xs
xsm
sm
md
lg

“พลังดูดมหาศาล” เกินต้านทานจากอีสานลามขึ้นเหนือ โฟกัสเชียงใหม่!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา




จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จะเห็นบรรดาอดีต ส.ส.อดีต ส.ว.ทั้งประเภทหมาดๆรวมทั้งพวกเก่าเก็บ รวมไปถึงพวกนักการเมืองท้องถิ่นจำนวนหลายสิบคนที่มาปรากฏตัวต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในช่วงที่เดินทางมาที่สวนสัตว์อุบลราชธานี

แม้ว่าตามรายงานข่าวดังกล่าวจะระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้พบหรือทักทายกับพวกนักการเมืองพวกนั้น มีเพียงแต่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่การกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปทักทายพูดคุยเท่านั้น แต่เพียงเท่านี้มันก็เหมือนกับการบรรยายด้วยภาพ มีความหมายด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว

เมื่อสำรวจรายชื่อบรรดานักการเมืองที่มาต้อนรับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ประกอบด้วยอดีตส.ส.จ.อุบลราชธานี อาทิ นายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ อดีต ส.ส.พลังประชาชน นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต อดีตผู้สมัคร ส.ส.ไทยรักไทย นายวุฒิพงษ์ นามบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายประจักษ์ แสงคำ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน จ.ศรีสะเกษ อาทิ นายอมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา

นายศิริพงษ์ อังสกุลเกียรติ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย จ.อำนาจเจริญ นายบวรศักดิ์ คณาเสน อดีต ส.ว. อำนาจเจริญ จ.ยโสธร นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยไทย โดยนักการเมืองที่มาให้การต้อนรับในวันนี้ส่วนใหญ่มีรายชื่อเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐทั้งสิ้น

พิจารณาจากรายชื่อเท่าที่เห็นก็ถือว่า “ระดับ” หรือ “เกรด” ก็นับว่าใช้ได้ เป็นพวก เอ บี ซี ปะปนกัน อีกทั้งในช่วงที่กำลังถูกจับตามองจากทุกทิศทางแบบนี้ การที่ยอมออกมาเปิดเผยตัวกลางแจ้งแบบนี้ถือว่าพวกเขา “ไหลเข้ามา” เต็มร้อยแล้ว ซึ่งก็รับรู้กันว่าเป็น “พรรคพลังประชารัฐ” นั่นแหละ และที่น่าจับตาก็คือเป็นนักการเมืองใน “กลุ่ม 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง 2” อุบลฯ ศรีษะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เมื่อวันที่ 23-24 กรกฎาคมที่ผ่านมานั่นเอง

หลังจากก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนไหวให้เห็นถึง “พลังดูด” ที่จังหวัดนครราชสีมา กันมาอย่างครึกโครม ที่ในวงการสรุปว่า “เรียบร้อย” ยกจังหวัด แม้ว่าจะไม่ใช่มาแบบย้ายพรรคทั้งหมดแต่จะเป็นผนึกกำลังเป็นพันธมิตรสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในกรณีของ พรรคชาติพัฒนา ที่นำทีมโดย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ชูยุทธศาสตร์ “ลูกย่าโม” นายกฯลูกอีสานในอนาคตข้างหน้า

หากให้สรุปภาพรวมในทางการเมืองก็ต้องบอกว่าการยกคณะมากลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่าง 2 เที่ยวนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในพื้นที่เป็นอย่างมาก อย่างน้อยในทาง “จิตวิทยา” ถือว่าได้สร้างความหายนะให้กับฝ่ายตรงข้ามในที่นี้ย่อมหมายถึงฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เอาเป็นว่าในอดีตแค่ดึงเอาอดีต ส.ส.และพวกแกนนำคนเสิ้อแดงให้ย้ายข้ามฟากมาได้สักคนหนึ่งก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่คราวนี้ได้มาแทบทุกจังหวัดขึ้นอยู่กับว่าจะจิ้มเอาใครเท่านั้น

อย่างไรก็ดี หากจะโฟกัสกันที่ฐานเสียงหลักทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยนอกเหนือจากที่ภาคอีสานแล้ว พื้นที่ถัดไปที่ต้องจับตามองก็คือภาคเหนือ ซึ่งก่อนหน้านี้ตามกำหนดการเดิมจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดเชียงรายและพะเยา แต่เมื่อเกิดเหตุวิกฤต “ทีมหมูป่า” ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และมีเสียงวิจารณ์กรณีโยกย้าย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไปพะเยาของกระทรวงมหาดไทย และยังมีหลายเรื่องที่ต้องสะสางจึงต้องย้ายมาที่อำนาจเจริญและอุบลราชธานีดังกล่าว

แต่สำหรับภาคเหนือนาทีนี้บรรยากาศก็มีเสียงกล่าวกันว่าไม่ได้ต่างจากภาคอีสานเท่าใดนัก พื้นที่หลักล้วนถูกดูดไปหมดแล้ว ที่น่าจับตาก็คือพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั่นแหละ ลองสังเกตดูหรือไม่ว่าพวกทีม “บูรณุปกรณ์” ดูเงียบเชียบผิดปกติ และจะเกี่ยวข้องกับการคืนเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ให้กับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 หรือไม่ น่าจับตามองนัก

ทุกอย่างน่าจะชัดเจนในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในภาคเหนืออีกรอบในเร็วๆ นี้ หลังจากเลื่อนมาแล้วด้วยปัญหาทางเทคนิก งานนี้จะได้รู้ว่าใครหมู่หรือจ่า ใครอยู่ใครไป !!


กำลังโหลดความคิดเห็น