วานนี้ (26 ธ.ค.) ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเผาทำลายกัญชาของกลางน้ำหนักรวมกว่า 10 ตัน โดยกัญชาจำนวนดังกล่าวเป็นของกลางที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ขอใช้ประโยชน์จากของกลางที่จับยึดได้ แต่เป็นส่วนที่ตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่ามีสารปนเปื้อนไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก ยากำจัดศัตรูพืช และเชื้อราเกินกว่ามาตรฐานความปลอดภัย ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัยได้
**ยันพร้อมหนุนใช้ทางการแพทย์-วิจัย
นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เป็นกลไกประสานรวบรวมขอใช้ประโยชน์กัญชาของกลาง เพื่อสนับสนุนองค์กรต่างๆ ที่มีความประสงค์จะใช้ประโยชน์ ซึ่งตลอดปี 2562 ได้รวบรวมกัญชาของกลางกว่า 18 ตัน จาก 36 คดี และได้สนับสนุนกัญชาของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วมากกว่า 2 ตันให้กับ 10 องค์กร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเพื่อผู้ป่วย สำหรับกัญชาของกลางที่เผาทำลายในครั้งนี้คือส่วนที่ตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่ามีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักและยากำจัดศัตรูพืชเกินมาตรฐานความปลอดภัย ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งการเผาทำลายในครั้งนี้เป็นการเผาทำลายในระบบปิด จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
“สำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงประสานขอกัญชาของกลางเพื่อมาใช้ประโยชน์ สำหรับสนับสนุนให้กับองค์กรที่ความประสงค์จะนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัย ซึ่งขณะนี้ได้มีกัญชาของกลางที่ขอใช้ประโยชน์หลังจากการเผาทำลายครั้งนี้แล้วอีกประมาณ 10 ตัน ทั้งนี้กัญชายังเป็นยาเสพติด ดังนั้นบุคคลหรือองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น” นายวิชัย ระบุ
**สภาฯตั้งกมธ.ศึกษากัญชา-กัญชงฯ
วันเดียวกัน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณากลุ่มญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การใช้ และแก้ปัญหา รวมถึงตรวจสอบผลกระทบการใช้กัญชา กัญชง กระท่อม อย่างเป็นระบบ รวม 6 ญัตติ ทั้งนี้ จากการประชุมเมื่อ วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกที่อภิปรายทั้งหมดต่างสนับสนุนให้มีการตั้งกมธ.ชุดนี้ อย่างไรก็ตาม ในการให้ความเห็นชอบของที่ประชุมสภาฯ นั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการลงมติว่า จะให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบหรือไม่ เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ นั้นได้กำหนดไว้ว่า หากญัตติที่เสนอนั้นไม่ ปรากฏว่ามีผู้ใดคัดค้านให้ถือว่าญัตติดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม
จากนั้นที่ประชุมจึงตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อพิจารณาจำนวน 49 คน โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 60 วัน
** “หมอระวี” ลั่นต้องให้ ปชช.เข้าถึง
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกมธ. กล่าวว่า จะขับเคลื่อนให้มีการศึกษาพืชทั้ง 3 ชนิดคือ กัญชา กัญชง และกระท่อม อย่างเป็นระบบ โดยนอกจากคำนึงถึงการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนในประเทศ ทำให้พืชทั้ง 3 ชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญถึงมิติทางสังคมด้วย เพราะทุกเรื่องมีทั้งข้อดี และข้อด้อย ซึ่งกมธ.ชุดนี้ จะทำหน้าที่หาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย ด้วยการศึกษาอย่างรอบด้าน เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
"เรามีเวลาทำงานเพียงแค่ 60 วันเท่านั้น จึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ที่ผ่านมาผมได้ศึกษาเรื่องนี้มาพอสมควร เชื่อว่าจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ บนหลักคิดที่ไม่สุดโต่ง เพราะทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษ ที่สำคัญคือเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย ต้องให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างรอบด้าน กำหนดกลไกที่คนไทยได้ประโยชน์ ปิดช่องว่างการเอื้อนายทุน เปิดกว้างให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้พืชทั้ง 3 ชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจที่คนไทยได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง" นพ.ระวี กล่าว
**”เทพไท” หวังดันกระท่อมบ้านละต้น
เช่นเดียวกับ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่สมาชิกสภาฯ เห็นชอบในการตั้งกมธ.ชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการปลดล็อก กระท่อม ที่หลายฝ่ายในสังคมกังวลว่า จะมีการใช้น้ำต้มกระท่อม กับส่วนผสมต่างๆ หรือที่เรียกในหมู่วัยรุ่นว่า 4 คูณ 100 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาทางสังคมอยู่ มีการระบาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่ากมธ. คงจะหาวิธีการควบคุม หรือกำจัดปัญหาเรื่องนี้ให้หมดไปได้ ไม่อยากให้ปัญหาในการกระทำ หรือพฤฒิกรรมของกลุ่มคนเล็กๆ มาขัดขวางสิทธิ หรือเสรีภาพในการบริโภคพืชกระท่อมของคนกลุ่มใหญ่ในสังคม
"หากเป็นไปได้จะขอเสนอให้มีสิทธิ์ในการปลูกพืชกระท่อม 1 ต้น ต่อ 1 ครัวเรือนด้วย ผมเชื่อว่าการปลดล็อกกัญชา กัญชง และกระท่อม จะสำเร็จในเร็วๆ นี้ เพราะถ้าหากรัฐบาลชุดนี้เร่งดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 และปลดกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด ประเภท 5 ออกไปโดยเร็ว ก่อนที่กมธ. ชุดนี้จะสรุปผลการศึกษาปัญหาการปลดล็อกกระท่อม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ จะเป็นการดีที่สุด" นายเทพไท กล่าว
** กกต.รับรอง "สมศักดิ์" ส.ส.ขอนแก่น
อีกด้าน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า กกต.มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. เขต 7 ขอนแก่น แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่นายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้ง โดยนายสมศักดิ์ สามารถเดินทางมารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้ง (สส. 6/4) จากสำนักงานกกต. เพื่อนำไปรายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ทั้งนี้การเลือกตั้งดังกล่าว ในวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 132,063 คน มาแสดงตน 81,063 คน คิดเป็นร้อยละ 61.38 บัตรเลือกตั้งที่ใช้ และที่ใช้นับคะแนน 81,063 เป็นบัตรดี 78,568 บัตร คิดเป็นร้อยละ 96.92 บัตรเสีย 1,680 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.07 บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด จำนวน 815 บัตร คิดเป็นร้อยละ 1.01.
**ยันพร้อมหนุนใช้ทางการแพทย์-วิจัย
นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เป็นกลไกประสานรวบรวมขอใช้ประโยชน์กัญชาของกลาง เพื่อสนับสนุนองค์กรต่างๆ ที่มีความประสงค์จะใช้ประโยชน์ ซึ่งตลอดปี 2562 ได้รวบรวมกัญชาของกลางกว่า 18 ตัน จาก 36 คดี และได้สนับสนุนกัญชาของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วมากกว่า 2 ตันให้กับ 10 องค์กร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเพื่อผู้ป่วย สำหรับกัญชาของกลางที่เผาทำลายในครั้งนี้คือส่วนที่ตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่ามีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักและยากำจัดศัตรูพืชเกินมาตรฐานความปลอดภัย ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งการเผาทำลายในครั้งนี้เป็นการเผาทำลายในระบบปิด จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
“สำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงประสานขอกัญชาของกลางเพื่อมาใช้ประโยชน์ สำหรับสนับสนุนให้กับองค์กรที่ความประสงค์จะนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัย ซึ่งขณะนี้ได้มีกัญชาของกลางที่ขอใช้ประโยชน์หลังจากการเผาทำลายครั้งนี้แล้วอีกประมาณ 10 ตัน ทั้งนี้กัญชายังเป็นยาเสพติด ดังนั้นบุคคลหรือองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น” นายวิชัย ระบุ
**สภาฯตั้งกมธ.ศึกษากัญชา-กัญชงฯ
วันเดียวกัน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณากลุ่มญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การใช้ และแก้ปัญหา รวมถึงตรวจสอบผลกระทบการใช้กัญชา กัญชง กระท่อม อย่างเป็นระบบ รวม 6 ญัตติ ทั้งนี้ จากการประชุมเมื่อ วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกที่อภิปรายทั้งหมดต่างสนับสนุนให้มีการตั้งกมธ.ชุดนี้ อย่างไรก็ตาม ในการให้ความเห็นชอบของที่ประชุมสภาฯ นั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการลงมติว่า จะให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบหรือไม่ เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ นั้นได้กำหนดไว้ว่า หากญัตติที่เสนอนั้นไม่ ปรากฏว่ามีผู้ใดคัดค้านให้ถือว่าญัตติดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม
จากนั้นที่ประชุมจึงตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อพิจารณาจำนวน 49 คน โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 60 วัน
** “หมอระวี” ลั่นต้องให้ ปชช.เข้าถึง
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกมธ. กล่าวว่า จะขับเคลื่อนให้มีการศึกษาพืชทั้ง 3 ชนิดคือ กัญชา กัญชง และกระท่อม อย่างเป็นระบบ โดยนอกจากคำนึงถึงการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนในประเทศ ทำให้พืชทั้ง 3 ชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญถึงมิติทางสังคมด้วย เพราะทุกเรื่องมีทั้งข้อดี และข้อด้อย ซึ่งกมธ.ชุดนี้ จะทำหน้าที่หาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย ด้วยการศึกษาอย่างรอบด้าน เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
"เรามีเวลาทำงานเพียงแค่ 60 วันเท่านั้น จึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ที่ผ่านมาผมได้ศึกษาเรื่องนี้มาพอสมควร เชื่อว่าจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ บนหลักคิดที่ไม่สุดโต่ง เพราะทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษ ที่สำคัญคือเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย ต้องให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างรอบด้าน กำหนดกลไกที่คนไทยได้ประโยชน์ ปิดช่องว่างการเอื้อนายทุน เปิดกว้างให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้พืชทั้ง 3 ชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจที่คนไทยได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง" นพ.ระวี กล่าว
**”เทพไท” หวังดันกระท่อมบ้านละต้น
เช่นเดียวกับ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่สมาชิกสภาฯ เห็นชอบในการตั้งกมธ.ชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการปลดล็อก กระท่อม ที่หลายฝ่ายในสังคมกังวลว่า จะมีการใช้น้ำต้มกระท่อม กับส่วนผสมต่างๆ หรือที่เรียกในหมู่วัยรุ่นว่า 4 คูณ 100 ซึ่งกำลังเป็นปัญหาทางสังคมอยู่ มีการระบาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อว่ากมธ. คงจะหาวิธีการควบคุม หรือกำจัดปัญหาเรื่องนี้ให้หมดไปได้ ไม่อยากให้ปัญหาในการกระทำ หรือพฤฒิกรรมของกลุ่มคนเล็กๆ มาขัดขวางสิทธิ หรือเสรีภาพในการบริโภคพืชกระท่อมของคนกลุ่มใหญ่ในสังคม
"หากเป็นไปได้จะขอเสนอให้มีสิทธิ์ในการปลูกพืชกระท่อม 1 ต้น ต่อ 1 ครัวเรือนด้วย ผมเชื่อว่าการปลดล็อกกัญชา กัญชง และกระท่อม จะสำเร็จในเร็วๆ นี้ เพราะถ้าหากรัฐบาลชุดนี้เร่งดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 และปลดกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด ประเภท 5 ออกไปโดยเร็ว ก่อนที่กมธ. ชุดนี้จะสรุปผลการศึกษาปัญหาการปลดล็อกกระท่อม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ จะเป็นการดีที่สุด" นายเทพไท กล่าว
** กกต.รับรอง "สมศักดิ์" ส.ส.ขอนแก่น
อีกด้าน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า กกต.มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. เขต 7 ขอนแก่น แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่นายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้ง โดยนายสมศักดิ์ สามารถเดินทางมารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้ง (สส. 6/4) จากสำนักงานกกต. เพื่อนำไปรายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ทั้งนี้การเลือกตั้งดังกล่าว ในวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 132,063 คน มาแสดงตน 81,063 คน คิดเป็นร้อยละ 61.38 บัตรเลือกตั้งที่ใช้ และที่ใช้นับคะแนน 81,063 เป็นบัตรดี 78,568 บัตร คิดเป็นร้อยละ 96.92 บัตรเสีย 1,680 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.07 บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด จำนวน 815 บัตร คิดเป็นร้อยละ 1.01.