“ชลน่าน”เผย กมธ.จ้องชำแหละงบความมั่นคง-งบกลาง คาดยอดปรับลดทั้งหมดกว่า 5 หมื่นล้าน พร้อมระบุ หากรัฐบาลแพ้คดีเหมืองทองอัครา ต้องให้ คสช.จ่ายชดเชย 3.6 หมื่นล้านเอง เพราะออกคำสั่งปิดกิจการ จะเอาภาษี ปชช.ไปจ่ายไม่ได้
วันนี้(26 ต.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 เปิดเผยว่า การพิจารณางบประมาณในปีนี้ทางคณะกรรมาธิการจะพิจารณาคำขอใช้งบประมาณอย่างเข้มงวดในทุกๆ หน่วยงาน การใช้งบประมาณ คุ้มค่าหรือไม่ เพราะด้วยงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ถือเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ดังนั้นในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย และเงินที่นำมาจัดทำงบประมาณเป็นภาษีพี่น้องประชาชน จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดทุกขั้นตอนทุกโครงการ
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า กรรมาธิการฯ ซีกพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมขอขยายเวลาในการพิจารณาเพิ่ม จากที่ประชุมรัฐบาลให้เวลาเพียง 226 ชั่วโมง ถือว่า น้อยมากหากเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมจากฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับงบประมาณของฝ่ายความมั่นคง กระทรวงกลาโหม และงบกลาง หากผู้ชี้แจงไม่สามารถชี้แจงได้ ทางคณะกรรมาธิการคงไม่ยอม คาดว่า คณะกรรมาธิการจะมีการปรับลดงบประมาณลงไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับงบกลางที่กันไว้กว่า 96,000 ล้านบาท เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีในการอนุมัติงบ หากมีการกันงบประมาณไว้จ่ายค่าเสียหาย กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งระงับกิจการทำเหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จนบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทแม่ในประเทศออสเตรเลีย ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) หากไทยแพ้ต้องจ่ายค่าปรับไม่น้อยกว่า 36,000 ล้านบาท ทางคณะกรรมาธิการฯ คงไม่ยอมให้เอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายค่าปรับ ถือเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสม เพราะเมื่อหัวหน้า คสช.สั่งปิด หัวหน้า คสช. จะต้องรับผิดชอบเอง จะให้ประชาชนมาร่วมรับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้นจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่า จะไม่มีการนำเงินประชาชนไปใช้จ่ายโดยไม่เหมาะอย่างแน่นอน
