นายกฯ เผยในหลวงทรงมีรับสั่งให้สานต่อสิ่งที่ ร.๙ ทรงริเริ่มไว้ให้ครบ อ้อนชาวศรีสะเกษ นั่งถกอาเซียนวันละ 10 ชม.ปวดหลังไม่หาย แต่ยอมทำเพื่อคนไทยทุกคน ย้ำต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่ในอีอีซี ถ้าเอาแต่อัดงบอุดหนุนสินค้าเกษตรก็หมดเงินทำอย่างอื่น ลั่นทุกคนต้องช่วยกันในนามพรรคประเทศไทย วอนหยุดเกลียดกันไว้ก่อน เซ็งหลายคนหาว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย ทั้งที่ฟังทุกเรื่อง ขอพลังรักสามัคคีมีตลอดไป
ช่วงเช้าวันนี้ (7 พ.ย.) ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะจะเดินทางมาถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.คู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ มีกลุ่มสมัชชาคนจนเดินทางมาชุมนุมเพื่อทวงสัญญาจากนายกฯ ตามที่มีข้อตกลงกันไว้ ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรราษีไศล ในตัวเมือง อ.ราษีไศล โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัด และไม่ได้เคลื่อนมาชุมนุมบริเวณจัดงานที่นายกฯ จะเดินทางมาแต่อย่างใด
จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกฯ เดินทางมาถึง โดยมีคณะกรรมธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ให้การต้อนรับ ได้แก่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการ พล.อ.ดนัย มีชูเวท รองประธานคณะกรรมาธิการ นายลักษณ์ วจนานวัช รองประธานคณะกรรมาธิการ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ และโฆษกคณะกรรมาธิการ นายระวี รุ่งเรือง รองโฆษกคณะกรรมาธิการ นายบุญมี สุระโคตร กรรมาธิการ นายเฉลียว เกาะแก้ว กรรมาธิการ นายประมาณ สว่างญาติ กรรมาธิการ นายไพโรจน์ พ่วงทอง กรรมาธิการ นายสำราญ ครรชิต กรรมาธิการ นายอุดม วรัญญูรัฐ กรรมาธิการ รวมถึงนายลักษณ์ วจนานวัช ส.ว. และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ในรัฐบาลสมัยที่แล้ว รวมถึงนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมต้อนรับด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขอบคุณพี่น้องชาวอีสานที่มาต้อนรับ ตนก็ในมาในนามลูกอีสาน พอรู้ว่าพวกเรามีความสุข ตนก็มีความสุข ส่วนความทุกข์ก็พยายามแก้อยู่ในรัฐบาลใหม่นี้ ทุกอย่างต้องสืบสานต่อไป ซึ่งหลายอย่างดีขึ้น หลายอย่างต้องปรับโครงสร้าง ทั้งนี้ การประชุมอาเซียนที่ผ่านมา RCEP สามารถผลักดันได้สำเร็จ โดยความร่วมมือ 15 ประเทศ ลงนามในปีหน้า เป็นการเปิดตลาดขนาดใหญ่ ถือเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจ และเป็นผลงาน เหลือประเทศเดียวที่มีปัญหาอยู่ นอกจากนั้น ในการประชุมยังคุยถึงการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามชาติ 3 วัน 3 คืน นั่งวันละ 10 กว่าชั่วโมง วันนี้ยังไม่หายปวดหลังเลย แต่ทั้งหมดตนยอมทำให้พวกเราที่เป็นคนไทย ภาคเกษตรต้องดีกว่าเดิม แล้วดีขึ้นหรือไม่ ถ้าดีปรบมือ ตนว่าดีขึ้นไม่ใช่ไม่ดีสักอย่าง
นายกฯ ยังกล่าวถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ว่า ขณะนี้เรายกฐานะประเทศเป็นผู้ให้แล้ว ไม่ใช่ผู้ขอ กู้อย่างเดียวก็ไม่ได้ เราเป็นสมาชิกเขาไปแล้วเป็นระดับผู้ให้ หลายโครงการมีสิทธิใช้จ่ายเงินกองทุนช่วยประเทศอื่น เรามีสัดส่วนตรงนั้นมากพอสมควร วันนี้หลายอย่างเราดีขึ้น ที่ตนพูดอาจไกลตัวท่านเกินไป แต่อยากให้คิดตาม คิดแบบนี้ดู ถ้าคิดแต่เจอปัญหาทุกวัน ก็คิดอะไรไม่ออก ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาการเงินระดับมหภาค เราเป็นประเทศที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมากที่สุดในอาเซียน ทุกคนไว้วางใจในระบบการเงินของเรา ซึ่งกองทุนสำรองระหว่างประเทศ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าสูงระดับต้นของโลก อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนใหญ่มาจากท่องเที่ยวและบริการมากพอสมควร ทำให้เงินสะพัดในประเทศมาก เงินดอลลาร์เก็บในประเทศมาก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ถ้าเรามองภาพใหญ่มาถึงตัวเราจะเห็นว่าจะมีอนาคตไปตรงโน้นได้อย่างไร รัฐบาลต้องหาความร่วมมือจากทุกกลุ่ม รวมถึงทุกภูมิภาคบนโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้คุยกับผู้บริหารไอเอ็มเอฟและเห็นตรงกันคือเราจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการเกษตรของไทย ทั้งต้นทุนการผลิต การแปรรูปนวัตกรรม การเดินหน้าเป็นเกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรจีไอ ที่ระบุที่มาแหล่งผลิต เป็นต้น เรามีโอกาส แต่ถ้าเดินช้าก็ไม่ทันการ ซึ่งเราต้องปรับทั้งหมด โดยเราได้ปรับตั้งแต่ก่อนเขาแนะนำเสียอีก เช่น เกษตรแปลงใหญ่ และอื่นๆ นี่คือสิ่งที่ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ใช้เวลาเท่าไหร่ ใช้สติปัญญากันเท่าไหร่ หลายอย่างที่มีอยู่เราก็ต้องสานต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า โครงสร้างอุตสาหกรรมก็ต้องปรับทั้งหมด มันต้องมีอุตสาหกรรมใหม่ที่ส่งเสริมในอีอีซี 12 ประเภท ของเดิมมีอยู่ 5 เท่านั้น และต้องส่เสริมให้เกิดทั่วประเทศ โดยปรับสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุน เราต้องยอมรับตรงนี้ว่า ถ้าไม่มีแรงจูงใจให้เขามาลงทุนบ้านเรา เขาไม่มาแน่นอน เมื่อไม่มา ทั้งการจ้างงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี ก็ไม่เกิด รายได้ประเทศก็ไม่เพิ่ม วันนี้เก็บได้แต่ภาษี ถ้าไม่ทำโครงสร้างขนาดใหญ่อุตสาหกรรมให้ดีขึ้นเลย ภาษีก็ไม่ได้มากขึ้น แล้วต้องมาอุดหนุนราคาสินค้าวันหน้าจะพันตัวเองทั้งหมด
“ถ้าไม่หารายได้ใหม่ขึ้นมาอีกทาง แล้วเราต้องมาดูเรื่องข้าว ยาง อ้อย ปาล์ม จะเอาเงินจากที่ไหน เพราะทุกอย่างเราต้องงบประมาณทั้งสิ้น ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม สังคม มันต้องมีงบในการลงทุน วันนี้เราปรับการลงทุน รัฐลงทุนมากอย่างเดียวไม่พอ ภาคเอกชนต้องมาร่วมด้วย ถึงมีรูปแบบใหม่คือ PPP ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใครทั้งสิ้น ขอให้เข้าใจ ถ้ามันไม่เกิด มันก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำมันก็ไม่ได้ภาษีอยู่แล้ว ถ้าทำก็ต้องมีสิทธิประโยชน์ให้ก่อน ให้เข้มแข็งวันนี้และวันหน้า ซึ่งไม่ได้ลงทุน 5ปี 10 ปี” นายกฯ กล่าว
ระหว่างนี้ นายกฯ ถามชาวบ้านว่าปวดหัวหรือยัง ตนต้องพูดกับพวกเราด้วย ไม่ใช่บอกว่าเขาไม่รู้เรื่องจะไปพูดกับเขาทำไม ตนต้องการพูดให้ทุกคนรับรู้เรามีความจริงใจอย่างไร รัฐบาลคิดอะไร
“วันนี้ ส.ส. ส.ว.ก็ต้องช่วยกัน รัฐบาลก็ต้องช่วยกัน นักการเมืองไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม พรรคนี้คือพรรคประเทศไทย ทุกคนต้องร่วมมือกันตรงนี้ในการขับเคลื่อนทุกมิติไปให้ได้ เรื่องทางการเมืองก็เป็นเรื่องทางการเมือง ก็ว่ากันไป เป็นประชาธิปไตยก็ว่ากันไป เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมอยากจะขอพวกเราคือเราต้องลดความขัดแย้ง ลดปัญหาที่มีระหว่างกันให้ได้ ไม่ว่าจะรัก จะชอบ จะเกลียดก็หยุดๆ กันไว้ก่อนบ้าง มันจะได้มีเวลาได้คิดอะไรใหม่ๆ เพื่อคนไทย”
นายกฯ กล่าวว่า ในปีหน้าจะเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เราต้องแก้ปัญหาขยะพลาสติก รู้หรือไม่ว่าใช้เวลา 450 ปี แต่บางอันย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติกขนาดเล็กในน้ำ ปลาก็กินเข้าไปแล้วเราก็กินปลาต่อ เท่ากับกินพลาสติกเข้าไปทุกวัน ต้องแก้ตรงนี้ให้ได้
“วันนี้มาที่นี่ดีใจที่ได้มาร่วมงาน ผมจำได้ว่าเคยมาทีหนึ่งแล้ว วันนี้ก็มาครั้งที่ 2 ด้วยความคิดถึง เมื่อกี๊เห็นรำ ทุกคนก็สวยงาม รำสวยงาม มี 4 เผ่า คนถามผู้ว่าฯ ทำไมแต่งตัวไม่เหมือนกัน บอกว่ามี 4 เผ่า จะเผ่าอะไรก็ตามวันนี้ทุกคนคือเผ่าไทยด้วยกันทั้งหมด” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การทำเกษตรสมัยใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เปิดดูในโทรศัพท์ได้ มีข้อมูลทั้งหมด ที่ไหนควรปลูกอะไรมีให้หมด หรืออยากรู้เรื่องของแต่ละกระทรวง หรือรัฐบาลก็มีให้ ถ้าเราดูแต่เรื่องความขัดแย้ง จะปวดหัวจะขัดกับเขาไปด้วย ร่วมโพสต์กับเขาไปด้วย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ฝากไว้ด้วยแล้วกัน ตนห้ามใครไม่ได้อยู่แล้ว
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ตนได้คุยกับ รมว.มหาดไทยบนเครื่องบิน เห็นที่นาใน จ.อุบลราชธานียังไม่ได้ทำเลย อาจมีปัญหาเรื่องน้ำหรือไม่ ก็กลัวจะหมดหน้าทำนา ก็ไปดูปัญหาอยู่ที่ไหน ตนห่วงตรงนี้ ถ้าทำนาไม่ได้จะทำอย่างไร แต่ในพื้นที่ศรีสะเกษมีการทำนามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยู่ในระบบชลประทาน ใกล้เขื่อนราษีไศลส่งน้ำมา ซึ่งทั้งประเทศมีพื้นที่ในเขตชลประทานเพียง 30 % นอกนั้นไม่มีแหล่งน้ำหรือเขื่อนที่ทำได้
“พร้อมจะทำ แต่ทำไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่เห็นชอบ นั่นคือประชาธิปไตยของเรา แล้วใครบอกวันนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ผมนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ผมก็ต้องถามท่านถ้าท่านไม่เห็นชอบ ก็ทำไม่ได้ หลายคนก็หาว่าผมไม่ใช่ประชาธิปไตย ก็ฟังมาตลอดทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือดูแลพี่น้องเราได้อย่างไร เรื่องอื่นอย่าเพิ่งมาทะเลาะกันเลย” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องน้ำทุกคนต้องปรับตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสไว้ เราบังคับธรรมชาติไม่ได้ ธรรมชาติเป็นคนบังคับเรา แต่เราต้องเรียนรู้จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร นั่นคือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผอ.ไอเอ็มเอฟยังบอกเองว่าหลักนี้คือหลักของโลก เขาชื่นชม ศึกษามาละเอียดแล้วมาพูดกับตน เหมือนเขารู้เลยว่าเป็นคนไทย เข้าใจถึงแนวพระราชดำริดังกล่าว
“รัชกาลที่ ๑๐ ทรงให้สืบสานต่อเนื่องกันมา ทั้งหมดท่านรับสั่งกับผมอย่างเดียว รัชกาลที่ ๑๐ ขอให้ทำสิ่งที่สมเด็จพ่อได้ทำไว้ อะไรที่ทำยังไม่ครบ ทำเสียให้ครบ อันไหนทำได้ทำ อันไหนไม่ได้ก็เปลี่ยนแปลงได้ นั่นแหละคือสิ่งที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พวกเรา” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า อยากให้ทุกคนภูมิใจการเป็นวิสาหกิจที่เป็นรูปธรรมเช่นนี้ที่ดำเนินการได้สำเร็จ เราต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ และวันนี้มีกองทุนหมู่บ้าน เติมเงินลงไปแล้ว ถ้าเงินไม่มีก็ลำบาก เงินนั้นก็มาจากภาษีทั้งสิ้น เก็บให้ครบแล้วกัน เก็บตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนดีใจ มีคนมาตั้ง 3 พันกว่าคน ดีใจที่มาจากทุกจังหวัด ตนอยากให้สิ่งที่พูดมา แล้วให้ทุกคนนำไปพูดกับคนอื่นด้วย แล้วให้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น ตนบังคับให้ใครมารักมาชอบหมดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ต้องดูความตั้งใจของตน ของรัฐบาลเป็นอย่างไร สิ่งไม่ดีมันต้องมีอยู่ทุกแห่งในโลก อะไรไม่ดีมันก็มีอยู่ ถ้าเราไปจ้องแต่ตรงนั้นมันก็ลืมไปว่าต้องมาทำอะไรตรงนี้ เพราะเสียเวลาโพสต์กันไปมา บางทีไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย อย่าไปอ่านมากนักเจ็บตา ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา จะไปเกลียดไปรักเขาทำไมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ขออย่างเดียวคือความร่วมมือเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมในพลังรักสามัคคีเช่นวันนี้ตลอดไป ก่อนจะถามชาวบ้านว่า ขอได้หรือไม่ โดยชาวบ้านตอบว่าได้พร้อมเสียงปรบมือ ก่อนที่นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ มันทำให้นายกฯ มีกำลังใจ รัฐมนตรีก็มีกำลังใจ ข้าราชการก็มีกำลังใจ ถ้าทุกคนว่ากันไปมา ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
จากนั้น นายกฯ ได้เปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าวและทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว และเยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ได้แก่ การส่งสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิทรรศการ Fair Trade ของผู้ค้าที่ไม่หวังผลกำไรตอบแทน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กิจกรรมการส่งเสริมการปลูกพืชทางเลือก ของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กิจกรรมการดำเนินงานของ Young Smart Farmer จังหวัดศรีสะเกษ กิจกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเกษตร ก่อนเดินทางกลับ กทม.
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับได้แวะทักทายครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนหวายคำวิทยา อ.ราษีไศล พร้อมกับกล่าวว่า เราเป็นคนไทยต้องรักกัน และต้องซื่อสัตย์ ขยัน อดทน รวมถึงครูประจำชั้นต้องสอนแนวทางใหม่ สอนหลักคิดไปด้วย เพราะการสอนแล้วสอบใช้ไม่ได้ เราต้องสอนเด็กว่าสิ่งที่เรียนไปนั้นเอาไปใช้ประโยชน์หรือเอามาใช้ทำงานในชีวิตได้อย่างไร ก่อนจะร่วมถ่ายภาพหมู่และเซลฟีอย่างเป็นกันเอง
