อนาคตใหม่เตรียมฟ้อง กกต.ฐานผิด ม.157 เร่งรัดลงมติยุบพรรค จากเหตุกู้เงิน “ธนาธร” โดยไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจง ”ปิยบุตร” ท่องคำเดิม “เงินกู้ไม่ใช่รายได้” อ้างเจตนารมณ์ ม.72 แค่ไม่อยากให้รับเงินนอกกฎหมายมาทำงานการเมือง ขู่ กกต.อย่าโกหกตัวเอง เรียกร้อง จนท.ออกมาเปิดเผยข้อมูล
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีพรรคกู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคจำนวน 191 ล้านบาท ว่าพรรคเตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีอาญาต่อคณะกรรมการ กกต. ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยจะยื่นฟ้องภายในสัปดาห์นี้
นายปิยบุตรกล่าวว่า กกต.ได้เร่งรัดการไต่สวนในคดีนี้เพื่อรีบส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ตามขั้นตอนการดำเนินงานรับคำร้องและส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญของ กกต.จะต้องมีการไต่สวนจากผู้ถูกกล่าวหา และให้ผู้ถูกกล่าวหาทำคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐาน จากนั้นเลขาธิการ กกต.จึงเสนอสำนวนให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยเพื่อเสนอความเห็นต่อ กกต.ก่อนที่จะมีมติว่าจะฟ้องหรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่มีเพียงขั้นตอนการสืบสวนไต่สวน และเข้าสู่กระบวนการมีมติสั่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที
นายปิยบุตรได้ยกตัวอย่างกรณีที่เคยมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ หลังพบว่ามีการกู้เงิน และศาลได้มีคำวินิจฉัยยกคำร้องเหตุเพราะ กกต.ไม่ได้ทำตามกระบวนการขั้นตอนที่กำหนดไว้ ส่วนการที่ กกต.ส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญโดยอ้างว่าผิดมาตรา 72 เจตนารมณ์ของมาตรา 72 คือไม่ต้องการให้รับเงินนอกกฎหมายมาทำงานการเมือง เมื่อพรรคอนาคตใหม่พิจารณาแล้วไม่เกี่ยวกับการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่เลย จึงตั้งข้อสังเกตว่าทำไม กกต.จึงเจาะจงใช้มาตรา 72 ในการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อดูแล้วเงินกู้ไม่ใช่รายได้ จึงไม่เข้าข่ายมาตรา 72 และเอามาลงโทษกับพรรคอนาคตใหม่ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีกับ กกต.
นายปิยบุตรยังกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ กกต.อย่าโกหกตัวเอง เพราะขณะนี้มีความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชน และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการที่ไม่เห็นชอบกับการทำงานของ กกต.ออกมาเปิดเผยข้อมูลให้สังคมรับทราบด้วย
อนึ่ง สำหรับคดียุบพรรคอนาคตใหม่ที่ กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 62 และยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อ 23 ก.ย. 62 แต่ทางพรรคได้ขอขยายเวลาออกไป 120 วัน ซึ่งทาง กกต.เห็นว่าเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป จึงกำหนดเวลาให้ส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 2 ธ.ค. 62 แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ส่งเอกสารภายในวันดังกล่าว กกต.จึงได้ประชุมเพื่อวินิจฉัยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา และมีมติเสียงส่วนใหญ่ 5 ต่อ 2 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเห็นว่าตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไม่เปิดโอกาสให้พรรคกู้ยืมเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของพรรคได้ ขณะเดียวกันมาตรา 66 ก็กำหนดให้นิติบุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น เงินกู้ดังกล่าวจึงเข้าลักษณะการรับประโยชน์อื่นใดที่ตามมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดว่า ห้ามพรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) และมีโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือ ใบดำคณะกรรมการบริหารพรรค