ทนายวันชัย สอนศิริ ฟัน “พรรคอนาคตใหม่” สู่ “อนาคตไหม้” แน่นอน จากคดี “ธนาธร” ให้พรรคกู้เงิน 191 ล้าน ที่ส่อว่าจะถูกยุบพรรค แถมเจ้าตัวออกมามอบหลักฐานให้เอง ชัดกว่าคดีถือหุ้น เสียอีก
วันนี้(23 พ.ย.62) เฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริ โพสต์หัว
“เส้นทางอนาคตไหม้”
โดยระบุว่า ช่างเหมือนกันเสียเหลือเกิน เส้นทางเดินของธนาธรอนาคตใหม่กับทักษิณไทยรักไทย ต่างกันที่ธนาธรมาเร็วเคลมเร็วแล้วก็ไปเร็ว แต่จุดหมายปลายทางคงไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้นเหมือนๆกัน แต่ขอพูดถึงธนาธรอนาคตใหม่ที่จะกลายเป็นอนาคตไหม้ ดังนี้
1.ตัวธนาธรไม่ได้เป็นส.ส.แน่นอนตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นหัวหน้าพรรคหรือจะเป็นนักการเมืองอย่างไรก็แล้วแต่ ก็วนๆอยู่นอกสภาและก็จะวนไปวนมาอย่างนี้เป็นสัมภเวสีทางการเมือง
2.จากคำวินิจฉัยแทบจะเห็นคดีอาญาอยู่รำไรและมีคุกเป็นที่หมาย แถมถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีกเกือบ 20 ปี แล้วจะไปผุดไปเกิดกันเมื่อไหร่ หรือว่าจะไปอยู่ต่างประเทศเหมือนคนอื่นเขา
3.อีกเรื่องหนึ่งก็เป็นเรื่องที่จะต้องตายยกรัง แทบจะไม่ต้องค้นคว้าหาพยานที่ไหน เพราะตัวเองรับสารภาพทั้งด้วยวาจาและเอกสารว่าปล่อยเงินกู้ให้พรรคของตนเป็นร้อยๆล้าน แล้วมันจะดิ้นไปได้อย่างไร เรื่องนี้เขียนคำวินิจฉัยง่ายกว่าคดีหุ้นสื่อเสียอีก ถึงขั้นยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคโดนกันเป็นตับๆ บรรดาหัวหอกก็คงจะหอกหักกันล่ะคราวนี้
4.เมื่อพรรคแตก ผึ้งก็แตกรัง จะอยู่ถึง 80 คนเหมือนเดิมหรือเปล่า แม้จะมีพรรคใหม่สำรองไว้ก็อาจจะเหลือสักครึ่งๆ นอกนั้นทางใครทางมันใส่คอนเวิร์สไปคนละทิศคนละทางแน่นอน ตอนนี้มันก็กรุ่นๆอยู่แล้ว
5.กระแสวัยรุ่น กระแสของพรรคตอนเลือกตั้งกับตอนนี้มันต่างกันลิบลับ เรตติ้งลดลงมาโดยลำดับ ก็ดูสิ..จัดกิจกรรมแต่ละครั้งก็คนหน้าเดิมๆ พวกป้าพวกลุงก็เสื้อแดงหน้าเก่าๆ หนุ่มสาวที่ลงคะแนนเลือกตั้งก็ไม่ได้มาวี้ดว้ายกระตู้วู้เหมือนตอนนั้น
สรุปอนาคตใหม่ไม่น่าจะไหม้เร็วเกินไป ทั้งหมดทำตัวเอง แท้ๆ อยู่ไม่เป็นไม่เป็นไรแต่ดันทำไม่เป็นนี่สิ..ผลมันจึงอยู่ไม่ได้
นับว่าน่าสนใจ สิ่งที่ทนายวันชัย หยิบยกมานั้น ล้วนแต่ “หมัดตาย” ที่นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ จะต้องต่อสู้ต่อไป
สำหรับคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นสื่อ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นสภาพส.ส.แล้ว ขณะนี้ทางสำนักงาน กกต. จะมีการเสนอต่อที่ประชุมกกต.สัปดาห์หน้า ให้พิจารณาขั้นตอน วิธีการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงการแจ้งข้อกล่าวหาและการดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 151(21 พ.ย.62)
ส่วนอีกคดีที่ทนายวันชัยบอกว่า เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน จนดิ้นไม่หลุด ก็คือ คดีเงินกู้ 191 ล้านบาท ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องต่อกกต.นานแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.62 กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาให้ กกต. เพิ่มเติม แต่ก็ยังไม่ได้รับหลักฐานดังกล่าว
กกต. ยังระบุว่า เอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นเอกสารที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้เคยเรียกเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่พรรคอนาคตใหม่ ไม่จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาให้แต่อย่างใด
ทั้งนี้คดีสืบเนื่องมาจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
หลักฐานสำคัญอันแรกก็คือ นายธนาธร แจ้งทรัพย์สินรวมคู่สมรสจำนวน 5,632,536,266 บาท เป็นหนี้สิน 683,303 บาท รายได้รวม 188,606,720 รายจ่าย 66 ล้านบาท โดยมีการแจ้งเงินปล่อยกู้พรรคอนาคตใหม่ รวม 191.2 ล้านบาท(Workpoint News 19 พ.ย.62)
ส่วนข้อกฎหมายที่จะนำมาเอาผิดเรื่องนี้ คือ มาตรา 62 ที่กำหนด “รายได้ของพรรคการเมือง” 7 ข้อ 1.เงินทุนประเดิมพรรค 2.เงินค่าธรรมเนียมและค่าบํารุงพรรคการเมืองตามที่กําหนดในข้อบังคับ 3.เงินที่ได้จากการจําหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรคการเมือง 4.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง 5.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุน 7.ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง
และมาตรา 87 ของกฎหมายเดียวกันกำหนดว่า “เงินและทรัพย์สินของพรรคการเมือง” ต้องนําไปใช้จ่ายเพื่อดําเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและสมาชิก และใช้จ่ายในการบริหารพรรค
มาตรา 87 จึงย้อนกลับไปที่มาตรา 62 โดยต้องตีความว่า “เงินและทรัพย์สินของพรรคการเมือง” จะมาจากการกู้เงินได้หรือไม่ เพราะทั้ง 7 ข้อในมาตรา 62 ไม่ได้บัญญัติเรื่องการกู้เงินมาเป็นรายได้ของพรรค มีแต่การระดมทุนหรือรับบริจาค
ไม่เพียงเท่านั้น มาตรา 66 ยังห้ามบุคคลใดบริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาทต่อปี และพรรคการเมืองจะรับเงินบริจาคจากคนคนเดียวเกิน 10 ล้านบาทต่อปีไม่ได้ ถือว่าผิดกฎหมายพรรคการเมือง
หลักฐานสำคัญอันที่สอง ในสำนวนการสอบสวนของอนุกรรมการ กกต. ยังได้ประจักษ์พยานว่า เมื่อ 15 พ.ค. “ธนาธร” ได้บรรยายตอนหนึ่งระหว่างรับเชิญจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ว่า ในช่วงระหว่างหาเสียงเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถระดมทุนได้ทันเวลาสำหรับการหาเสียง จึงให้เงินพรรคยืม 191 ล้านบาท เท่ากับว่านายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ยอมรับว่าเงินที่พรรคใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.62 เป็นเงินกู้...(27 กันยายน 62 ประชาชาติธุรกิจ)
ดังนั้น การที่พรรคอนาคตใหม่รับเงินจำนวนดังกล่าว มาใช้จ่ายเพื่อดําเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรค อาจเข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเกินจำนวนตามมาตรา 66 จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่ง ในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่า ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อฝ่าฝืนมาตรา 72 เป็นกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 92 (3)มาตรา 92 บัญญัติว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น...(ฐานเศรษฐกิจ 21 ก.ย.62)
เมื่อเป็นเช่นนี้ การออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชนิดฟันไม่เลี้ยงของทนายวันชัย จึงนับว่าน่าสนใจ และจากข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นชัดขึ้นว่า “อนาคตไหม้” มีจุดเริ่มและจุดจบอย่างไร อยู่ที่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่จะสู้ ก็คงหนีพ้น ข้ออ้างเดิม อย่างที่ “ปิยบุตร” เลขาธิการพรรค เคยอ้างเอาไว้
“หลัง 24 มี.ค. 2562 ผลการเลือกตั้งออกมา 6.3 ล้านเสียง ได้ ส.ส. 89 คน แต่โดนขโมยไปเหลือ 81 เสียง ได้แรงสนับสนุนจากคนทุกกลุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นำมาสู่คดีความ จนบัดนี้ทะลุยอด 25 คดีแล้ว หลังเลือกตั้งเร่งเหลือเกินอย่างน่าผิดสังเกต นักร้องเต็มประเทศไทย บางเรื่องอยู่ในชั้นตำรวจ อยู่ในกกต.และศาลรัฐธรรมนูญ อยู่ดี ๆ มีเพจแปลกใหม่ ๆ เกิดขึ้นและพูดความเท็จปนจริงทำลายล้างอนาคตใหม่”(วันรวมพลคนอยู่.ไม่.เป็น.16 พ.ย.62)
นั้นหมายถึงมีขบวนการทำลายล้างพรรคอนาคตใหม่(อีกแล้ว อีกแล้ว...)? คอยดู!!!