สภาฯพิจารณาผลกระทบการใช้กัญชา กัญชง กระท่อม อย่างเป็นระบบ มีทั้งหมด 6 ญัตติ "เท่าพิภพ" เชื่อหากปลดล็อกจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ด้าน "สมศักดิ์" เผยเตรียมทำเอ็มโอยูเร่งปลดล็อกใบกระท่อม
วันนี้ (25 ธ.ค.62) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานในที่ประชุม โดยในวาระพิจารณาญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการใช้และแก้ปัญหา รวมถึงตรวจสอบผลกระทบการใช้กัญชา กัญชง กระท่อม อย่างเป็นระบบ ซึ่งมีทั้งหมด 6 ญัตติ
โดยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่จะปลดล็อกเพื่อใช้ประโยชน์จากกัญชา ซึ่งทั่วโลกที่ทำธุรกิจกัญชา มีผลสำรวจเมื่อปี 2017 พบว่าทำมูลค่าสูงถึง 6 ล้านล้านบาทต่อปี ดังนั้น ตนเชื่อว่าหากการปลดล็อกกัญชาเกิดขึ้น อาจทำให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ตามการวางแผนว่าจะใช้ประโยชน์เพื่อทางการแพทย์ หรือเพื่อสันทนาการ โดยตนมองว่าหากมีการส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องให้ความรู้กับเกษตรกรด้วย อย่างไรก็ตามตนสนับสนุนให้รัฐออกแบบและกลไกควบคุมกัญชา โดยพิจารณาโมเดลของต่างประเทศ และขอให้การพิจารณาปลดล็อกกัญชาเพื่อประชาชนทุกคนไม่ใช่เฉพาะนายทุนเท่านั้น
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะผู้เสนอญัตติให้สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ปัญหาเรื่องใบกระท่อมอย่างเป็นระบบ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันพบว่าประชาชนใช้ใบกระท่อมเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความสดชื่นและความตื่นตัว ซึ่งแนวทางควรพิจารณาคือ การลดความเดือดร้อนของประชาชน ที่ถูกตำรวจจับเพราะครอบครองใบกระท่อม จำนวน 5-10 ใบ ต้องเสียค่าปรับ 10,000 บาท ทั้งนี้ชาวบ้านที่ถูกจับเป็นบุคคลที่หาเช้ากินค่ำ ดังนั้นกมธ.ฯ ที่จะตั้งขึ้นควรพิจารณาประเด็นดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนด้วย
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม อภิปรายว่า ขอบคุณสมาชิกที่ให้ความสนใจเรื่องการปลดล็อกใบกระท่อม โดยเฉพาะนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่กระทรวงยุติธรรม เพราะเราได้เสนอเรื่องการปลดล็อกกระท่อมเข้าครม.ไปแล้ว ส่วนเรื่องข้อจำกัดที่มีอยู่รวมถึงเรื่องประกาศข้อห้ามที่เป็นตัวบทกฎหมาย ที่เกี่ยวกับกระทรวงอื่นๆ อาทิ ประกาศบางฉบับของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องยาเสพติดให้โทษนั้น ล่าสุดตนได้หารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขแล้ว นายอนุทินมีเเนวโน้มเห็นด้วย ยืนยันขอให้สบายใจได้ เพราะหลังจากนายอนุทินเดินทางกลับมาจากภารกิจที่ต่างประเทศ ทั้งสองกระทรวง จะทำเอ็มโอ ยู ในการศึกษาและปลดล็อกใบกระท่อมเเน่นอน เพราะสมาชิก ส.ส.หลายยุคหลายสมัย ได้ศึกษาการปลดล็อกพืชใบกระท่อมมาเป็นลำดับ นอกจากนี้ ในเวทีโลกอาทิ องค์การสหประชาชาติ ก็ไม่ได้ประกาศว่ากระท่อมเป็นยาเสพติด อีกทั้ง องค์การอนามัยโลก ยังระบุว่า กระท่อมเป็นยาที่บางประเทศใช้รักษาคนติดฝิ่น เช่นในประเทศฟินด์เเลนด์ ตนจึงขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุน และยืนยันว่าจะเร่งรัดให้ถูกต้องรวดเร็ว และเหมาะสมที่สุด