“ทอน” อ้อนซึ้ง ยอมรับมีข้อผิดพลาดมากมายให้เรียนรู้ ปีหน้าขอสาวกร่วมสู้ต่อ! ขณะ “ณัฐวุฒิ” ทำนาย “ยุบ อนค.” คิดเป็นบวกยาก เตือนลงถนน ศึกษาชะตากรรม นปช.ให้ดี
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(28 ธ.ค.62) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit หัวข้อ “จดหมายส่งท้ายปี 2562 มอบให้แก่พ่อแม่พี่น้องประชาชน”
เราเริ่มต้นปี 62 ด้วยความหวังและความท้าทายในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งแรกของพรรค เราจบปีด้วยการเป็นสักขีพยานต่อความกล้าหาญของประชาชนที่ไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรม
ระหว่างปีมีเรื่องราวสวยงามมากมายให้จดจำ มีข้อผิดพลาดมากมายให้เรียนรู้ มีความสำเร็จหลายอย่างให้ภูมิใจ และมีกำลังใจมากมายที่ต้องขอบคุณน้ำทุกขวดที่คุณมอบให้เราระหว่างเราเดินหาเสียงกลางแดดดอกไม้ทุกดอกที่คุณตระเตรียมให้พวกเราทุกครั้งที่เราจัดกิจกรรมรอยยิ้มและการโบกไม้โบกมือที่คุณส่งให้เมื่อสายตาเราพบกัน
ภาพสีน้ำมันที่คุณวาด, ดาวที่คุณพับ, จดหมายที่คุณเขียน, ของขวัญที่คุณเตรียม, ผ้าขาวม้าที่คุณพันรอบเอวเราทุกการกดชื่นชม, กดแบ่งปัน และข้อเขียนสนับสนุนในทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย
“สู้ๆ นะครับ”, “อย่ายอมแพ้นะคะ” หรือกำลังใจเทือกนี้ที่คุณมอบให้เราตลอดการเดินทาง; บนรถไฟ ที่สำนักงานพรรค หรือระหว่างรอเครื่องบิน หรือที่ปั๊มน้ำมันเราขอบคุณและซาบซึ้งกับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมอบให้เรา มันบ่งบอกว่านี่ไม่ใช่ปีแห่งการต่อสู้ของเราคนเดียว แต่ยังมีอีกมากมายที่พร้อมสู้ และเดินไปกับเรา
เราเรียนรู้และเติบโตมาด้วยกันในปี 2562 และเราหวังว่าเราจะเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกันในปี2563 เช่นกัน จนกว่าเราจะลบรอยน้ำตาของผู้ทุกข์ตรมจนกว่าเราจะได้มาซึ่งประชาธิปไตย
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับครอบครัวและบุคคลอันเป็นที่รักอย่างพร้อมหน้าพร้อมเพรียงในเทศกาลปีใหม่ เดินทางและสังสรรค์อย่างปลอดภัย เติมพลัง เติมไฟและให้อภัยแก่กัน เติมความพร้อมให้ตัวเอง และคนที่เรารักเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมไปด้วยคุณค่าและความหมาย เต็มไปด้วยความหวัง และความกล้าหาญ ในปี 2563 ร่วมกันต่อไป
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็โพสต์ข้อความที่กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุด‘เต้น’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ และยูทูบ 'นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official' เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.62 ถึงพรรคอนาคตใหม่ตอนหนึ่ง หัวข้อ “ควรเดินอย่างไร อนาคตใหม่จ่อถูกยุบ?”
ระบุว่า สถานการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ มาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า มีหลายด่านเหลือเกินครับที่เตรียมการจะยุบพรรค
ถ้าคิดเป็นบวกก็ง่าย ศาลวินิจฉัยไม่ยุบ พรรคอนาคตใหม่เดินหน้าต่อไป
แต่ถ้าคิดโดยอิงกับความเป็นจริง คิดเป็นบวกยากครับ
วันนี้จึงเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของแกนนำและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่จะต้องประเมินสถานการณ์กันให้ชัด แล้วเตรียมตัวเตรียมการให้พร้อมที่จะเผชิญกับอะไรก็ตาม ซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้น
ในทัศนะผมคิดว่าประเมินสถานการณ์ให้แย่ที่สุด แล้วเตรียมรับมือจากตรงนั้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย
ว่ากันตามสูตรก็ต้องมีพรรคเตรียมไว้สำหรับรองรับส.ส.ที่จะต้องเดินต่อ
1. ตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ ถ้าจะเอาสูตรนี้ หมายความว่าพรรคอนาคตใหม่ต้องให้คนไปเดินกระบวนการจัดตั้งในขั้นตอนของกกต.ไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อให้ทันกับกรอบระยะเวลาแล้วเดินหน้าได้ทันที
2. ไปเจรจากับพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วตามกฎหมาย ร่วมอุดมการณ์ร่วมแนวทางกันได้ก็โอนย้ายถ่ายเทสมาชิก ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหาร แล้วก็ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร
แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ ยังเป็นโจทย์ข้อง่ายถ้าเทียบกับคดีอาญาซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นลูกพ่วงต่อมาหลังจากการวินิจฉัยคดียุบพรรค
ดังนั้น ผมคิดว่าขณะนี้แกนนำพรรคอนาคตใหม่ต้องการสมาธิในการคิดวิเคราะห์แล้วก็แยกแยะสถานการณ์ให้ครบถ้วนรอบด้าน
สิ่งที่อยากจะฝากบอกก็คือต้องเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแล้วศึกษาให้เข้าใจว่าพรรคการเมืองอย่างไทยรักไทยหรือพลังประชาชน เมื่อถูกยุบ เขามีอะไรต้องคิดต้องทำบ้าง
ถ้าตัดสินใจจะลงถนนก็ต้องเข้าใจว่าอนาคตใหม่ไม่ได้มีที่พึ่งเป็นกองทัพเหมือนพันธมิตรฯ หรือ กปปส.
แล้วก็ต้องศึกษาชะตากรรมของ นปช. โดยละเอียดว่าความบอบช้ำสูญเสียทั้งหลายมันเกิดขึ้นจากอะไร ต้องป้องกันแก้ไขและพยายามอย่างสุดชีวิตในการรักษาทุกชีวิตที่จะออกมาต่อสู้ด้วยกัน
ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ แต่สำหรับพรรคอนาคตใหม่ มาถึงวันนี้อะไรก็ไม่ง่ายทั้งนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไปยุยงส่งเสริมให้พาผู้คนออกมาเดินขบวน แต่เคารพในการตัดสินใจของแกนนำพรรคอนาคตใหม่
แล้วก็แสดงความเห็น ด้วยความห่วงใยเท่านั้น บทละครเรื่องเดิมเอามาฉายซ้ำ ถ้าจะให้ไม่จบแบบเดิมก็ต้องเรียนรู้จุดจบของครั้งที่ผ่านๆ มา...
ส่วนกิจกรรมที่นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ วาดหวังอย่างสูงว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ “วิ่ง ไล่ ลุง” ที่มีคนจำนวนมหาศาล บนเส้นทางสายประวัติศาสตร์การเมืองนั้น
ปรากฏว่า เฟซบุ๊ก “วิ่ง ไล่ ลุง-Run Against Dictatorship” เผยแพร่การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการทำกิจกรรม วิ่ง ไล่ ลุง โดยระบุว่า ไม่สามารถจัดกิจกรรมโดยใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นจุดเริ่มต้นการวิ่งได้ อีกทั้งยังถูกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และผู้มีอำนาจ กีดกันการให้อนุญาตใช้สถานที่และเส้นทางวิ่งอย่างหนัก แม้จะได้ขออนุญาตทำกิจกรรมแล้วก็ตาม
ทีมงานจึงตัดสินใจขออนุญาตใช้พื้นที่ของ "สวนรถไฟ" จากทางกรุงเทพมหานคร ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร ก็เปิดพื้นที่ให้เราใช้สวนดังกล่าว และหวังว่า "ผู้มีอำนาจ" คงไม่คิดที่จะหาทางใช้อำนาจอันมิชอบ ล้มงานวิ่งอีก เพราะเราได้จัดในสถานที่ปิด เช่นกันกับบางงานที่จัดขึ้น ในวัน และเวลาเดียวกันกับเรา
ไม่แปลกที่โพสต์ของ นายธนาธร จะมองข้ามช็อตไปถึงปีหน้า เพราะปีนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่า “อีเวนท์” วิ่ง ไล่ ลุง ในสวนเท่านั้น
ส่วนปีหน้า ก็ต้องลุ้นระทึก วันที่ 21 ธ.ค.63 วันตัดสิน “ยุบพรรคอนาคตใหม่” ข้อหาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่าจะร้องเฮ หรือร้องไห้ คงได้เห็นกันว่า การลงถนนจะเกิดขึ้นตามมาในเร็ววันหรือไม่!?