ผู้จัดการรายวัน360-ครม.ถกปมเหมืองทองอัครา ที่รัฐบาลถูกฟ้องหลังคสช.ใช้ ม.44 สั่งปิดเหมือง เผย 4 ทางเลือกในการแก้ปัญหา "บิ๊กตู่" ขอเวลาตัดสินใจ บอก "ผมรับผิดชอบเอง"
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2562 ได้มีการพูดคุยหารือกันอย่างกว้างขวาง ในเรื่องบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ที่ฟ้องร้องรัฐบาลไทย หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร ทำให้ประเทศไทยต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ
โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้รายงานเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลดำเนินการเจรจา และดำเนินตามกระบวนการกฎหมายมาโดยตลอด และรายงานทางออกของเรื่องดังกล่าว 4 ข้อ โดยที่ประชุม ครม.รับทราบข้อสรุปทางออกเรื่องดังกล่าว 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.จ่ายเงินให้กับบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แล้วให้เลิกกิจการไป 2.ดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะช่วยให้อาจไม่ต้องจ่ายเงิน 3.รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ แล้วปฏิบัติตาม และ4.หาช่องจ่ายเงินค่าปรับบางส่วน โดยให้ชดเชยค่าเสียหาย แล้วให้ดำเนินกิจการต่อ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีการทักท้วงว่า เมื่อรัฐบาลสั่งปิดกิจการของเหมืองไปแล้ว ไม่เห็นควรที่จะให้มีการดำเนินกิจการต่อไป ดังนั้น ควรหาแนวทางอื่น ซึ่งที่ประชุม ครม. ก็ยังไม่ได้มีข้อเสนอแนะว่า ควรใช้แนวทางใด หรือข้อสรุปใดในเรื่องดังกล่าว
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวกลางที่ประชุมว่า ขอเวลาคิดก่อนว่าจะใช้แนวทางใด เวลานี้ยังไม่ขอตัดสินใจ แต่ขอรับผิดชอบด้วยตัวเอง "ผมรับผิดชอบเอง" เพราะเป็นผู้ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แสดงความเห็นว่า รัฐบาลควรรอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการก่อน ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้แสดงความคิดเห็น หรือเสนอว่าควรจะใช้แนวทางไหนได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2562 ได้มีการพูดคุยหารือกันอย่างกว้างขวาง ในเรื่องบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ที่ฟ้องร้องรัฐบาลไทย หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร ทำให้ประเทศไทยต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ
โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้รายงานเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลดำเนินการเจรจา และดำเนินตามกระบวนการกฎหมายมาโดยตลอด และรายงานทางออกของเรื่องดังกล่าว 4 ข้อ โดยที่ประชุม ครม.รับทราบข้อสรุปทางออกเรื่องดังกล่าว 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.จ่ายเงินให้กับบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แล้วให้เลิกกิจการไป 2.ดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะช่วยให้อาจไม่ต้องจ่ายเงิน 3.รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ แล้วปฏิบัติตาม และ4.หาช่องจ่ายเงินค่าปรับบางส่วน โดยให้ชดเชยค่าเสียหาย แล้วให้ดำเนินกิจการต่อ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีการทักท้วงว่า เมื่อรัฐบาลสั่งปิดกิจการของเหมืองไปแล้ว ไม่เห็นควรที่จะให้มีการดำเนินกิจการต่อไป ดังนั้น ควรหาแนวทางอื่น ซึ่งที่ประชุม ครม. ก็ยังไม่ได้มีข้อเสนอแนะว่า ควรใช้แนวทางใด หรือข้อสรุปใดในเรื่องดังกล่าว
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวกลางที่ประชุมว่า ขอเวลาคิดก่อนว่าจะใช้แนวทางใด เวลานี้ยังไม่ขอตัดสินใจ แต่ขอรับผิดชอบด้วยตัวเอง "ผมรับผิดชอบเอง" เพราะเป็นผู้ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แสดงความเห็นว่า รัฐบาลควรรอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการก่อน ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้แสดงความคิดเห็น หรือเสนอว่าควรจะใช้แนวทางไหนได้บ้าง