MGR Online - “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” แกนนำ นปช. ร้อง ปอท.เอาผิดบุคคล 9 ราย กรณีเผยแพร่คลิปตัดต่อสั่งเผาบ้านเมือง ปี 53 ที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี โดยเหตุผลที่มาในวันนี้ไม่ใช่เป็นการหนีกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องการพิสูจน์ความจริง
วันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชลิต มณีพราว รอง สว. (สอบสวน) กก.1 ช่วยราชการ กก.3 บก.ปอท. เพื่อเอาผิดต่อบุคคล 9 ราย กรณีเผยแพร่คลิปตัดต่อสั่งเผาบ้านเมืองในช่วงที่มีการชุมนุม นปช.เมื่อปี 2553 ในข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า วันนี้ได้นำหลักฐานต่างๆ อาทิ คลิปวิดีโอฉบับเต็มความยาว 24 นาที ที่ปราศรัยในระหว่างการชุมนุม นปช.เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2553 ที่เขาสอยดาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี, คลิปวิดีโอตัดต่อความยาว 25 วินาที และไอดีผู้โพสต์เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กจำนวน 9 ราย ซึ่งมีทั้งชื่อนามสกุลจริงและนามแฝง เพื่อมามอบให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบ รวมถึง จะรวบรวมหลักฐานเอาผิดบุคคลอื่นๆ ต่อไป ทั้งในแวดวงทางการเมืองหรือสื่อสารมวลชน
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า โดยคลิปการปราศรัยที่เขาสอยดาวซึ่งในช่วงนั้นยังไม่มีใครทราบได้ว่ากำหนดนัดหมายชุมนุมใหญ่เมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร แต่ขณะนั้นได้มีกระแสข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจที่กรุงเทพฯ ตนก็เลยพูดระหว่างปราศรัยว่าไม่มีการยึดอำนาจแน่นอน และเนื้อหาสาระในการปราศรัยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงที่กรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ แต่ก็ได้มีการตัดต่อข้อความเฉพาะบางช่วงบางตอน ความยาว 25 วินาที ว่าตนได้สั่งการให้เผาบ้านเผาเมือง ทำให้เกิดการเข้าใจผิด และบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเหตุให้ตนมาแจ้งความที่ บก.ปอท.ในวันนี้
“หลังจากนี้ถ้ายังมีผู้เผยแพร่วิดีโอตัดต่อดังกล่าว หรือกล่าวหาอีก ผมไม่ถือว่าท่านกระทำต่อผม แต่ท่านกำลังท้าทายกฎหมาย โดยเหตุผลที่ผมมาในวันนี้ ไม่ใช่เป็นการหนีกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องการพิสูจน์ความจริง ส่วนการเปลี่ยนแปลงความคิดบุคคลที่เชื่อว่าผมสั่งเผานั้น ผมไม่กังวลเพราะความขัดแย้งทางการเมืองตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้คนเลือกข้าง เลือกเชื่อหรือไม่เชื่อไปแล้ว ซึ่งบุคคลที่ไม่เชื่อก็มีจำนวนมากที่พร้อมเปิดรับข้อมูลเพิ่มเติม ผมทำเพื่อเรียกร้องสติปัญญาข้อเท็จจริงมายืนยันต่อสังคมได้ แต่ผมไม่สามารถลบอคติของใครได้ แต่ปรารถนาให้คนพร้อมเปิดรับไปพิจารณากันใหม่ ซึ่งขอยืนยันว่าเป็นความจริง ถึงกระทั่งการตัดต่อคลิปดังกล่าวทำให้บุคคลระดับเสนาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในขณะนั้น มีความเชื่อและไปให้การในชั้นศาล ซึ่งผมจะปล่อยเป็นแบบนั้นไม่ได้”
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เหตุการณ์คลิปดังกล่าวสืบเนื่องจากการชุมนุมที่ราชประสงค์ของ นปช.ก่อนได้มีการประกาศให้มีการยุติการชุมนุม เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 หลังจากนั้นตนและแกนนำ นปช.ถูกควบคุมตัวที่ ค่ายนเรศวร กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จ.เพชรบุรี และส่งควบคุมตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ รวมระยะเวลา 9 เดือน จึงได้รับการประกันตัว ทำให้ไม่มีโอกาสชี้แจงเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งเกิดเป็นคดีก่อการร้ายที่ตนได้เป็นผู้ต้องหาในคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า คดีก่อการร้าย หมายเลขดำที่ อ.2542/2553 พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆ กรณีกลุ่ม นปช.ชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
