โฆษกอนาคตใหม่ คาดวันนี้ที่ประชุม ส.ส.-กก.บห.ได้มติเอกฉันท์ขับ 4 ส.ส.แหกมติ ยันไม่เคยฟันพวกขอสงวนสิทธิโหวต อ้างถ้าดูคะแนนรวมก็ยังต้องมี ส.ส.78 เสียง แขวะถ้าหนีไปซบพรรครัฐก็รู้เลยว่าใครรับกล้วย ซัดไม่เคารพอุดมการณ์ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม ลั่นพรรคยังใช้กลไกสภา ไม่เคลื่อนไหวบนถนน บอกแฟลชม็อบทำได้ไม่ใช่ชุมนุมการเมือง ถ้าทำจะยิ่งกว่านี้
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่พรรคอนาคตใหม่ เมื่อเวลา 12.50 น. น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวก่อนการประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณีที่ประชุมวิสามัญพรรคลงมติขับ นางศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี เขต 2, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี เขต 1 และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 ที่ฝ่าฝืนลงมติในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ตรงกับมติพรรคออกจากพรรคว่าจะมีข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ในการประชุม วันนี้ (17 ธ.ค.) เพื่อที่จะพิจารณามติที่ได้รับการเสนอมาจากที่ประชุมวิสามัญ และเมื่อที่ประชุมลงมติร่วมกันแล้วก็จะถือว่าเป็นทางการว่าเราขับ ส.ส.4 คนนี้ออกจากพรรค เราก็จะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังเจ้าตัว จากนั้นแจ้งต่อไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ต้องรอความชัดเจนก่อนว่าที่ประชุมจะมีมติอย่างไร
น.ส.พรรณิการ์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ก็เป็นไปตามกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ข่าวที่ออกไปยังไม่ได้เป็นมติของพรรค เพียงแต่เป็นการเสนอเรื่องโดยที่ประชุมวิสามัญ อีกทั้งที่ผ่านมาเราก็พยายามที่จะทำงานอย่างเป็นไปตามขั้นตอนมากที่สุด ในเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นเราก็ให้คณะกรรมการวินัยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และนี่ไม่ใช่ประเด็นเกี่ยวกันกับการนำความลับของที่ประชุมมาเปิดเผย รวมถึงเรื่องของการไปให้สัมภาษณ์ที่เสื่อมเสียกับเพื่อนสมาชิก ส.ส.พรรค เพราะกรณีนี้ทางพรรคได้ทำการภาคทัณฑ์ในครั้งแรก สุดท้ายแล้วก็ตามที่ประชุมวิสามัญฯ นี่คือขั้นตอนตามระเบียบข้อบังคับของพรรค และข้อเรียกร้องของสมาชิก และหากเกิดเหตุการณ์ครั้งต่อไปไม่จะเป็นว่าการโหวตสวนจะให้ออกจากพรรค เพราะเราคุยกันก่อนว่าเราจะโหวตตามมติพรรค และครั้งที่ผ่านมา ส.ส.ขอสงวนสิทธิโหวต เพราะบางคนมีข้อจำกัด พรรคไม่เคยลงโทษอะไร ไม่บังคับ และ ส.ส.ทุกคนทราบถึงนโยบายหลักของการหาเสียง คือ การลบล้างมรดกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ ม.44
เมื่อถามถึงการคำนวณคะแนนจะทำให้เสียที่นั่งหรือไม่ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ต้องกลับไปดูคะแนนพึงมีว่า กกต.จะปรับให้เท่าไหร่ คะแนนนี้ยังคงอยู่ในพรรค ต่อให้ย้ายไปก็ไม่เกี่ยวกับคะแนนรวม ตอนนี้พรรคมี ส.ส.ทั้งสิ้น 80 คน ออกไป 4 คน เหลือ 76 คน ถ้า กกต.เอาคะแนนออกไปกับ ส.ส.ด้วย เราก็ยังมี ส.ส.เหลืออีก 78 คน หายไปแต่ 2 เสียง ทั้งนี้ หาก ส.ส.ทั้ง 4 คนจะไปซบอกพรรครัฐบาล ประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจเอง จะรู้ว่าใครคือคนให้กล้วย และใครคือคนรับกล้วย ทุกอย่างจะมีความชัดเจน
“การขับ ส.ส.4 คนออกจากพรรค อาจจะเข้าทางฝ่ายรัฐบาล แต่เมื่อกระทำผิดซ้ำซากก็ต้องลงโทษ จากเบาไปหาหนัก ไม่ใช่เอาอ้อยเข้าปากช้าง สำหรับเราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ส.ส.ทุกคนต้องเคารพในอุดมการณ์ของพรรค ถึงแม้ว่าเสียงในสภาจะสำคัญ ถ้าเรารักษาเสียงไว้ แต่ไม่เคารพอุดมการณ์ของพรรคก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
ส่วนที่มีกระแสว่าการชุมนุมแฟลชม็อบของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา อาจมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคได้นั้น น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ตอนนี้พรรคมีคดีในศาลรัฐธรรมนูญถึง 2 คดี ตนมองว่าแล้วแต่มุมมองของคนที่จะคิด เพราะ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องหรือไม่ก็แล้วแต่ดุลพินิจ และการชุมนุมที่ผ่านมาคือการนัดพบคนที่ไม่ทนอีกแล้ว เป็นสิทธิของประชาชนในการแสดงออกที่กฎหมายรัฐธรรมนูญรองรับไว้ว่าคนไทยทุกคนสามารถทำได้ และพรรคไม่ได้เรียกร้องให้ใครออกมาร่วม คนไทยคิดได้เอง
“ขอยืนยันว่าอนาคตใหม่ยังคงใช้กลไกในรัฐสภา แต่ไม่ใช่การวอล์กเอาต์และมาเคลื่อนไหวในถนน ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง ถ้าชุมนุมจะยิ่งกว่านี้ อีกทั้งการทำงานของพรรคยังคงทำผ่านกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์ และวิธีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2560 พร้อมอภิปรายอย่างสันติผ่านทางสภา” น.ส.พรรณิการ์กล่าว