“ปิยบุตร” อ้างมีเอกสารหลุด คณะกรรมการสืบสวน-ไต่สวนของ กกต.ยกคำร้องคดีเงินกู้ “ธนาธร” ไปแล้ว แต่ กกต.ใหญ่กลับมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค อนค.โดยพ่วงความผิดมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ทั้งที่ “ศรีสุวรรณ” ยื่นคำร้องให้เอาผิดตาม ม.66 โวยกระเหี้ยนกระหือรือจะยุบอนาคตใหม่ ขู่เอาผิด ม.157 ถึงขั้นติดคุก
วันนี้ (10 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามมาตรา 66 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคมาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องจาก กกต.ไว้วินิจฉัยว่าจะยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ โดยให้เวลาพรรคอนาคตใหม่ยื่นเอกสารภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันนี้ แต่เนื่องจากติดวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงได้ขอขยายเวลาต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 27 ม.ค. 63
นายปิยบุตรกล่าวว่า เราตั้งข้อสังเกตว่า กกต.มีมติยื่นคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา จนทำให้พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถเตรียมข้อมูลเพื่อไปให้ปากคำได้ ล่าสุดตนได้เอกสารการพิจารณาในชั้นของ กกต.มาทั้งหมด จากการศึกษาเอกสารจึงรู้ว่า กกต.น่าจะทำผิดกฎหมาย ข้ามขั้นตอนอย่างชัดเจน
นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า โดยจุดเริ่มต้นของคดีมาจากนายศรีสุวรรณ ที่ยื่นคำร้องร้องกล่าวหาว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่บริจาคให้พรรคเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายความผิดมาตรา 66 ต่อมา กกต.ได้เรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องซึ่งกระบวนการทั้งหมดมีการพิจารณาเสร็จแล้ว จนวันที่ 13 สิงหาคม 2562 คณะกรรมาการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 13 ได้มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง เหตุผลมีการกู้เงินจริง พรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้ และในอดีตตพรรคการเมืองอื่นก็ได้กู้ และยังมีการระบุว่า เงินกู้ไม่ใช่รายได้ แต่เป็นหนี้สิน จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 66
นายปิยบุตรกล่าวว่า ดังนั้นเมื่อยกคำร้องเรื่องนี้ต้องจบได้แล้ว แต่ปรากฏว่าท่านไม่จบ เพราะ กกต.ตัดสินใจเดินหน้าส่งให้สำนักสืบสวนสอบสวนเพื่อทำการไต่สวนต่อ แล้วมีการสืบสวนกันไปประมาณ 1 เดือน แล้วคณะสืบสวนดังกล่าวก็มีมติยกคำร้อง และเมื่อเรื่องมาถึง กกต. จากนั้น กกต.ได้ส่งเรื่องไปให้อนุกรรมการ โดยมีความเห็น 3 ต่อ 2 ให้ยกคำร้อง จากนั้น กกต.ได้มีมติส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยตนตั้งข้อสังเกตว่า กกต.ไม่แจ้งข้อกล่าวหากับทางพรรค ทั้งที่เรื่องนี้มันถูกยกคำร้องไปแล้ว ตั้งแต่คณะกรรมการชุดที่ 13 แล้ว อย่างไรก็ตาม ทุกคณะไต่สวนดูแค่มาตรา 66 ตามคำร้อง แต่อยู่ดีๆ กกต.ได้มีมติเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 แถมมาตรา 72 โดยเป็นความผิดถึงขั้นยุบพรรคการเมือง
“แบบนี้จะไม่ให้ผมคิดได้อย่างไรว่าคุณกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะยุบพรรคอนาคตใหม่ ถึงต้องเติมความผิดมาตรา 72 มาให้ได้ เพราะมันเป็นมาตราเดียวที่อ้างไปถึงการยุบพรรคทั้งๆ ที่เหตุของเรื่องนี้เริ่มต้นที่มาตรา 66 ถึงแม้ว่า กกต.จะอ้างว่าเป็นคนละคำร้องกัน แต่ผมทราบว่าในเอกสารที่ทาง กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคำร้องมาตรา 66 ทั้งหมด เรียกง่ายว่า เอากระบวนการผลผลิตของกระบวนการไต่สวนของมาตรา 66 ไปเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญ แล้วบวกมาตรา 72 เข้าไปด้วย ที่ผ่านมาเราสู้กันตามมาตรา 66 อยู่ดีๆ โผล่มามาตรา 72 ตอนสุดท้าย เหมือนมีคนมาบอกว่าต้องใช้อันนี้ถึงจะเข้าเป้า” นายปิยบุตรกล่าว
นายปิยบุตรกล่าวว่า เอกสารที่ได้มาตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าเป็นเอกสารจริง หาก กกต.จะมาบอกว่าไม่ใช่เอกสารจริงก็ไม่เป็นไร ให้ไปสู้กันในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ตนจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดกระบวนการไต่สวนเรียกพยานเอกสารชุดนี้เข้ามาพิจารณากันในศาล จะได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วคุณทำผิดขั้นตอนจริงหรือไม่ และถ้าทำผิดจริง เราจะฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีความผิดถึงขั้นเข้าคุก ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดใช้องค์กรอิสระมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาความน่าเชื่อถือของ กกต.มันต่ำตั้งเริ่มแรกที่คุณไปเชื่อมโยงกับ คสช.แล้ว
“องค์กรอิสระต้องอิสระจากคณะรัฐประหาร และผู้มีอำนาจทางการเมือง ไม่ใช่อิสระจากประชาชน ผมอยากให้ กกต. ทั้ง 7 คนไปส่องกระจกแล้วถามตัวเองว่ามีจิตสำนึกได้หรือยังว่ากำลังทำอะไรอยู่ และฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ กกต.ที่รู้สึกอึดอัด และทนกับพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้ ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์” นายปิยบุตรกล่าว
อนึ่ง สำหรับคดียุบพรรคอนาคตใหม่ที่ กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 62 นั้น นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 62 และยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อ 23 ก.ย. 62 แต่ทางพรรคได้ขอขยายเวลาออกไป 120 วัน ซึ่งทาง กกต.เห็นว่าเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป จึงกำหนดเวลาให้ส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 2 ธ.ค. 62 แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ส่งเอกสารภายในวันดังกล่าว กกต.จึงได้ประชุมเพื่อวินิจฉัยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีมติเสียงส่วนใหญ่ 5 ต่อ 2 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเห็นว่าตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไม่เปิดโอกาสให้พรรคกู้ยืมเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของพรรคได้ ขณะเดียวกันมาตรา 66 ก็กำหนดให้นิติบุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น เงินกู้ดังกล่าวจึงเข้าลักษณะการรับประโยชน์อื่นใดที่ตามมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดว่า ห้ามพรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) และมีโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือ ใบดำคณะกรรมการบริหารพรรค