หน.ปชป.ปล่อยคาราวาน “ร้อยใจ สู้ภัยหนาว” แจกผ้าห่มเครื่องกันหนาว ไม่ทราบข่าว “พีระพันธุ์” จ่อนั่งที่ปรึกษานายกฯ ย้ำไม่มีปัญหากัน ไม่ตอบอ้าแขนรับ ส.ส.อนค.หากถูกยุบ แย้มควรมีอุดมการณ์เดียวกัน ชี้เป็นสิทธิแต่ละพรรคจัดกิจกรรมการเมือง
วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 11.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้ปล่อยคาราวานรถในโครงการ “ร้อยใจ สู้ภัยหนาว” จำนวน 14 คัน เพื่อนำผ้าห่มและเครื่องกันหนาวที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชน ภาคประชาชน ไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางที่ประสบภัยหนาว โดยนายจุรินทร์จะลงพื้นที่มอบสิ่งของบริจาคให้ประชาชนในวันที่ 16 ธ.ค.ที่ จ.อุบลราชธานี และวันที่ 21 ธ.ค. ไปมอบเครื่องกันหนาวที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์จะไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หลังลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า ไม่ทราบถึงกระแสข่าวดังกล่าว และไม่รู้ว่าจะไปเสริมทีมด้านเศรษฐกิจให้แก่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ จึงขอให้เวลาในอนาคตให้คำตอบในเรื่องดังกล่าว เพราะตนไม่สามารถให้คำตอบแทนนายพีระพันธุ์ได้เนื่องจากลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว และจนถึงวันนี้ยังไม่ทราบว่าเมื่อนายพีระพันธุ์ลาออกจากสมาชิกไปแล้วจะไปทำอะไรต่อ จึงย้ำเพียงว่าขอให้นายพีระพันธุ์โชคดี เพราะไม่ได้มีปัญหาใดๆ ต่อกัน
เมื่อถามถึงกรณีว่าหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมรับ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เข้าพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ขอตอบคำถามที่เกี่ยวกับพรรคอื่นเพราะไม่อยากพิพากษาก่อนเนื่องจากเป็นเรื่องของอนาคต ที่จะต้องรอกระบวนการยุติธรรมดำเนินการให้แล้วเสร็จ แต่การรับสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นั้นก็เป็นไปตามขั้นตอนของพรรค หากใครไม่เหมาะสม สมาชิกพรรคเดิมสามารถร้องคัดค้านได้เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา โดยเบื้องต้นนายทะเบียนพรรคจะเป็นผู้วินิจฉัย แต่การเป็นสมาชิกพรรคก็ควรจะมีอุดมการณ์เดียวกัน เพราะอุดมการณ์ถือเป็นหัวใจสำคัญของประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรค รปช. รวมถึงสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่ออกมาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของแต่ละพรรค ที่จะทำกิจกรรมใดๆ โดยแต่ละพรรคจะเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของตัวเอง ตนไม่ข้ามพรรคไปวิจารณ์ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และกิจกรรมของพรรคในสภาฯ ก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ต่อไป และในฐานะที่เป็นพรรคขนาดกลาง ก็จะต้องหาวิธีทางที่ทำให้ในอนาคตพรรคเติบโตมากขึ้น และยังมั่นใจว่าวันข้างหน้าเราจะกลับมาเติบโตและไปนั่งในใจของประชาชนได้อีกครั้งแน่นอน ตนมีความมั่นใจด้วยทิศทางการเดินของประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ด้วยอุดมการณ์ทันสมัยทำได้ไว ทำได้จริง