมเอกสาร ต้องยืดหยุ่น เรื่องกฏระเบียบ ปรับวิธีคิดการทำงานในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ที่มีปัญหามลพิษ
นโยบายพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องการทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน เป็นกระแสโลกที่กำลังมา หากเชื่อมโยงกันได้ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหามลพิษ ยังช่วยลดเวลาในการเดินทางวันละหลายชั่วโมง นำมาใช้ประโยชน์ทั้งการเรียน และการทำงาน
