เมืองไทย 360 องศา
ในที่สุดก็มีการแถลงออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ว่า มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การประชุมคณัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ “ครม.สัญจร” จากเดิมที่เคยกำหนดเอาไว้ว่าจะเป็นประชุมที่จังหวัดเชียงราย และดูงานที่จังหวัดพะเยา ล่าสุด จากการแถลงของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “มือทำงาน” คนหนึ่งระบุว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่มาเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดอุบลราชธานี และดูงานที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยกำหนดการจะเป็นวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้
หากพิจารณากำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรดังกล่าว ก่อนที่จะมาลงตัวที่จังหวัดอุบลฯและอำนาจเจริญ เคยถูกกำหนดและเปลี่ยนแปลงมาหลายรอบ จากเดิมที่กำหนดเอาไว้ที่เชียงราย แต่ในช่วงเวลานั้นได้เกิดเหตุการณ์ “ทีมหมูป่า” ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย และกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น จนตอนนั้นมีการจะย้ายสถานที่ประชุมเป็นจังหวัดน่านและพะเยาแทน
อย่างไรก็ดี มีการคาดเดากันว่า สาเหตุที่ย้ายสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรคราวที่แล้วน่าจะมาจากการเลี่ยงคำถาม เลี่ยงดรามาจากผู้ว่าเชียงรายในขณะนั้น คือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ที่ตอนนั้นถูกคำสั่งย้ายให้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา แต่ยังไม่มีผลอย่างเป็นทางการ
กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวหากพิจารณากันให้ดีก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เหมือนกับว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” เพราะหากไม่เกิดเหตุ “หมูป่าที่ถ้ำหลวง” เชื่อว่า เมื่อถึงเวลา นายณรงค์ศักดิ์ ก็คงต้องเก็บกระเป๋าย้ายไปพะเยาอย่างเงียบๆ
แต่พอเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา นายณรงค์ศักด์ ได้โชว์ศักยภาพภาวะผู้นำในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์กู้ภัยให้โลกได้เห็น จนเกิดเสียงชื่นชมไปทั่ว พร้อมกับเกิดคำถามตามมาว่า “ย้ายทำไม” หรือ “ทำไมต้องย้าย” เพราะถือว่าผิดปกติ เนื่องจากเป็นการย้ายจากจังหวัดใหญ่ไปจังหวัดเล็กกว่า จนมีการขุดคุ้ยตรวจสอบจนสงสัยกันว่าน่าจะมาจากสาเหตุไปขัดผลประโยชน์หลายอย่าง ทั้งกับพวกนักการเมืองเส้นใหญ่ในท้องถิ่น และกับ “บิ๊ก” ระดับชาติในโครงการก่อสร้างโรงงานขยะ
ในตอนแรกจะย้ายสถานที่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดน่านแทน แต่จะไปตรวจราชการที่จังหวัดพะเยา นั่นก็เท่ากับว่า ยังต้องเจอกับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผู้ว่าจังหวัดพะเยาคน ใหม่อยู่ดี อาจเกิดปัญหา มีดรามากับ “บิ๊กสิงห์ซุ่ม” คนนั้นก็ได้ และนั่นอาจเป็นการตัดสินใจย้ายสถานที่มาที่ จังหวัดอุบลราชธานี และ อำนาจเจริญ ในภาคอีสานหรือเปล่า
อีกทั้งหากพิจารณากันตาม “พิกัด” สองจังหวัดดังกล่าวในภาคอีสานหากย้อนกลับไปพิจารณาก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่ของ “พันธมิตรทางการเมือง” เพราะถ้าพิจารณาจากพื้นที่และตัวบุคคลจะพบว่า นักการเมืองที่มีอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่ ก็คือ “อิสสระ สมชัย” และพวก เป็นอดีตแกนนำ กปปส.ที่ยังรวมไปถึงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ และแม้ว่านาทีนี้พวกเขายังอยู่สังกัดพรรค แต่สำหรับแกนนำหลักอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กลายเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรค “รวมพลังประชาชาติไทย” ที่ยืนยันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเหนียวแน่น
หากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ดังกล่าวมันก็ทำให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ในพื้นที่ และที่สำคัญ ยังสบายใจได้ดี อย่างน้อยก็สามารถอธิบายในเรื่อง “พลังดูด” ที่ไม่ว่าจะไหลไปทาง “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” หรือว่าไปทาง “พรรคพลังประชารัฐ” ปลายทางก็สนับสนุน “บิ๊กตู่” อยู่ดี ลักษณะอาจจะถูกมองว่าเป็นการลงพื้นที่เพื่อสนับสนุน “คนกันเอง” ดีกว่า
ดังนั้น การย้ายสถานที่ประชุม ครม.สัญจรจากเชียงราย-พะเยา มาเป็น อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ ในทางการเมืองก็ถือว่าเป็นการสร้างยุทธศาสตร์สำคัญเป็นการเจาะออกไปจากฐานที่มั่นคงเข้าสู่พื้นที่โดยรอบ เพราะถึงอย่างไรภาคอีสานยังเป็นยุทธศาสตร์หลัก ที่สำคัญ ยังเป็นการเลี่ยงตอบคำถามกระอักกระอ่วนหากขึ้นเหนือไปเชียงรายและพะเยาในช่วงนี้!!
