“หมอวรงค์” แฉพฤติกรรมสุดทรามของกลุ่มผู้จัด“วิ่ง ไล่ ลุง” แอบอ้างชื่อ รร.อนุกูลนารี จ.กาฬสินธุ์ จัดงานทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต ด้าน ผอ.จวกยับ ทำลายอนาคตเด็กชัดๆ พร้อมเอาผิดทุกช่องทาง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งวันนี้(5 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์ หัวข้อ “พฤติกรรมวิ่งไล่ลุง”
โดยระบุว่า “กลายเป็นว่า การใช้สถานที่โรงเรียนอนุกูลนารี กาฬสินธุ์ จัดกิจกรรมการเมืองวิ่งไล่ลุง เป็นการแอบอ้างของผู้จัด โดยผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้อนุญาต แต่นำไปเผยแพร่โฆษณาเสียเอง
การออกหนังสือตราครุฑของทางราชการ ชื่อโรงเรียน แต่ลงนามกันเอง ก็เป็นการขัดระเบียบราชการ
ที่สำคัญวันเสาร์และอาทิตย์ ทางโรงเรียนก็มีการจัดติวสำหรับนักเรียนชั้นม.6 เพื่อเตรียมสอบแอดมิชชั่น แต่คนเหล่านี้ก็หวังที่จะดึงเด็กๆร่วมกิจกรรมล้างสมอง
สะท้อนให้เห็นว่า พวกวิ่งไล่ลุง กระทำในสิ่งต่างๆโดยไม่สนใจกฎ กติกา บิดเบือนข้อเท็จจริง ทุกฝ่ายต้องช่วยกันปกป้องเด็กและเยาวชนที่จะเป็นเหยื่อ เสียเลือดเนื้อเพื่ออำนาจทางการเมืองของกลุ่มพวกเขา
#saveเด็กและเยาวชน
ทั้งนี้ จากกรณีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มอนาคตใหม่ และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมากระจายข่าวผ่านโลกโซเชียล อ้างว่า ที่โรงเรียนอนุกูลนารี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ จะมีการจัดกิจกรรม วิ่ง-ไล่-ลุง ในวันที่ 12 ม.ค.63 เวลา 13.00 น. และมีการนัดแนะให้มารวมตัวกันที่สนามโรงเรียนอนุกูลนารีนั้น
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้รับคำยืนยันจาก นายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี ว่า ไม่มีการจัดงานวิ่ง-ไล่-ลุง ในวันที่ 12 ม.ค.นี้อย่างแน่นอน
โดยผู้อำนวยการฯ ได้นำเอกสาร ที่ลงวันที่ 18 ธ.ค.62 ซึ่งเป็นเอกสารการขอใช้สถานที่จัดอบรม ถึงผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี ว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนายชโนทัย มาตศรี เป็นแกนนำฯ มาขอจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ซึ่งระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนว่า กลุ่มนี้ไม่เอารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องการชุมนุมเพื่อแสดงสัญลักษณ์จากประชาชน
กรณีดังกล่าว ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี ระบุว่า มีการขออนุญาตจริง แต่การออกเอกสาร ที่ระบุชื่อ นายชโนทัย มาตศรี แกนนำกลุ่มนั้น ถือเป็นเอกสารที่ไม่ผ่านการอนุญาตตั้งแต่ต้น เพราะหัวหนังสือที่ออกนั้น เป็นหนังสือที่ออกจากโรงเรียนอนุกูลนารี ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 จึงเป็นหนังสือที่ออกมาไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก
เพราะหากหัวหนังสือเช่นนี้ คนที่ลงนามนั้นจะต้องเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้นฯ อีกทั้งหนังสือนี้ผู้ที่นำหนังสือเข้ามา ก็เหมือนนำส่งหนังสือ โดยไม่ยอมแจ้งที่อยู่หรือระบุตัวตนที่ชัดเจน จึงเตรียมที่จะรอพบและจะแจ้งว่า โรงเรียนไม่อนุญาต แต่กลุ่มดังกล่าว กลับนำเอกสารฉบับนี้ไปลงกระจายข่าวในโลกโซเชียลช่วงต้นปี จึงทำให้ทางโรงเรียนเกิดความเสียหาย
และเพื่อความชัดเจน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.63 ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารีฯ ได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันต่อ ร.ต.อ.ธีรภาพ ภูขันซ้าย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในกรณีมีเฟซบุ๊กอนาคตใหม่-อุบลราชธานี แจ้งว่าจะมีการจัดกิจกรรม เพื่อขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง อย่างแน่นอน
นายเอกรักษ์ ผอ.โรงเรียนอนุกูลนารี กล่าวด้วยว่า กรณีการจัดกิจกรรมไม่เป็นความจริง เพราะทางโรงเรียนไม่มีนโยบาย แต่ทางโรงเรียนมีหน้าที่ขัดเกลาจิตใจ และพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาให้กับนักเรียน เหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นการพยายามสร้างความปั่นป่วน ปลุกระดมต่อเยาวชน จึงถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายต่อการสร้างกระบวนการเรียนรู้ เพราะเด็กนักเรียนในวัยนี้ มีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ เพื่อสร้างอนาคตให้กับตนเองเท่านั้น
การที่กลุ่มของนายชโนทัย มาตศรี อ้างตนว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ ไม่เอาเผด็จการ จึงเป็นการปลุกระดมที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะในขณะนี้ ในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทางโรงเรียนอนุกูลนารี กำลังทำการติวเข้มให้กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อที่จะไปสอบแอดมิชชั่น เข้ามหาวิทยาลัยฯ การกระทำดังกล่าว จึงเป็นการสร้างความไขว้เขวให้กับนักเรียนและคนในสังคม
“ผมจึงต้องขอให้ผู้ที่คิดจะมาปลุกระดมนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนไหน ให้ตระหนักและคิดให้มาก เพราะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นั้น เฉลี่ยจะมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น การที่นำการเมือง ที่ยั่วยุปลุกปั่น ตามกระแสให้สังคมเกียจชัง ถือเป็นการสร้างความระบาดทางอารมณ์ ผู้ปกครองจึงควรแนะนำบุตรหลานให้มีความเข้าใจ เพราะต้องเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต แน่นอนว่าทางโรงเรียนมีหน้าที่ให้การศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ จึงไม่ควรที่จะตกเป็นเครื่องมือของใคร”
มีรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากการเข้าลงบันทึกประจำวัน แล้ว ทางโรงเรียนฯโดยสภานักเรียน ยังได้ออกเอกสารทางโลกโซเชียลของทางโรงเรียน ถึงพฤติกรรมของบุคคลที่มีการแอบอ้างจะเข้ามาใช้สถานที่โรงเรียนอนุกูลนารี จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ว่าไม่เป็นความจริง และได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งในอนาคตหากยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ทางโรงเรียนอนุกูลนารี ก็เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไปด้วย(ข้อมูลจากคมชัดลึก)
สำหรับ กิจกรรมทางการเมือง “วิ่งไล่ลุง” ที่สวนรถไฟในวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค.63 ถูกปั่นกระแสในโลกโซเซียลอย่างร้อนแรง ล่าสุด(4 ม.ค.63) เพจเฟชบุ๊ก “วิ่งไล่ลุง - Run Against Dictatorship” ได้เผยแพร่หนังสั้น “วิ่งหรือนิ่ง 12 มกราคม 2563”
สาระสำคัญ เป็นการเล่าเรื่องผ่านชายแต่งกายคล้ายทหาร ออกมาวิ่งผ่านสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2557 และมีเสียงคล้ายกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในเหตุการณ์ชุมนุมของกปปส. พร้อมระบุว่า “คุณกับมวลมหาประชาชนเหนื่อยเกินไปแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ผม ที่จะทำภารกิจนี้แทน" เป็นต้น
ทั้งนี้ ในหนังสั้นยังมีประชาชนวิ่งไล่ตามชายใส่ชุดคล้ายทหาร พร้อมกับโยนนกหวีดทิ้ง นอกจากนี้ยังมีประโยคเสียดสีทางการเมือง ทั้งเรื่อง เรือดำน้ำ นาฬิกา เป็นต้น
ประเด็นที่น่าสนใจจากโพสต์ของ หมอวรงค์ ก็คือ ความพยายามที่จะใช้สถานศึกษาในต่างจังหวัด เพื่อแทรกซึมเข้าไปทำกิจกรรม มอมเมาทางความคิด ปลุกระดมทางความเชื่อ ให้ฝังหัวตั้งแต่เป็นเยาวชน หนักเข้าก็คือ การล้างสมองอย่างที่ “หมอวรงค์” ว่า
นับเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศชาติ และประชาชน ที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ถ้าไม่อยากเห็นการ “สิ้นชาติ” อย่างที่หลายคนเริ่มส่งสัญญาณให้เห็น เพราะพฤติกรรมที่ต้องการล้างสมอง เป็นความเชื่อทางการเมืองที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างชนิดขุดรากถอนโคน
จากที่มีรากเหง้าทางวัฒนธรรม เป็นไม่มีรากเหง้าทางวัฒนธรรม จากที่มีสถาบันหลักให้ยึดเหนี่ยว เป็นข้ออ้างเสมอภาคที่ไม่ต้องมีอะไรยึดเหนี่ยว จากที่มีความเชื่อทางศาสนา เป็นไม่มีจำเป็นต้องมีความเชื่อทางศาสนา ลองคิดดูว่า อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร อยู่อย่างไร
นี่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญ ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า การทำงานการเมืองแบบไม่รับผิดชอบของเด็กพวกนี้!?