ผู้จัดการรายวัน360- มติกกต. 5 ต่อ 2 ชงศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินธนาธร191ล้านบาท ชี้กรรมการบริหารพรรค ส่อถูก"ใบดำ" เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ตามรอยพรรคไทยรักษาชาติ ด้านอนาคตใหม่ โพสต์ทวีตเตอร์ เย้ยว่า "#อนาคตใหม่ #กลัวที่ไหน" ขณะที่ "ปิยบุตร" แถลงไม่ยอมรับมติ กกต. ซัดเป็นวันอัปยศในการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ลั่นหนังม้วนนี้จะไม่จบแบบเดิม ขอศาลรธน.เปิดโอกาสชี้แจง
วานนี้ ( 11 พ.ย.) สำนักงานกกต. ได้ออกเอกสารข่าว หลังการประชุมกกต. ว่า กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ โดยที่ประชุมได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีพรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แล้ว เห็นว่าการที่พรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงินจากนายธนาธร เป็นเงินจำนวน 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
ทั้งนี้มีรายงานว่า มติดังกล่าว เป็นมติ 5 ต่อ 2 เสียง ที่ให้ยื่นยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเห็นว่าตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่เปิดโอกาสให้พรรคกู้ยืมเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของพรรคได้ ขณะเดียวกันมาตรา 66 ก็กำหนดให้นิติบุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกิน รายละ 10 ล้านบาทต่อปี เท่านั้น เงินกู้ดังกล่าวจึงเข้าลักษณะการรับประโยชน์อื่นใด ที่ตามมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดว่า ห้ามพรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้ หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตาม มาตรา 92(3) และมีโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ "ใบดำ" คณะกรรมการบริหารพรรค โดยโทษดังกล่าวตามกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เคยมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติตาม มาตรา 92 และกำหนดโทษการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา10 ปี
อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ในข่ายอาจต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัคร เนื่องจากเป็นชุดที่อยู่ในช่วงที่มีการกู้ยืมเงิน 2 ม.ค. 62 จากนายธนาธร นั้น มีทั้งสิ้น 16 คน ประกอบด้วย 1. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2. นายปิยบุตร แสงกนกกุล 3. น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 4 . นายชำนาญ จันทร์เรือง 5. พล.ท.พงศกร รอดชมภู 6. นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร 7. น.ส.พรรณิการ์ วานิช 8. นายไกลก้อง ไวทยการ 9. นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ 10. นายสุนทร บุญยอด 11. นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ 12. นายสุรชัย ศรีสารคาม 13. นายเจนวิทย์ ไกรสิงห์ 14 . นายชัน ภักดีศิริ 15 . นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ 16 .นายนิรามาน สุไลมาน ( ปัจจุบันลาออก) ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้ที่เป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ 11 คน เมื่อต้องถูก"ใบดำ" และพรรคถูกคำสั่งยุบ ก็จะเกิดปัญหาต่อจำนวน ส.ส.ในสภา ที่จะต้องหายไปเพราะไม่มีบัญชีให้เลื่อนบุคคลขึ้นมาทำหน้าที่
ขณะที่ในส่วนของ ส.ส.บัญชี 51 คน และ ส.ส.เขต 30 คน สามารถที่จะหาพรรคการเมืองสังกัดใหม่ได้ ภายใน 60 วัน นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง กกต.มีมติ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่นั้น ปรากฏว่า ทางพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวีตเตอร์ ว่า "#อนาคตใหม่ #กลัวที่ไหน"
ปิยบุตร แถลงไม่ยอมรับมติ กกต.
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังรับทราบมติ กกต. ว่า ไม่เห็นด้วยมติ กกต. ที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคจากกรณีที่พรรคกู้เงินนายธนาธร 191 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อเคลือบแคลงสงสัยต่อการทำงานการใช้กฎหมาย ดุลพินิจของกกต. มีวัตถุประสงค์เป็นเครื่องมือทางการเมือง
โดยตั้งข้อสังเกตว่า กกต. เร่งรัดคดีกู้เงินผิดสังเกต ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไม่มีการสอบสวน มีเพียงการเรียกให้ชี้แจงเพียง 3 ครั้ง ในชั้นของกรรมการไต่สวน นอกจากนี้ ชี้นำสังคมจากสื่อมวลชน และกระบวนการทำงานในคดีมีเอกสารหลุดออกมานั้น ลงนามเลขาธิการ กกต.
นายปิยบุตร กล่าวว่า กกต.มีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 72 ตามกฎหมายพรรคการเมือง “ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”
ทั้งนี้ ตามกฎหมาย หมายถึง เงินนั้นได้มาจากการฟอกเงิน คอร์รัปชัน การขายยาเสพติด หรือปล้นมา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่การได้เงินจากการกู้เงินจากหัวหน้าพรรค ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ทั้งนี้รู้สึกผิดหวังเอกสาร กกต.ออกมา 5 บรรทัดเท่านั้น วันนี้ถือเป็นวันอัปยศในการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
พร้อมกันนี้ นายปิยบุตร ได้เรียกร้องให้ กกต.ฟังความเห็นของสังคมทั้งสื่อออนไลน์ หรือความเห็นของเพื่อน ส.ส.ในสภาฯ ที่ต่างมาให้กำลังใจตัวเอง ซึ่งทุกคนตั้งคำถามและมีความคลางแคลงใจในมติครั้งนี้ และวิกฤตทางการเมือง 13 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ทั้งนี้ ยังเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันให้ฟังเสียงประชาชน เห็นหัวประชาชน วันนี้หนังม้วนเก่าฉายซ้ำ แต่หนังม้วนนี้จบไม่เหมือนเดิมแน่นอน
ขณะเดียวกัน ยังเรียกร้องไปถึงการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม โดยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องเปิดโอกาสให้พรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา อย่าเร่งรัดตัดตอน พร้อมยืนยันว่า กำลังใจของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค ยังมีกำลังใจที่ดี ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และกรณีนี้ไม่สามารถหยุดยั่งการทำหน้าที่ของพรรคอนาคตใหม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการตั้งพรรค คิดว่าจะมาถึงวันนี้ แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
ส่วนประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตกรณีการสื่อสารกับประชาชนอย่ายอมให้เรื่องนี้ยุติแค่นี้จะเป็นการระดมมวลชนหรือไม่นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ความอึดอัดของประชาชนคนไทยมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของความสองมาตรฐานในการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมือง เป็นความคิดที่ไหลเวียนมากว่าทศวรรษแล้ว กรณีอย่างนี้ยิ่งไปตอกลิ่มตอกย้ำเข้าไปอีก ตนคิดว่าในฐานะประชาชนคนไทยเขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามตนไปตัดสินแทนประชาชนไม่ได้