ประชุมสภา ถกตั้งกมธ.แก้รธน. "ปิยบุตร" ย้ำจริงจังไม่ซื้อเวลา ฉบับ 60 แก้ยากที่สุด อัดไม่ใช่รธน.แค่เอกสารมัดรวมกัน ให้อำนาจแต่งตั้งเท่าเลือกตั้ง เอื้ออำนาจคสช.ถึงอนาคต ชี้ควรด่าคณะรัฐประหารแทนนักการเมือง ฉะคนไม่ให้แก้ทำเพื่อตัวเอง
วันนี้ (11ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.45 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ได้พิจารณาญัตติด่วนการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี2560 ตามที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกขอเสนอญัตติในทำนองเดียวกันเข้ามาอีกรวมทั้งหมด 6 ญัตติ จึงนำมารวมพิจารณารวมไปพร้อมๆกัน
ทั้งนี้นายปิยบุตรกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง จริงใจ ไม่ใช้กมธ.เพื่อซื้อเวลา หรือสกัดขัดขวางไม่ให้แก้รัฐ ธรรมนูญ ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20ฉบับ ซึ่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี2557 มีการแก้ไขถึง4 ครั้ง เพราะคสช.อยากอยู่ยาว กระทั่งรัฐธรรมนูญปี60 กำหนดวิธีการแก้ไขไว้ยากมากที่สุด นอกจากต้องใช้เสียงส.ว.1ใน3 แล้ว ถ้าแก้ไขเรื่องสำคัญต้องไปออกเสียงประชามติ ล็อกประตูไว้หลายชั้น จนอาจแก้ไม่ได้เลย ถ้าเป็นสนุ๊กเกอร์เหมือนถูกวางสนุ๊กกันไว้ ไม่ให้แก้ ทั้งที่ประชาชนและพรรคการเมืองอยากแก้ไข หากลุกลามเป็นวิกฤติ อาจถูกคณะรัฐประหารรื้อทิ้ง เขียนใหม่อีก
นายปิยบุตรกล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี60 มีปัญหาชอบธรรมทางประชาธิปไตย มีที่มาจากผลพวงรัฐประหารของ คสช. มีลักษณะเด่นคือ ฝังระบบรัฐประหารเข้าไปอยู่ในรัฐธรรมนูญ รับรองการใช้อำนาจคสช.ตั้งแต่อดีตถึงอนาคต หากมีชาติหน้าคงรับรองถึงชาติหน้า ให้ส.ว.มาทำหน้าที่หลักโหวตนายกฯใน 5ปีแรก มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าปราบโกง ปฏิรูปประเทศ แต่กลับนำการเมืองไทยถอยหลังกลับไปปี2521 ในยุคประชาธิปไตยครึ่งใบที่ต้องเชิญทหารมาเป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง ขณะนี้รัฐบาลเป็นเสียงปริ่มน้ำ บริหารประเทศลำบาก เกิดผลประโยชน์เสนอซื้องูเห่า แจกกล้วยเลี้ยงลิง เกิดจากคณะรัฐประหารอยากสืบทอดอำนาจ วางกลไกพิสดาร เกิดพรรคการเมืองจำนวนมากในสภาฯ หากไม่มีส.ว.250 คน เชื่อว่าพรรคอันดับ1 จะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ เวลาจะผ่านญัตติหรือกฎหมายสำคัญต้องลุ้นทุกครั้ง เชื่อนักการเมืองพร้อมปรับเข้าหากติกา แต่เมื่อกติกาถอยหลัง พฤติกรรมนักการเมืองจะถอยหลังไปด้วย แทนที่จะชี้หน้าตำหนินักการเมือง ควรไปตำหนิคณะรัฐประหาร
“รัฐธรรมนูญปี60 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ เป็นแค่แอกสารที่มัดรวมกันแล้วไปเรียกว่า รัฐธรรมนูญ เพราะอำนาจที่มาจากการแต่งตั้งเทียบเท่ากับอำนาจการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญที่ดีต้องอำนวยให้รัฐบาลเลือกตั้งได้บริหารประเทศ เปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิเรียกร้องจากรัฐบาลได้สม่ำเสมอ แต่รัฐธรรมนูญนี้ทำไม่ได้ เพราะเป็นเสียงปริ่มน้ำ ส่วนที่บอกการแก้รธน.จะทำให้วุ่นวาย คิดว่า ยิ่งไม่แก้ยิ่งวุ่นวาย เพราะคนอยากให้แก้จะออกมาเรียกร้องมากขึ้น “
นายปิยบุตรกล่าวว่าตนเชื่อว่า นักการเมืองไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง แต่คนที่ไม่อยากให้แก้กลับทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง เช่นที่บอกรัฐธรรมนูญนี้ ดีไซน์เพื่อพวกเรา จึงขอเชิญชวนให้สภาฯปลดล็อกแก้รัฐธรรมนูญ เปิดทางให้มีส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน อยากฝากผู้มีอำนาจ ให้เลิกหวาดระแวง หวงอำนาจ คิดยาวๆ พวกเราทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะมีแต่ปาก แก้ตามระบบ ไม่มีปืน กองทัพ กำลัง จึงต้องสู้ในระบบ อย่าให้ใครพูดว่า ทีรัฐประหารยอมให้ทำได้ แต่หากอยากแก้รัฐธรรมนูญทำได้ยากเย็น ฝากให้สภาฯลงมติเห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างฉันทามติใหม่ร่วมกัน
นอกจากนี้ยังมีส.ส.เจ้าของญัตติในทำนองเดียวกันอภิปรายด้วย อาทิ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายนิกร จำนง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โดยต่างก็อภิปรายให้เห็นถึงจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญในเรื่องต่างๆ ทั้งระบบการเลือกตั้งที่พยายามทำให้การเมืองอ่อนแอ การได้มาซึ่งอำนาจของรัฐบาล และยังมีการแอบแฝงอำนาจหมกไว้ในมาตราต่างๆ จึงสมควรต้องแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เกิดความเหมาะสม