เพจอนาคตใหม่โพสต์แผนภาพ อ้าง กกต.ไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจงปม “ธนาธร” ปล่อยเงินกู้ 191 ล้านบาทให้พรรค รีบฟันจนผิดขั้นตอน ขัดต่อหลักการรับฟังความสองฝ่าย ยกคดีทีพีไอโพลีนบริจาคพรรคประชาธิปัตย์เทียบเคียง บอกให้รอดูคดีเงินกู้พรรคจะออกมาอย่างไร
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 06.02 น. แฟนเพจ พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party ได้โพสต์ข้อความว่า “กกต.รีบฟันจนทำผิดขั้นตอนกฎหมายเสียเอง? การที่ กกต.ไม่แจ้งข้อกล่าวหาและไม่เปิดให้พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงข้อกล่าวหานั้น ขัดต่อหลักการรับฟังความสองฝ่าย หรือหลักรับความอย่างเต็มที่ อันเป็นหลักกฎหมายวิธีพิจารณาความในทุกระบบกฎหมาย
เมื่อกระบวนการดำเนินคดีเป็นไปโดยไม่ถูกต้องตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวางบรรทัดฐานไว้ในคำวินิจฉัยที่ 15/2553 คดีทีพีไอโพลีนบริจาค 258 ล้านให้พรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นกรณีที่ต้องยกคำร้องเพราะ กกต.ดำเนินการไม่ครบกระบวนการตามที่กฎหมายกำหนด
งานนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่จะออกมาเป็นอย่างไร?”
นอกจากนี้ แฟนเพจพรรคอนาคตใหม่ยังได้โพสต์แผนภาพขั้นตอนตามกฎหมายเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ โดยอ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่นั้นไม่มีขั้นตอนการสืบสวนและไต่สวนแจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ถูกกล่าวหาทำคำชี้แจงข้อกล่าวหาพร้อมพยานหลักฐาน เลขาธิการ กกต.นำเสนอสำนวนต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัย แล้วเสนอความเห็นต่อ กกต. แล้ว กกต.จึงมีมติส่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กกต.ได้เปิดโอกาสให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหลักฐานชี้แจงข้อกล่าวหากรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ปล่อยเงินกู้ให้พรรคตัวเองจำนวน 191 ล้านบาท ตามที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 62 และยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อ 23 ก.ย. 62 แต่ทางพรรคได้ขอขยายเวลาออกไป 120 วัน ซึ่งทาง กกต.เห็นว่าเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไป จึงกำหนดเวลาให้ส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 2 ธ.ค. 62 แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ส่งเอกสารภายในวันดังกล่าว กกต.จึงถือว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ติดใจ
ต่อมา กกต.ได้ประชุมวินิจฉัยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติเสียงส่วนใหญ่ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเห็นว่าตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไม่เปิดโอกาสให้พรรคกู้ยืมเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของพรรคได้ ขณะเดียวกันมาตรา 66 ก็กำหนดให้นิติบุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น เงินกู้ดังกล่าวจึงเข้าลักษณะการรับประโยชน์อื่นใดที่ตามมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดว่า ห้ามพรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าข่ายศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) และมีโทษเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือ ใบดำคณะกรรมการบริหารพรรค
มติ กกต.ดังกล่าว ทำให้นายธนาธรแสดงความไม่พอใจ และได้ลาออกจากกรรมาธิการต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่ามีคนไม่ต้องการเห็นตนอยู่ในสภา พร้อมประกาศจะออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนน เริ่มชิมลางด้วยการจัดแฟลชม็อบบริเวณสกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.