อธิบดีกรมป่าไม้ ชี้แจง กมธ.ป.ป.ช. ยันดำเนินคดีฟาร์มไก่"เอ๋-ปารีณา"รุกป่าสงวนไม่ล่าช้า โดยใช้เวลาเพียง 9 วัน เป็นที่ดินในเขตป่าสงวนและตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 46 ไร่ ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นที่ดินในความดูแลของ ส.ป.ก. ขณะเจ้าตัวร่วมประชุมฟังปัญหาที่ดินของตัวเอง
วันนี้(25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม ได้เชิญ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้เข้าชี้แจงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ครอบครองที่ดินที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยนายอรรถพล ชี้แจงว่า หลังจากที่กรมป่าไม้ได้รับเรื่องร้องเรียน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็จะเห็นว่าระยะเวลาที่เข้าไปดำเนินการ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 รวมถึงการแจ้งความดำเนินคดีใช้ระยะเวลาเพียง 9 วัน ซึ่งมีพื้นที่ 2 ส่วน โดยส่วนแรกที่เราเข้าไปตรวจพิสูจน์ที่เราพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนจำนวน 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ที่ดำเนินคดีไปเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เป็นที่ดินในเขตป่าสงวน 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และพื้นที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ มาตรา 54 อีก 4 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา รวมเป็นพื้นที่ 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ที่ดำเนินคดีอยู่ ส่วนอื่นๆ ที่เหลือซึ่งทำกิจการฟาร์มไก่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ส.ป.ก. โดยตรวจสอบเทียบจากแผนที่ ส.ป.ก.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายอรรถพลกำลังชี้แจง น.ส.ปารีณา ได้เดินเข้ามาห้องประชุม และนั่งฟังคดีตัวเองโดยไม่ตอบโต้อะไร จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุม เพื่อพิจารณารายละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ก่อนเข้าวาระ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอให้ กมธ.ยุติเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือกรณีที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้เกิดภาระแก่ กมธ. มากเกินไป หากเรื่องใดที่ยังไม่เคยร้อง ป.ป.ช. ก็ให้ กมธ.เข้าไปสอบหาข้อเท็จจริงได้ทันที เพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชน เพราะหากไปทำงานซ้ำซ้อนจะไม่เกิดประโยชน์เลย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ยังไม่ต้องปรับอะไรเพราะข้อกฎหมายก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 วรรคสี่ ที่ระบุว่า กมธ. จะพิจารณาข้อร้องเรียนได้ ยกเว้นการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม หรือองค์กรอิสระ ซึ่งไม่ใช่แค่ ป.ป.ช. อย่างเดียว แต่ยังรวมถึง ผู้ตรวจการแผ่นดิน สตง. หากพบว่าคดีนี้ ป.ป.ช. ดำเนินการอยู่ เราก็จะไม่เข้าไปยุ่ง หรือเชิญคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงต่อกมธ. อีก
ด้านนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เสนอเพิ่มเติมว่า หากกรณีที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.ป.ช. เราควรที่จะยุติเรื่อง และส่งเรื่องกลับไป แต่กรณีที่ ป.ป.ช. รับเรื่องไป เราก็ต้องดูว่าผู้ร้องร้องเรียนเรื่องอะไร หากไปยุติเรื่องที่ไปสู่ ป.ป.ช.หมดอาจจะไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการตัดเรื่องไปทุกเรื่อง โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวเห็นด้วยต่อความเห็นของนายธีรัจชัย ซึ่งการหารือครั้งนี้ได้ถือเป็นมติของ กมธ. และจะนำไปแจ้งผู้ร้องเรียน และ ป.ป.ช. เพื่อให้รับทราบต่อไป