ข่าวคราวของคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรเงียบหายไปพักใหญ่แล้ว หลังจากนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ต้องมีอันเป็นไป ถูกมรสุมคดีบุกรุกป่าและครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.กระหน่ำ จนต้องหลบฉาก ลดบทบาททางการเมืองชั่วคราว
นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ถูกส่งเข้ามาเป็นกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ภารกิจสำคัญคือ เดินหน้าชนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการฯ ซึ่งนางสาวปารีณาปฏิบัติภารกิจได้ดีเยี่ยม เพราะป่วนจนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แทบประสาทเสีย
แต่ระหว่างการตามบดขยี้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นางสาวปารีณาต้องตกม้าตาย แพ้ภัยตัวเอง เพราะที่ดินนับพันไร่ที่เปิดเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ในจังหวัดราชบุรี มีปัญหาการบุกรุกป่า กลายเป็นคดีใหญ่ที่ถูกขุดคุ้ย และได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งประเทศที่ดินนับพันไร่ได้มาอย่างไร จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนประชาชนทั่วไปหรือไม่ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะช่วยปกป้องนักการเมืองพวกพ้องตัวเองหรือไม่ ถูกสังคมตั้งคำถาม
แม้นายทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี จะออกมาแก้ต่างเพื่อช่วยลูกสาว แม้นางสาวปารีณาจะแก้ตัว และยอมคืนที่ดินที่ครอบครอง แต่ไม่อาจกลบกระแสสังคมที่เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินคดีตามนางสาวปารีณาได้
กระแสการโจมตีการบุกรุกป่าจังหวัดราชบุรีรุนแรงมาก จนนางสาวปารีณา ซึ่งก่อนหน้าเคยเป็น ส.ส.หญิงที่ห้าวไม่ยอมใคร ต้องถอยไปตั้งหลักหลบหน้าจากสังคม หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับสื่อเพื่อรอให้เรื่องเงียบ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับนางสาวปารีณามาแล้ว โดยหลังมีชื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประวัติในอดีตสีเทาก็ถูกเปิดโปง และกลายเป็นประเด็นโจมตีอยู่พักใหญ่
คดีค้ายาเสพติด ถูกจับในประเทศออสเตรเลียและถูกตัดสินจำคุกอยู่หลายปี กลายเป็นประเด็นคำถามถึงคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเป็นรัฐมนตรีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
แต่อดีตสีเทาถูกดับลง โดยร.อ.ธรรมนัสลดบทบาททางการเมืองลงชั่วคราว ไม่ทำตัวให้เป็นข่าว ไม่เคลื่อนไหวในทางสื่อ จนเรื่องเงียบไป
ยุทธิวิธีหลบหน้าสื่อ เก็บตัวเงียบ เพื่อกลบกระแสการโจมตี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยใช้มาแล้ว ในช่วงที่ถูกโจมตีเรื่องนาฬิกาเพื่อน
นางสาวปารีณา อาจถูกสั่งให้ลดบทบาท ทำตัวให้เงียบ รอให้ข่าวสงบ รอรัฐบาลหาทางออกให้ จึงค่อยกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองใหม่ เช่นเดียวกับร.อ.ธรรมนัส ซึ่งปัจจุบันแทบไม่มีใครถามถึงพฤติกรรมในอดีตแล้ว
ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัสถูกส่งเข้ามาดูแลคดีนางสาวปารีณา และระบุว่า จะไม่มีการดำเนินคดีกับนางสาวปารีณา เพราะถือว่ายอมส่งคืนที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 682 ไร่แล้ว
ถ้าเป็น ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน หรือถ้าเป็นประชาชนทั่วไป การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยไม่ถูกต้อง การบุกรุกป่าคงถูกแจ้งข้อหาอ่วมไปแล้ว แต่ไม่มีข่าวว่า นางสาวปารีณาถูกแจ้งข้อหาใด และดูเหมือนมีความพยายามทำให้เรื่องเงียบหาย
แต่รัฐบาลจะอุ้มนางสาวปารีณาไหวหรือ
เพราะนางสาวปารีณาสร้างโจทก์ไว้เยอะ ช่วงเวลาไม่กี่เดือนบ่มเพาะศัตรูทางการเมืองไว้มากมาย เมื่อมีคดีฉาวโฉ่ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เคยถูกตามราวี คงไม่ยอมปล่อยให้นางสาวปารีณาลอยนวลง่ายๆ
นอกจากนั้น ในฐานะนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล เมื่อมีความผิดในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.และบุกรุกป่าร่วมนับพันไร่ นางสาวปารีณาจะกลายเป็นเป้าโจมตี จนรัฐบาลต้องคิดหนัก หากคิดจะปกป้องพวกพ้องที่กระทำผิด
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อความถูกต้องเป็นธรรมในสังคม ออกมาประกาศแล้ว จะเกาะติดคดีนางสาวปารีณา และทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดี โดยจะไม่ยอมให้เรื่องเงียบหาย รวมทั้งเตือนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อย่าใช้กฎหมายสองมาตรฐาน อย่าเลือกปฏิบัติ
เพราะชาวบ้านที่บุกรุกป่า ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดี แม้จะเป็นคนจนไร้ที่ทำกิน แต่ถูกลงโทษติดคุกแล้วหลายราย
นางสาวปารีณาจึงไม่ควรมีอภิสิทธิ์ได้รับการยกเว้นไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ เพียงเพราะเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล
การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.และรุกป่า ทำให้นางสาวปารีณาเป็น ส.ส.ที่มีมลทิน และเป็นอีกจุดอ่อนของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์อาจไม่ให้ความสำคัญพฤติกรรมของ ส.ส.ที่สนับสนุนให้ตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด จะเป็นลูกสมุนเก่าของนายทักษิณ ชินวัตร จะเป็นนักการเมืองผู้กว้างขวาง จะเป็นเจ้าพ่อ หรือมีภาพลักษณ์ทางสังคมที่เลวร้ายอย่างไร ถ้าอยู่ฝ่ายรัฐบาล ถือเป็นพวกเดียวกันหมด
คดีนางสาวปารีณา จะเป็นอีกกรณีที่ทำให้ความศรัทธาพล.อ.ประยุทธ์เสื่อม นอกเหนือความสิ้นศรัทธาในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและล้มเหลวในการปราบทุจริตคอร์รัปชัน
พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งประกาศว่า จะอยู่อีกนาน แต่การเป็นผู้นำที่มีพฤติกรรมไม่แตกต่างจาก “ทักษิณ” ทำให้น่าเป็นห่วงว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจจะอยู่ได้อีกไม่นานเสียแล้ว