ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กตู่" นำคณะลงพื้นที่ "ราษีไศล" เปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าว-ทดสอบระบคัดคุณภาพ พร้อมพบปะเกษตรกร โชว์ภาพไทยโดดเด่นในสายตาชาวโลก ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีนโยบายชัดมุ่งปรับโครงสร้างภาคเกษตร เน้นดึงลงทุนอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ย้ำปีหน้าเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ขอเกษตรกรเรียนรู้ทำเกษตรสมัยใหม่ เน้นใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าช่วย พร้อมวอนทุกคนต้องช่วยกัน ลดขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมชมกิจการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.คู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และเป็นประธานเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าว และทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว รวมถึงการพบปะเกษตรกร และเยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ได้แก่ การส่งสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ จ.ศรีสะเกษ นิทรรศการ Fair Tradeของผู้ค้าที่ไม่หวังผลกำไรตอบแทน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กิจกรรมการส่งเสริมการปลูกพืชทางเลือก ของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กิจกรรมการดำเนินงานของ Young Smart Farmer จ.ศรีสะเกษ กิจกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางมาถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ปรากฏว่า มีกลุ่มสมัชชาคนจนกว่า 500 คน เดินทางมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนผลกระทบจาก 4 เขื่อน ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรราษีไศล โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัด และไม่ได้เคลื่อนไปชุมนุมที่บริเวณจัดงาน
เมื่อคณะของนายกฯ เดินทางไปถึง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา และคณะ ได้มารอให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องชาวอีสานที่มาต้อนรับ และได้พูดถึงความสำเร็จของการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา สามารถผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ได้สำเร็จ พร้อมฉายภาพให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของไทย ที่มีฐานะการเงินมั่นคง มีรายได้จากภาคท่องเที่ยวและบริการ มีนโยบายชัดเจนที่จะปรับโครงสร้างภาคเกษตร ไปเป็นเกษตรอินทรีย์ ผลักดันสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) การแปรรูปและนวัตกรรม ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม จะเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ส่วนการลงทุน จะใช้รูปแบบใหม่ในลักษณะรัฐร่วมเอกชน หรือพีพีพี แต่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร
สำหรับเรื่องทางการเมือง เป็นประชาธิปไตย ก็ว่ากันไป แต่อยากขอจากพวกเรา คือ ต้องลดความขัดแย้ง ลดปัญหาที่มีระหว่างกันให้ได้ ไม่ว่าจะรัก จะชอบ จะเกลียด ก็หยุดๆ กันไว้ก่อนบ้าง มันจะได้มีเวลาได้คิดอะไรใหม่ๆ เพื่อคนไทย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำตอนหนึ่งว่า ปีหน้าจะเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เราต้องแก้ปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าใช้เวลา 450 ปีในการย่อยสลาย แต่บางอันย่อยสลาย เป็นไมโครพลาสติกขนาดเล็กในน้ำ ปลาก็กินเข้าไป แล้วเราก็กินปลาต่อ เท่ากับกินพลาสติกเข้าไปทุกวัน ต้องแก้ตรงนี้ให้ได้ ส่วนภาคเกษตร ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เปิดดูในโทรศัพท์ได้ มีข้อมูลทั้งหมด ที่ไหนควรปลูกอะไร มีให้หมด หรืออยากรู้เรื่องของแต่ละกระทรวง หรือรัฐบาลก็มีให้
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทุกคนต้องปรับตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงตรัสไว้ เราบังคับธรรมชาติไม่ได้ ธรรมชาติเป็นคนบังคับเรา แต่เราต้องเรียนรู้จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร นั่นคือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผอ.ไอเอ็มเอฟ ยังบอกเองว่าหลักนี้ คือ หลักของโลก เขาชื่นชมศึกษามาละเอียด แล้วมาพูดกับตน เหมือนเขารู้เลยว่าเป็นคนไทย เข้าใจถึงแนวพระราชดำริดังกล่าว
"รัชกาลที่10 ทรงให้สืบสานต่อเนื่องกันมา ทั้งหมดท่านรับสั่งกับผม รัชกาลที่ 10 ขอให้ทำสิ่งที่สมเด็จพ่อได้ทำไว้ อะไรที่ทำยังไม่ครบ ทำเสียให้ครบ อันไหนทำได้ ทำ อันไหนทำไม่ได้ ก็เปลี่ยนแปลงได้ นั่นแหละคือสิ่งที่พระมหากษัตริย์มีพระมหากรุณาธิคุณกับพวกเรา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณ และชื่นชมในพลังรักสามัคคี ก่อนจะถามชาวบ้านว่า ขอได้หรือไม่ โดยชาวบ้านตอบว่า ได้ พร้อมเสียงปรบมือ ก่อนที่นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ มันทำให้นายกฯ มีกำลังใจ รัฐมนตรีก็มีกำลังใจ ข้าราชการก็มีกำลังใจ ถ้าทุกคนว่ากันไปมา ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับได้แวะทักทายครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนหวายคำวิทยา อ.ราษีไศล พร้อมกับกล่าวว่า เราเป็นคนไทยต้องรักกัน และต้องซื่อสัตย์ ขยัน อดทน รวมถึงครูประจำชั้นต้องสอนแนวทางใหม่ สอนหลักคิดไปด้วย เพราะการสอนแล้วสอบใช้ไม่ได้ เราต้องสอนเด็กว่าสิ่งที่เรียนไปนั้นเอาไปใช้ประโยชน์หรือเอามาใช้ทำงานในชีวิตได้อย่างไร ก่อนจะร่วมถ่ายภาพหมู่ และเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมชมกิจการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.คู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และเป็นประธานเปิดโรงอบเมล็ดพันธุ์ข้าว และทดสอบระบบการคัดคุณภาพข้าว รวมถึงการพบปะเกษตรกร และเยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ได้แก่ การส่งสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ จ.ศรีสะเกษ นิทรรศการ Fair Tradeของผู้ค้าที่ไม่หวังผลกำไรตอบแทน ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กิจกรรมการส่งเสริมการปลูกพืชทางเลือก ของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กิจกรรมการดำเนินงานของ Young Smart Farmer จ.ศรีสะเกษ กิจกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางมาถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง ปรากฏว่า มีกลุ่มสมัชชาคนจนกว่า 500 คน เดินทางมาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนผลกระทบจาก 4 เขื่อน ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรราษีไศล โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัด และไม่ได้เคลื่อนไปชุมนุมที่บริเวณจัดงาน
เมื่อคณะของนายกฯ เดินทางไปถึง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา และคณะ ได้มารอให้การต้อนรับ
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องชาวอีสานที่มาต้อนรับ และได้พูดถึงความสำเร็จของการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา สามารถผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ได้สำเร็จ พร้อมฉายภาพให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของไทย ที่มีฐานะการเงินมั่นคง มีรายได้จากภาคท่องเที่ยวและบริการ มีนโยบายชัดเจนที่จะปรับโครงสร้างภาคเกษตร ไปเป็นเกษตรอินทรีย์ ผลักดันสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) การแปรรูปและนวัตกรรม ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม จะเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ส่วนการลงทุน จะใช้รูปแบบใหม่ในลักษณะรัฐร่วมเอกชน หรือพีพีพี แต่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร
สำหรับเรื่องทางการเมือง เป็นประชาธิปไตย ก็ว่ากันไป แต่อยากขอจากพวกเรา คือ ต้องลดความขัดแย้ง ลดปัญหาที่มีระหว่างกันให้ได้ ไม่ว่าจะรัก จะชอบ จะเกลียด ก็หยุดๆ กันไว้ก่อนบ้าง มันจะได้มีเวลาได้คิดอะไรใหม่ๆ เพื่อคนไทย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำตอนหนึ่งว่า ปีหน้าจะเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เราต้องแก้ปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าใช้เวลา 450 ปีในการย่อยสลาย แต่บางอันย่อยสลาย เป็นไมโครพลาสติกขนาดเล็กในน้ำ ปลาก็กินเข้าไป แล้วเราก็กินปลาต่อ เท่ากับกินพลาสติกเข้าไปทุกวัน ต้องแก้ตรงนี้ให้ได้ ส่วนภาคเกษตร ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เปิดดูในโทรศัพท์ได้ มีข้อมูลทั้งหมด ที่ไหนควรปลูกอะไร มีให้หมด หรืออยากรู้เรื่องของแต่ละกระทรวง หรือรัฐบาลก็มีให้
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทุกคนต้องปรับตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงตรัสไว้ เราบังคับธรรมชาติไม่ได้ ธรรมชาติเป็นคนบังคับเรา แต่เราต้องเรียนรู้จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างไร นั่นคือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผอ.ไอเอ็มเอฟ ยังบอกเองว่าหลักนี้ คือ หลักของโลก เขาชื่นชมศึกษามาละเอียด แล้วมาพูดกับตน เหมือนเขารู้เลยว่าเป็นคนไทย เข้าใจถึงแนวพระราชดำริดังกล่าว
"รัชกาลที่10 ทรงให้สืบสานต่อเนื่องกันมา ทั้งหมดท่านรับสั่งกับผม รัชกาลที่ 10 ขอให้ทำสิ่งที่สมเด็จพ่อได้ทำไว้ อะไรที่ทำยังไม่ครบ ทำเสียให้ครบ อันไหนทำได้ ทำ อันไหนทำไม่ได้ ก็เปลี่ยนแปลงได้ นั่นแหละคือสิ่งที่พระมหากษัตริย์มีพระมหากรุณาธิคุณกับพวกเรา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณ และชื่นชมในพลังรักสามัคคี ก่อนจะถามชาวบ้านว่า ขอได้หรือไม่ โดยชาวบ้านตอบว่า ได้ พร้อมเสียงปรบมือ ก่อนที่นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ มันทำให้นายกฯ มีกำลังใจ รัฐมนตรีก็มีกำลังใจ ข้าราชการก็มีกำลังใจ ถ้าทุกคนว่ากันไปมา ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับได้แวะทักทายครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนหวายคำวิทยา อ.ราษีไศล พร้อมกับกล่าวว่า เราเป็นคนไทยต้องรักกัน และต้องซื่อสัตย์ ขยัน อดทน รวมถึงครูประจำชั้นต้องสอนแนวทางใหม่ สอนหลักคิดไปด้วย เพราะการสอนแล้วสอบใช้ไม่ได้ เราต้องสอนเด็กว่าสิ่งที่เรียนไปนั้นเอาไปใช้ประโยชน์หรือเอามาใช้ทำงานในชีวิตได้อย่างไร ก่อนจะร่วมถ่ายภาพหมู่ และเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง
