“จารุวรรณ”ขนทัพลูกพรรคอนาคตใหม่บุกทวงถามสำนวนยุบพรรค หลังครบ 7 วัน ด้านจนท.กกต.อ้างเอกสารลับ ขอเวลาพิจารณา เจ้าตัวขู่หากไม่ได้จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของสภาฯ
วันนี้ (25 ธ.ค.) น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.เขต 3 ปทุมธานี นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และทนายความ เดินมาติดตามความคืบหน้าการยื่นคำขอคัดสำนวนการสอบสวนของ กกต. กรณีพรรคอนาคตใหม่ กู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเริงกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.4 ล้านบาท ซึ่ง กกต.ได้มีมติส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ หลังจากครบกำหนด 7 วันของการยื่นคำขอ โดยทาง กกต.ได้มอบหมายให้นายโชคดี ด้วงแป้น ผู้อำนวยการฝ่ายมาตรการทางปกครอง สำนักกิจการพรรคการเมือง สำนักงาน กกต. มารับหนังสือ นายโชคดี ได้ชี้แจงต่อ น.ส.จารุวรรณ ว่าทางสำนักงานได้รับทราบหนังสือคำขอดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างสำนักกฎหมายของสำนักงานพิจารณา เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก และเป็นเอกสารลับ จึงต้องพิจารณาให้รอบครอบ พยายามจะเร่งรัดให้ทางสำนักกฎหมายพิจารณาโดยเร็ว และจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบ อย่างไรก็ตาม กกต.ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ก็น่าจะมีสำเนาส่งให้กับทางพรรค ซึ่งก็น่าจะเป็นสำเนาหรือเอกสารที่คล้ายกันกับที่ กกต.จะให้กับผู้ร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จารุวรรณ ก็พยายามจะขอทราบเวลา ว่าจะได้รับเอกสารจาก กกต. เมื่อไหร่ แต่นายโชคดีก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ น.ส.จารุวรรณ จึงบอกว่าอีก 7 วันจะกลับมาทวงถามอีก พร้อมระบุว่า จะไม่ย่อท้อ แม้ได้รับคำชี้แจงแล้ว อีก 7 วันก็จะกลับมาทวงถาม เพราะยังติดใจว่าเมื่อ กกต.มีมติและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ทำไมจึงยังสามารถที่จะให้สำเนากับผู้มีส่วนได้เสีย อย่างตนได้ ซึ่งในวันนี้ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นกรรมาธิการ ศาล อัยการ องค์กรอิสระ องค์กรมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรก็ได้เดินทางมาติดตามด้วย เพราะต้องการที่จะทราบ ว่าเหตุใดที่ กกต.ยังไม่สามารถให้สำเนาคดีดังกล่าวได้ ซึ่งเราถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนการมาเรียกร้องในครั้งนี้ถือว่าเป็นการใช้สิทธิแทนประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น จึงต้องมาเรียกร้องตามสิทธิ ขณะที่นายมานพ กล่าวว่าจะนำเรื่องสู่กระบวนการของสภา ในฐานะที่เราเป็นตัวแทนของประชาชน ต้องสมารถตรวจสอบองค์กรอิสระได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการยื่นหนังสือในครั้งนี้ ที่หน้าห้องรับคำร้องของสำนักงาน กกต. ไฟไม่สว่างทำให้ ส.ต.ศักดิ์ปรินทร์ เกษมธนพัฒน์ ผู้ชำนาญการประจำตัวของนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.เขต 3 ปทุมธานี ได้กล่าวว่าทำไมหน้าห้องร้องเรียนจึงมืดอย่างนี้ คราวที่แล้วมาก็มืด ครั้งนี้ที่จะกลับมาทวงถามจะเอาหลอดไฟมาบริจาค เพื่อให้ กกต.สว่าง ไม่มืดมน
