นายกฯ รับรายการผลจัดอันดับความยากง่ายการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2020) จาก ก.พ.ร.กำชับเร่งดำเนินการลดขั้นตอน จบในจุดเดียว ขอบคุณที่ช่วยให้อันดับของไทยดีขึ้น บ่นสื่อ สิ่งดีๆ ไม่พูด ปลุกทำให้ขึ้นอันดับหนึ่งของโลกไปเลย พร้อมเผยไอเอ็มเอฟชมมาตรการทางการเงินมาถูกทาง สถานการณ์แข็งแกร่ง จนขณะนี้ไทยเป็นประเทศเจ้าหนี้แล้ว
วันนี้ (6 พ.ย.) เวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อรายงานผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2020) ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องการประกอบธุรกิจเราต้องเร่งดำเนินการเพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว เช่น การขอเอกสารกันไปมาหลายๆ เที่ยวในการขอประกอบการ บางอันสามารถขอผ่านออนไลน์ได้ บางอันจบได้ที่ศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งเป็นศูนย์แรกที่ทุกคนจะมารับทราบข้อมูลว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบทีเดียว บางอย่างต้องไปหลายหน่วยงาน และขณะนี้กำลังปรับปรุงทุกอย่าง ตนขอบคุณทุกคนที่ทำให้ประเทศไทยได้อันดับต้นๆ ของโลก อะไรที่มันขึ้นดีทั้งนั้น อะไรที่ไม่ดีก็แก้กันไป แต่ถ้ามีปัญหาแล้วพูดกันอยู่เรื่อย สิ่งดีๆ ก็ไม่ได้พูด คนก็ไม่เข้าใจ กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร เราต้องช่วยกันแบบนี้ เข้าใจหรือไม่ เขาเหนื่อยกันแทบตาย ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวกับคณะที่มาอีกว่า “ทำให้ขึ้นอันดับหนึ่งของโลกเลยแล้วกัน”
นายกฯ กล่าวว่า การที่ผู้บริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ มาเยือนประเทศไทยนั้นได้ชื่นชมมาตรการทางการเงินหลายอย่างเดินมาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานะทางการเงินของเราก็แข็งแรง และอาจจะแข็งแกร่งมากในเอเชีย ซึ่งยังต้องหาวิธีการอื่นๆ ควบคู่กันอีกด้วย
“ไอเอ็มเอฟเป็นเพื่อนเรา เราเป็นสมาชิก ไม่ได้หมายความว่าเราจ้องจะกู้ ไม่ใช่ เราเป็นประเทศผู้ให้แล้ว และเราก็เป็นเจ้าหนี้แล้ว เพราะฉะนั้น สัดส่วนการถือครองหุ้นหรือสัดส่วนงบประมาณที่เรามีอยู่ในไอเอ็มเอฟก็มากพอสมควร เราก็สามารถเป็นเจ้าหนี้ได้แล้ว เป็นประเทศผู้ให้แล้ว แทนที่จะเป็นประเทศผู้รับอย่างเดียว น่าภูมิใจนะ อยากให้สื่อทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้ด้วย มันเป็นรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่สั่งวันเดียวแล้วทำพรุ่งนี้เสร็จ มันไม่ได้สักอัน และอย่างเรื่องนี้ถ้าไม่ทำกันมายาวๆ มันไม่เกิดหรอก” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว