“ปิยบุตร” เตรียมแถลงเปิดญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไข รธน. ยอมรับไม่น่าตั้งคณะกรรมาธิการทันสัปดาห์นี้ ยืนยัน “ธนาธร” ไม่เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ ขอทุกฝ่ายหยุดกระบวนการนิติสงครามจ้องเล่นงานพรรคอนาคตใหม่กรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรอบเวลาการอภิปรายญัตติ ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะนัดหมายหารือกับผู้เสนอญัตติถึงกรอบเวลา โดยตนเองจะใช้เวลาอภอปรายเปิดญัตติ 30 นาที ส่วนนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่านค้าน ในฐานะผู้ร่วมเสนอญัตติจะเป็นผู้อภิปรายปิดญัตติ
ส่วนจะสามารถตั้งคณะกรรมาธิการได้ภายในวันนี้หรือไม่นั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า การประชุมวันนี้มีการหารือเรื่องทั่วไป การตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา และกระทู้ถามทั่วไป กว่าจะเข้าสู่การพิจารณาญัตติก็น่าจะเป็นช่วงเย็น และยังมีผู้เสนอญัตติคนอื่นๆ ร่วมอภิปรายอีก ประกอบกับวันพรุ่งนี้งดประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงคาดว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการได้ภายในวันพุธหน้า และคาดว่าจะไม่มีการลงมติล้มการจัดตั้งคณะกรรมาธิการ เพราะคณะกรรมาธิการชุดนี้ไม่มีเดิมพันสูง เหมือนที่ล้มการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการกระทำของ คสช. และมาตรา 44 จึงน่าจะไม่มีฝ่ายใดขัดข้อง ประกอบกับรัฐบาลก็เตรียมรายชื่อคณะกรรมาธิการในสัดส่วนคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
สำหรับสัดส่วนคณะกรรมาธิการจากพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 6 คน นายปิยบุตรกล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณากันอยู่ โดยจะมีครึ่งหนึ่งมาจากคนนอก โดยการเชิญนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ พร้อมยืนยันว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะไม่เข้าทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการชุดนี้เนื่องจากมีภารกิจเดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญทั่วประเทศ
นายปิยบุตรยังชี้แจงกรณีส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ 191 ล้านบาทให้ กกต. ไม่ทันกรอบวันที่ 2 ธันวาคม ว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่เพิ่งก่อตั้ง มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ทั้งการตั้งสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด เมื่อเดือนตุลาคมปี 2561 คสช.ยังไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมทางการเมือง จึงทำให้พรรคการเมืองรับบริจาคเงินหรือลงทุนไม่ได้ แต่พรรคการเมืองจำเป็นต้องใช้เงิน จึงใช้ช่องทางกู้เงินเพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ ซึ่งเป็นสิทธิของพรรคการเมืองในฐานะนิติบุคคลเอกชน ประกอบกับไม่ต้องการให้พรรคอนาคตใหม่เป็นของนายธนาธรเพียงคนเดียว จึงเห็นควรให้กู้เงินและใช้คืนในภายหลัง
นายปิยบุตรยืนยันว่า การกู้เงินไม่ได้ถือเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนข้อสังเกตเรื่องนิติกรรมอำพราง เพราะต้องการบริจาคเงินเกินกว่า 10 ล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบริจาค และมีหลักฐานการทยอยใช้เงินคืน ส่วนการอ้างถึงมาตรา 72 ก็มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันการเอาเงินจากกระบวนการผิดกฎหมายดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พร้อมย้ำถึงการตีความกฎหมายต้องตีความอย่างเคร่งครัด จะขยายความโดยอ้างเจตนารมณ์ไม่ได้ เพราะเป็นคดีกล่าวหาที่มีโทษทางอาญาให้จำคุก หากต้องการไม่ให้พรรคการเมืองกู้เงินก็ควรแก้กฎหมายพรรคการเมืองให้ชัดเจน
นายปิยบุตรย้ำว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมแจกแจงข้อมูลอย่างโปร่งใส และประสงค์ไม่ให้บุคคลผู้ใดเข้ามาครอบงำพรรค แต่กลับกลายเป็นว่าโดนคดีความ สุดท้ายคนโปร่งใสโดนจับผิด คนไม่อยากโดนคดีความก็ไปซุกทรัพย์สิน กระบวนการซ้ำไปซ้ำมา ยุบพรรค ตัดสิทธิ ติดคุก และอยากให้มองว่ากระบวนการนิติสงครามที่ใช้กันอยู่ มีแต่ทำให้ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น