อดีต รมว.คลังระบุไทยไม่เหมาะที่จะเอาดีด้านด้านการทำเหมือง ไม่ว่าแร่ชนิดใด เพราะอยู่ติดชุมชน หรืออยู่ท่ามกลางพื้นที่เกษตรกรรม ชี้ “สุริยะ”อ้างกฎหมายใหม่เข้มงวดแล้ว ให้เหมืองทองอัคราฯ เปิดใหม่ได้ ฟังไม่ขึ้น เพราะมาตรฐานการทำงานของข้าราชการไทยต่ำ และจากสภาพที่เหมืองที่ถูกล้อมโดยชุมชน ถ้าจะควบคุมมลพิษแบบเกือบ 100% ต้นทุนจะสูง
วันนี้(5 พ.ย.) นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล หัวข้อ “เหมืองทองใหญ่ประเทศอื่นไม่รบกวนชุมชน” มีรายละเอียดว่า การเปรียบเทียบเหมืองทองคำอัคราที่พิจิตรกับเหมือง 5 อันดับของโลก จะเห็นความแตกต่าง
รูป 1 เนื่องจากสายแร่ในไทยอยู่ตื้นแต่กินพื้นที่กว้าง รูปทรงของเหมืองจึงเป็นรูปกะทะที่ปากกว้างมาก เป็นแผลหน้าดินขนาดใหญ่
รูป 2 จะเห็นได้ว่าเหมืองอัคราอยู่ท่ามกลางนาข้าว จึงมีชาวบ้านอยู่อาศัยรอบบริเวณเหมือง
รูป 3 เหมือง Grasberg ในอินโดนีเซียที่ผลิตทองคำอันดับหนึ่งของโลก
รูป 4 ตั้งอยู่ในหุบเขา ด้านหนึ่งเป็นป่า อีกด้านหนึ่งเป็นภูเขา จึงไม่มีปัญหากระทบต่อชาวบ้าน
รูป 5 เหมือง Muruntua ในอุซเบกิสถาน ที่ผลิตทองคำอันดับสองของโลก
รูป 6 ตั้งอยู่ในทะเลทราย จึงไม่มีปัญหากระทบต่อชาวบ้าน
รูป 7 เหมือง Gold strike ในรัฐเนวาดา สหรัฐ ที่ผลิตทองคำอันดับสามของโลก
รูป 8 ตั้งอยู่ในทะเลทราย จึงไม่มีปัญหากระทบต่อชาวบ้าน
รูป 9 เหมือง Olympiada ในรัสเซีย ที่ผลิตทองคำอันดับสี่ของโลก
รูป 10 ตั้งอยู่ในป่า จึงไม่มีปัญหากระทบต่อชาวบ้าน
รูป 11 เหมือง Lihir ในปาปัวนิวกินี ที่ผลิตทองคำอันดับห้าของโลก
รูป 12 ตั้งอยู่บนเกาะเล็กแยกต่างหากจากแผ่นดินใหญ่ จึงไม่มีปัญหากระทบต่อชาวบ้าน
ไทยจะเอาดีด้านเหมืองแร่ได้ยาก ไม่ว่าแร่ชนิดใด เพราะเหมืองอยู่ติดชุมชน อยู่ท่ามกลางพื้นที่เกษตรกรรม และบางแห่งมีผลต่อการท่องเที่ยว จะยกเว้นก็เฉพาะปิโตรเลียมที่ขุดเป็นหลุมเพื่อเอาจากใต้ดินเท่านั้น
การที่นายสุริยะอ้างว่าสามารถให้ใบอนุญาตใหม่ได้ เพราะกฎหมายใหม่เข้มงวด ก็รับฟังไม่ได้ เพราะมาตรฐานการทำงานของข้าราชการไทยต่ำ ไม่จริงจัง
และจากสภาพที่เหมืองในไทยถูกล้อมโดยชุมชน ถ้าจะควบคุมมลพิษแบบเกือบ 100% ก็ย่อมจะทำให้ต้นทุนโดยรวมสูงกว่าประเทศที่เหมืองอยู่ห่างไกลผู้คน