ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ธปท.เผยเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องถึงไตรมาส 3 ตามการใช้จ่ายภาครัฐ การขยายตัวภาคเกษตร และการบริโภคของภาคเอกชน ห่วงมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศคู่ค้าถ่วงเศรษฐกิจ
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) อ.เมืองขอนแก่น นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประธานแถลงข่าวสรุปเศรษฐกิจอีสานไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2561 โดยมีนักธุรกิจ, ผู้บริหารสถาบันการเงิน รวมไปถึงองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจภาคอีสาน ไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2561 ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะในหมวดรายจ่ายประจำและรายจ่ายของการลงทุน ขณะที่ด้านการบริโภคภาคเอกชนนั้นขยายตัวเล็กน้อย จากการใช้จ่ายสินค้าคงทนหมวดยานยนต์ที่ยังขยายตัว
ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายกลุ่มสินค้าในชีวิตประจำวันปรับตัวดีขึ้นบ้างแต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เศรษฐกิจอีสานขยายตัวต่อเนื่องนั้นมาจากรายได้ครัวเรือนเกษตร และรายได้การจ้างงาน ซึ่งภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี
การลงทุนภาคเอกชนยังคงทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมชะลอตัวลง และเน้นไปที่กลุ่มการลงทุนที่ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา คือกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน และกลุ่มแปรรูสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะน้ำตาล อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรยังขยายตัวดี โดยไตรมาสที่ 2 นั้นสูงถึงร้อยละ 33.7 ตามปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่ออกสู่ตลาดมาก ส่วนอัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นตามราคาพลังงานอยู่ที่ร้อยละ 1.30 และอัตราการว่างงานนั้นลดลงจากไตรมาสก่อนมากคงเหลืออยู่ที่ร้อยละ 0.1
ส่วนการขยายตัวขึ้นของภาพรวมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องมาตรการภาครัฐช่วยสนับสนุนรายได้ของกลุ่มฐานรากที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน สินเชื่อเพื่อลดต้นทุนปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร, โครงการไทยนิยมยั่งยืน, โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรายย่อย และโครงการขยายเวลาชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และมาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวกับเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี
นายสมชายกล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไตรมาส 3 ปีนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตสินค้าเกษตรจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐจากส่วนกลางกระจายลงสู่ท้องถิ่นมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและคู่ค้ามีการขยายตัว โดยเฉพาะกับการที่รัฐบาลสนับสนุนในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตเพื่อส่งออก รวมไปถึงการจ้างงาน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา คือมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ และการตอบโต้ของประเทศคู่ค้า รวมถึงการหาตลาดใหม่ของประเทศที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ และหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอีกด้วย