“ทนายวันชัย” เดือด มีคนพูดว่า แก้รธน.ประเด็นส.ว. โหวตนายกฯประเด็นเดียวจบ แต่แก้ไม่ได้เพราะส.ว.จะขวาง เชื่อไม่มีใครขวาง อย่าโยนบาปหรือความเกลียดชังมาให้ส.ว. หาว่าส.ว.เป็นติ่งเป็นส่วนเกิน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(21 ธ.ค.62) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
เห็นมีพูดกันว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญนั้น แก้เรื่องส.ว. และแก้เรื่องการโหวตนายกฯ แค่นี้เรื่องเดียวก็จบ และก็คงแก้ไม่ได้ เพราะส.ว.คงขวาง ก็ขอบอกว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ส.ว.250 คนคงไม่มีใครขวางแน่ อย่าโยนบาปหรือความเกลียดชังมาให้กับส.ว. หาว่าส.ว.เป็นติ่งเป็นส่วนเกิน
ขอทำความเข้าใจอีกครั้งว่า ที่รัฐธรรมนูญเขาให้มีส.ว. 250 คนนั้น ก็มาเพื่อทำภารกิจเฉพาะกิจเฉพาะกาลในระยะเปลี่ยนผ่าน และคงไม่มีใครมายึดติดกับตำแหน่ง เขาไม่ได้ให้มาหนุนใคร โดยเฉพาะ และไม่ได้ให้มารักษาอำนาจให้แก่ใคร รัฐธรรมนูญเขาให้มาหนุนการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งให้มารักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางการเมืองให้เดินต่อไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ใช่ให้มาแย่งชิงอำนาจ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับบ้านเมือง
ถ้าการเมืองดี มีความมั่นคง มีส.ส.ดี มีนักการเมืองดี และประเทศชาติเดินไปด้วยดี มีความเรียบร้อย ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ผมมีความเห็นว่าไม่ต้องมีส.ว.ยังได้เลย ที่เขามีไว้ในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ เขาไม่ต้องการให้การเมืองกลับไปสู่วังวนเดิม คือใช้เงินสร้างอำนาจ มีอำนาจแล้วโกงกินทุจริต แล้วก็หาเงินไปรักษาอำนาจ
ในที่สุดก็ชุมนุม ประท้วง ขับไล่ ปฏิวัติรัฐประหาร วงจรอุบาทว์ทั้งนั้น เขาต้องการให้ทุกเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างของบ้านเมืองมันจบในสภา เขาจึงมีการออกแบบให้มีการถ่วงดุลกันทั้งสองสภา และให้มีผบ.เหล่าทัพอยู่ในสภา ได้รู้ได้เห็นได้แก้ปัญหากันในสภา จะได้เลิกเสียทีต่อการปฏิวัติรัฐประหาร เขามีส.ว.เฉพาะกิจเฉพาะกาลเพราะมาเสริมเพื่อป้องกันปัญหาของบ้านเมืองไม่ให้มันบานปลาย
ถ้ามั่นใจกันว่า บ้านเมืองในขณะนี้มันเรียบร้อยดีอยู่แล้ว จะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็ไม่ว่า แต่ปัญหาอย่างที่เราเห็นกันอยู่มันเรียบร้อยจริงหรือไม่ มันมั่นคงหรือไม่ ในซีกการเมืองสามารถตอบได้เองอยู่แล้ว อย่าโยนบาปให้ส.ว. เพราะทุกคนยืนยันว่า จะเป็นส.ว.หรือไม่ได้เป็น ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อยเสียแล้ว เชื่อว่าทุกคนพร้อมเสียสละเพื่อบ้านเมือง เรื่องตำแหน่งมันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องของประเทศชาติและประชาชนยิ่งใหญ่กว่า เลิกด่าเลิกกล่าวหากันเสียที.. ดูตัวเองกันบ้าง
ทั้งนี้ ความคืบหน้าล่าสุดของ ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมลงมติญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 โดยมีการนับองค์ประชุมทั้งหมด 446 คน เห็นด้วย 445 คน งดออกเสียง 1 คน
รวมทั้งกำหนดระยะเวลาการพิจารณาของคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว 120 วัน
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการ ชุดนี้ทั้งหมด 49 คน แบ่งเป็น สัดส่วนของ รัฐบาล จำนวน 12 คน พรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล จำนวน 18 คน และพรรคร่วมฝ่ายค้านจำนวน 19 คน
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น จากการเปิดเผยของ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)ฯ จากพรรคร่วมรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความเห็นร่วมกันเบื้องต้นว่า จะสนับสนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ฯ เพราะเป็นบุคคลที่เหมาะสมในขณะนี้ อย่างไรก็ตามการประชุมกมธ.ฯนัดแรก ซึ่งนัดวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 14.00 น. กมธ.ซีกรัฐบาลจะนัดหารือเพื่อสรุปเป็นมติร่วมกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.62 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายญัตตินี้ว่า ตนในฐานะเจ้าของญัตติ จะเป็นคนอภิปรายสรุปปิดท้ายญัตติ โดยจะขออภิปรายสรุปประเด็นที่ควรศึกษาและแก้ไข คือ 1.เรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่ถูกตัดออกทั้งหมดเมื่อเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 50
2.เรื่องระบบการเมือง และการเข้าสู่อำนาจ เช่น วิธีการเลือกตั้ง ส.ส. การคิดคำนวณสัดส่วนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ การได้มาซึ่ง ส.ว. และบทบาทหน้าที่ของ ส.ว.วุฒิสภา 3.เรื่องกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ซึ่งเป็นปราการด่านแรก ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องได้รับการแก้ไขให้ใช้เสียงข้างมากของรัฐสภา
แน่นอน โพสต์ของทนายวันชัย สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ส.ว.กำลังตกเป็นเป้า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่รับรู้โดยทั่วกัน คือ มีส่วนสำคัญ ในการค้ำบัลลังก์อำนาจของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งการมีที่มาจากการคัดเลือกของ “คสช.” การมีทหารเป็นส่วนใหญ่ และการมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วย
แต่ก็อย่างที่ “ทนายวัยชัย” ว่า ส.ว.ไม่ใช่ติ่ง หรือ ส่วนเกิน อย่างแน่นอน ตราบใดที่ นักการเมือง ยังเล่นการเมืองเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะคนเหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ความเสียสละ และความรับผิดชอบชั่วดี ซึ่งผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์