“อนุทิน” เผย 4 ส.ส.ที่ถูกขับจากอนาคตใหม่อาจมาไม่ถึง ภท. เห็นมีหลายพรรคอ้าแขนรอรับอยู่ ยันสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลไร้ปัญหา มั่นใจ ม.ค. 63 เศรษฐกิจไทยดีขึ้นหลังงบใหม่ออก
จากกรณีที่มีข่าวว่า 4 ส.ส.อนาคตใหม่ ที่เพิ่งถูกลงมติขับพ้นจากพรรค มีบางท่านเตรียมตัวมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เห็นมีหลายพรรคอ้าแขนต้อนรับอยู่ คิดว่าคงมาไม่ถึงพรรคภูมิใจไทย แต่ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.51 เสียงที่มีความเป็นปึกแผ่น สามารถทำงานสนับสนุนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้ เท่านี้ก็พอใจแล้ว ส่วนในอนาคตเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่พรรคเท่านั้น
สำหรับ ส.ส.ทั้ง 4 ท่าน ท่านจะไปอยู่พรรคไหน มาอยู่กับรัฐบาลแล้วจะเป็นผลดีหรือไม่ ทำไมพรรคอนาคตใหม่ตัดสินใจแบบนี้ ส่วนตัวไม่ทราบ และไม่ขอก้าวก่ายทั้งนั้น เพราะเชื่ออย่างเดียวว่าต่อให้พรรคมีจำนวน ส.ส.ระดับ 200 เสียง แต่ถ้าโกงกินชาติบ้านเมืองก็อยู่ลำบาก
“บะฮู้บะหัน ยังไม่มีการติดต่อหารือกับทั้ง 4 ท่าน ตอนนี้ก็พอใจกับจำนวน ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย รวมถึงวิธีการทำงานของลูกพรรค และความเป็นปึกแผ่นของพรรค เท่านี้ก็สบายใจแล้ว”
ต่อประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นว่ายังเป็นความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้มีปัญหาดังที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ คนให้ข่าวล้วนเป็นคนนอกทั้งสิ้น เพราะในที่ประชุมทุกคนก็ช่วยกันทำงานขยันขันแข็ง บรรยากาศเป็นไปด้วยดี รัฐมนตรีทุกท่านแจ้งความคืบหน้าของการทำงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบตลอดระหว่างที่ประชุม ครม. แต่ถ้ามีเรื่องตกค้างก็จะมาคุยกันนอกรอบ
สำหรับพรรคภูมิใจไทยมีความสุขกับการร่วมรัฐบาล เพราะเราเป็นพรรคปฏิบัติการ ตราบใดที่ยังได้ทำงานก็ย่อมมีความสุข ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนกล้าตัดสินใจ เวลามอบหมายงานแล้วจะให้อำนาจการตัดสินใจแก่คนที่ได้รับมอบหมายไปด้วย ส่วนตัวมีความสุขกับการทำงานเพราะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งเจ้านาย ลูกน้อง และข้าราชการ Can not ask for more แล้ว ไม่มีอะไรจะเรียกร้องมากไปกว่านี้
ที่ผ่านมามีการวิเคราะห์กันไปว่ารัฐบาลทำงานแบบต่างคนต่างทำ ขาดการบูรณาการ ขอบอกว่าไม่จริงเลย เพราะการตั้ง พล.อ.ประยุทธ์มานั่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจนี่เองคือการบูรณาการการทำงานของแต่ละพรรค เราเป็นรัฐบาลผสมจำเป็นต้องมีบุคคลที่ได้รับฉันทมติในการพูดคุยกับทุกฝ่าย ในที่นี้คือนายกฯ บทบาทคือประสานการทำงานเข้าด้วยกัน รัฐบาลชุดนี้ไม่มีบู๊แหลกแน่นอน เพราะนายกฯ พร้อมห้ามทัพเสมอ ขอยกตัวอย่างที่เรื่องการเซ็นสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ตนไปจัดการ หลังจากนั้นหลายหน่วยงานหลายกระทรวงได้มาช่วยกันคิดช่วยกันทำจนสำเร็จ นี่คือตัวอย่างของการบูรณาการ ส่วนเรื่องการเมือง การปรับเปลี่ยนจะเกิดขึ้นเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาที่มีข่าวสารเกี่ยวกับความระหองระแหงใน ครม.ก็มาจากการคาดเดาของคนที่อยู่นอกห้องประชุม ส่วนคนที่อยู่ในห้องไม่มีใครกังวล รัฐมนตรีทุกท่านรายงานผลงานให้ที่ประชุมทราบ ขณะที่ท่านนายกฯ ก็ขอบคุณที่ช่วยงานกัน สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ตนไม่นำมาคิด เพราะเรามีเป้าหมายร่วมกัน ถ้าวางเป้าจะเดินไปที่จุดนี้ แล้วมัวแต่เถียงกับแมลงที่มาบินวนรอบตัว คงไปไม่ถึงไหน
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นภารกิจที่หนักที่สุดของรัฐบาล เพราะเรื่องการเมืองเชื่อว่าไปได้สบาย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลชุดใหม่ ตนและคณะรัฐมนตรีเข้ามาด้วยการเลือกตั้ง และอยู่ภายใต้รัฐบาลธรรมนูญฉบับใหม่ การเข้ามาทำงานอยู่ในช่วงปลายปีงบประมาณแล้ว ส่วนงบใหม่กำลังพิจารณาอยู่ในสภา รอกลั่นกรองให้เรียบร้อย แต่เชื่อว่านับแต่เดือนมกราคม 2563 เศรษฐกิจไทย น่าจะดีขึ้น การที่รัฐบาลเข้ามาในช่วงปลายปีงบประมาณย่อมส่งผลกระทบกับการเบิกจ่าย อาทิ กระทรวงคมนาคม ถึงวันนี้ยังไม่สามารถประมูลงานได้เต็มที่ เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุขก็ประสบปัญหาอย่างเดียวกัน ดังนั้น ขอให้ประชาชนใจเย็น เมื่องบก้อนใหม่มาจะเกิดการหมุนเวียนในระบบ เมื่อนั้นเศรษฐกิจจะฟื้นตัวตามลำดับ
นายอนุทินยังกล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลว่า ขึ้นอยู่กับผลงาน ถ้าทำงานดีไม่มีเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน ต่อให้จะมีมวลชนมาชุมนุมก็เชื่อว่าเป็นการชุมนุมบนเงื่อนไขที่ยังไม่สุกงอม แต่ถ้ามีข่าวโกงแล้วประชาชนมาชุมนุม เชื่อว่ายิ่งชุมนุมยิ่งมีแต่คนส่งเสริม ตนเชื่อว่าถ้ารัฐบาลโกง เสียงในสภามากขนาดไหนก็ช่วยไม่ได้