เมืองไทย 360 องศา
ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เดินหน้าออกโครงการสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเพียงไม่กี่เดือน ล่าสุด มติคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการลดภาระหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้เกษตรกรรายย่อย 2 โครงการ ได้แก่ การขยายเวลาชำระหนี้ให้เกษตรกรรายย่อยทุกรายที่เป็นหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งหมดจำนวน 3.81 ล้านราย
และโครงการที่สอง คือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรรายย่อยที่มีต้นเงินกู้ไม่เกิน 3 แสนบาทในระยะเวลา 1 ปี เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2561 ถึง 31 กรกฎาคม 2562 โดยทั้งรัฐบาล และ ธ.ก.ส.จะรับภาระดอกเบี้ยรวมกัน 3 เปอรเซ็นต์ (รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อปี)
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่สนใจและติดตามกันมากของชาวบ้านทั่วประเทศก็คือ การ “ปลดล็อก” พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยจะมีการแก้ไขมาตรา 7 เพื่อเปิดทางให้าวบ้านสามารถปลูกไม้ที่เคยหวงห้าม ไม้ที่มีมูลค่าสูงได้ในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ได้อย่างเสรี เช่น ต่อไปชาวบ้านสามารถปลูกไม้พะยูง ชิงชัน ไม้สัก ประดู่ มะค่า ตะเคียน เป็นต้น จากเดิมที่ห้ามเอาไว้
โดยตอนนี้ทุกอย่างเตรียมความพร้อมเอาไว้หมดแล้ว เตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและเข้าสู่สภานิติบัญญัติเพื่อแก้ไขเป็นกฎหมายออกมาบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
แค่สองเรื่องนี้รับรองว่าสำหรับชาวบ้านทั่วประเทศนับสิบล้านคนจะได้ประโยชน์และติดตาม อยากให้เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขพระราชบัญญัติป่าไม้ดังกล่าว
นี่ยังไม่นับเรื่องการลุยแก้หนี้นอกระบบ การต่อยอดจากบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย หรือ “บัตรคนจน” ที่เวลานี้กำลังขยายลงลึกในการใช้จ่ายได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมในทุกเรื่อง
เอาเป็นว่าเป้าหมายมุ่งไปที่ชาวบ้านระดับล่าง ซึ่งมีจำนวนมากค่อนประเทศนี้กันเลยทีเดียว ถึงได้บอกว่า “ไม่ธรรมดา” กันเลยทีเดียว เพราะหากพิจารณากันในทางการเมืองควบคู่ไปด้วย แน่นอนว่าย่อมหวังที่จะ “ได้ใจ” แน่นอน
หากจะยึดเอาตามโรดแมปที่ฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเอาไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า นับจากตอนนี้ถือว่าเหลือเวลาอีกเพียง 7-8 เดือนเท่านั้น ในทางการเมืองถือว่ากระชั้นเข้ามาทุกทีแล้ว เป็นช่วงเข้าสู่โค้งสุดท้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน หากมองว่านี่คือการเก็บเกี่ยว “แต้ม” ในทางการเมือง เพื่อหวังผลกับคะแนนเสียงในวันข้างหน้า อย่างน้อยในช่วงของการเลือกตั้งที่ทำให้พรรคที่คาดประกาศตัวสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประโยชน์ หรืออย่างน้อยข้ออ้างในวันหน้าที่ว่า “เพื่อต้องเข้ามาสานงานต่อ” เอาไว้หลายโครงการตามแผน “ยุทธศาสตร์ชาติ” ในอนาคต ก็ต้องทำให้เกิดการโหยหาผู้นำแบบนี้หรือไม่
แน่นอนว่า เป้าหมายย่อมอธิบายกันว่านี่คือนโยบายหรือแผนสำหรับช่วยเหลือชาวบ้านที่เป็นคนจน หรือคนส่วนใหญ่ในประเทศ แต่ช่วยไม่ได้ที่ต้องถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ที่ต้องมีการหวังผลอย่างชัดเจน และสำคัญต้องจัดหนัก จัดเต็มทุกเม็ดในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้เสียด้วย เพราะขนาดเรื่องแสดงอารมณ์ “อ่อนไหว” ช่วยเหลือ “สุนัขที่ถูกทอดทิ้ง” “ลุงตู่” ก็ยังไม่ลืม เพราะอย่างน้อยพวกคนรักสุนัข รักแมว ก็มีจำนวนไม่น้อย ได้ใจกันไปเต็มๆ
ถึงได้บอกว่าไม่ธรรมดา และเชื่อว่าคงไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ย้ำแล้วจะเน้นช่วยเหลือชาวบ้านระดับฐานรากทั่วประเทศในช่วงเวลาที่เหลืออย่างเต็มที่ ขณะที่พวกนักการเมืองได้แต่มองตาปริบๆ ก็แล้วกัน!!