รองนายกฯ แจงหากได้ กกต.ใหม่ไม่ครบ 7 คน ใช้วิธีสรรหาเพิ่มได้ แต่ไม่ควรใช้วิธีทาบทาม เหตุสังคมไม่ยอมรับ ยัน ครม.สัญจรอีสานภารกิจราชการ ไม่มีนัยดูดการเมือง
วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณารายชื่อว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งถูกจับตาว่าอาจได้ กกต.ไม่ครบ 7 คน เนื่องจากอาจมีบางคนคุณสมบัติไม่เหมาะสม และจะมีการเสนอให้ใช้วิธีการทาบทามตัวบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนว่า ในกฎหมายเปิดโอกาสไว้ แต่จะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่ ซึ่งสังคมอาจจะยังใหม่กับเรื่องนี้ และไม่ยอมรับวิธีนี้ ดังนั้นจึงไม่ควร เพราะดุลพินิจที่จะบอกว่าให้ใช้วิธีทาบทามตัวถือว่าล่อแหลมมาก แต่กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามอะไร
เมื่อถามว่าการพิจารณาของ สนช.ครั้งนี้ หากได้ กกต.ไม่ครบ 7 คนต้องทำอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ต้องทำการสรรหาใหม่ในจำนวนที่ขาดอยู่ หากการพิจารณาของ สนช.ครั้งนี้ได้ กกต.ใหม่ 5 คนก็สามารถทำงานได้ ส่วนการสรรหาให้ครบ 7 คนก็อาจจะทำได้เร็วขึ้น เมื่อถามอีกว่าหากมี กกต.5 คนจะสามารถเดินหน้าจัดการเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทำได้
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงการลงพื้นที่และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ที่อาจจะมีนัยทางการเมืองว่า ไม่มี ถ้าจะตั้งข้อสังเกตก็ทำได้ทุกครั้งที่เคยไปและในทุกรัฐบาล แต่รัฐบาลนี้ได้ประกาศล่วงหน้าว่าจะทำแบบนี้มาเกือบปีแล้ว และลงพื้นที่ไปหลายครั้งแล้ว เดิมทีการลงพื้นที่และไปประชุม ครม.สัญจรครั้งที่จะถึงนี้จะเป็นที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย แต่ว่าเกิดเหตุการณ์การช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่า อะคาเดมี ซึ่งคนในพื้นที่เขาก็ยุ่งกันอยู่ ถ้าหากไปประชุมก็คงจะไปรบกวน นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปประชุมที่ จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานีก่อน และครั้งหน้าก็อาจจะไปลงพื้นที่และประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย
เมื่อถามถึงกระแสการดูดอดีต ส.ส.ที่พุ่งเป้าไปที่ภาคอีสาน นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในสายตาคนทั้งประเทศอยู่แล้วว่าดูดหรือไม่ดูด ทำไมจะต้องไปดูดกันถึงที่เกิดเหตุ จะไปดูดก็ไปดูดกันที่อื่น เขาไปทำภารกิจทางราชการซึ่งมีหัวข้อชัดเจน ไม่ได้ดูดอะไรทั้งนั้น แต่อาจจะไปคลายก็ได้