รมว.ยธ. เผย พ.ร.บ.งบฯ 63 ใช้ได้ต้นปีก็เบาใจเรื่องศก.ได้ ค้านก่อม็อบทำขัดแย้ง ประเทศชะงัก รับเสียงปริ่มน้ำต้องคุยกันมากขึ้น ธรรมดามีงูเห่าทุกรบ. สหรัฐยังอาจมี ปรับครม.ไม่น่าตกใจ แต่ไม่เกี่ยวซักฟอก รับเป็นไปได้สูงรบ.อยู่ครบเทอม
วันนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ร้านโกลเด้น เพลส สาขาชวนชม เรือนจำคลองเปรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2563 ว่า เรื่องเศรษฐกิจในปีหน้าจะได้รับผลกระทบจากทั้งภายในและนอกประเทศมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา และเมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านสภาฯ และใช้ได้ในช่วงต้นปี 63 ก็จะเบาใจได้ ส่วนการที่ประเทศอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรปจะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจมาถึงไทยด้วย ซึ่งเรามีรัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจที่จะช่วยกันทำงาน ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่อย่าทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก ทำให้ประเทศชาติชะงักได้
เมื่อถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กังวลลัทธิชังชาติ จะเป็นชนวนขัดแย้งในอนาคตขึ้นอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประชาชนพบกับปัญหามามากแล้ว อยากให้แสดงความเห็นต่างและวิจารณ์ในภาควิชาการมากกว่า และไม่เห็นด้วยที่จะมารวมเป็นกลุ่มก้อนและก่อม็อบที่จะทำให้สถานการณ์หนักกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ เรามีประสบการณ์มาแล้ว และมีหลายคนถูกจองจำ ถามว่าได้ประโยชน์อะไร ขอว่าอะไรที่จะทำให้ขัดแย้งอย่าไปทำตาม ต้องคิดว่ากว่าจะได้รัฐธรรมนูญกลับคืนมาต้องต่อสู้และบอบช้ำกันเท่าไร
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงเสียงส.ส.ของรัฐบาลที่ยังปริ่มน้ำ ว่า อาจต้องพบปะพูดคุยกันมากขึ้นก่อนที่จะพิจารณาญัตติสำคัญ และเมื่อมีเสียงที่ปริ่มน้ำก็เป็นธรรมดาที่จะเห็นงูเห่าเกิดขึ้นมาได้ ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลก็เคยเกิดขึ้น ยกตัวอย่างการเมืองในสหรัฐอเมริกาที่จะมีการถอดถอนประธานาธิบดี ก็อาจจะมีงูเห่า เป็นเรื่องคณิตศาสตร์ เพื่อนฝูงต่างพรรคก็อาจช่วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องใหม่เลย มีเกิดขึ้นมาตลอดในทุกรัฐบาลในอดีต ส่วนที่มีการขับไล่ ส.ส.ออกจากพรรค อาจส่งผลให้เสียงของรัฐบาลที่ปริ่มน้ำอาจสมบูรณ์ขึ้นจากเดิมพอสมควร
ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเป็นรัฐบาลผสมนโยบายก็จะต้องมาแลกเปลี่ยนกัน ก็อาจทำนโยบายของแต่ละพรรคไม่ได้100เปอร์เซ็น แต่หากทำเต็มที่แล้วเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจโดยประชาสัมพันธ์ผลงานที่ทำไปแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือปัญหาต่างๆ จะเป็นผลให้เกิดการปรับครม.ตามมาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปรับครม.ไม่น่าตกใจเพราะเป็นไปตามสถานการณ์ และปรับเพื่อเติมในส่วนที่คิดว่าการทำงานยังไม่แน่น แต่ก็ไม่รู้ว่านายกฯคิดอย่างไร ซึ่งในประเพณีปฏิบัติก่อนหรือหลังการอภิปราย ผู้บริหารสูงสุดก็จะมองเห็นถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของการทำงานไปตามสถานการณ์ แต่คงไม่ใช่สาเหตุเพราะถูกอภิปราย หรือมีกิจกรรมการทางการเมืองอะไร
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสูตรตายตัวไม่ได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม และหากเลือกตั้งบ่อยก็อาจบอบช้ำไปด้วย จึงควรใช้เวลานี้ทำประโยชน์ให้กับฝ่ายค้านไปก่อน เช่น แก้ไขรัฐธรรมนูญ และเป็นไปได้ที่ผู้บริหารอาจจะอยากอยู่นานหรือไม่นานได้ทั้งนั้น