“ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง กกต.เอาผิด “ธนาธร” พร้อมแกนนำพรรคอนาคตใหม่จัดแฟลชม็อบ ใช้มวลชนกดดันรัฐบาล ไม่คำนึงถึงระบบรัฐสภาที่ตนเองป่าวประกาศใช้เป็นธงนำมาตลอด ผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง-พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ โทษถึงขั้นยุบพรรค
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรคฯ หลายคน อาทิ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ได้เป็นแกนนำในการจัดชุมนุมบริเวณสกายวอล์ก หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหนคร ในเวลา 17.00-18.00 น.วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีสาวกทั้งผู้เฒ่า ผู้แก่ และคนหนุ่มสาวมาร่วมชุมนุมหลายพันคน ทำให้เกิดปัญหาการจราจรและก่อให้เกิดความไม่สงบหรือวุ่นวายไปทั่วบริเวณโดยรอบพื้นที่นั้น
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวมีการปราศรัยกล่าวโจมตีผู้นำประเทศอย่างเปิดเผย พร้อมนำตะโกนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ลาออก” ซึ่งปรากฏเป็นภาพข่าวและคลิปวิดีโอเผยแพร่เป็นการทั่วไปในสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย อันสะท้อนให้เห็นถึงวิถีทางของการใช้มวลชนกดดันรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาที่พรรคอนาคตใหม่ใช้เป็นธงนำในการป่าวประกาศต่อสาธารณะมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การจัดชุมนุมดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งให้หัวหน้าสถานีตํารวจ สน.ปทุมวัน ให้รับทราบตาม ม.10 แห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 อีกทั้งสถานที่จัดชุมนุมอยู่ใกล้วังสระปทุมซึ่งอยู่ในรัศมีไม่ถึง 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน จึงถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืน ม.7 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ที่สำคัญ การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการขัดหรือฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ม.45 ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนฯ ซึ่งอาจมีความผิดตาม ม.92 (3) ประกอบ ม.115 ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้ กกต.มีอำนาจไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัย หากพบว่าฝ่าฝืนให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นได้ และต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นเป็นคำร้องต่อ กกต. ให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัยกรณีดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ เพราะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช มิใช่ประชาชนทั่วไป หากแต่เป็นถึงหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ย่อมรู้ดีว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มีข้อห้ามไว้เด็ดขาดเพียงใด
“สมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพุธที่ 18 ธ.ค. 62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.” นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด