“นิพิฏฐ์” จับตาเลือก กกต.ใช้ “ทาบทาม” ส่อกระทบเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม เตือนอาจสร้างปมความข้ดแย้งในสังคมขึ้นมาใหม่ เปิดข้อกฎหมายยันต้อง “สรรหา” เท่านั้น
วันนี้ (11 ก.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณารายชื่อว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของที่ประชุม สนช.ในวันที่ 12 ก.ค.ว่าอาจจะได้ กกต.ไม่ครบจำนวน 7 คนตามที่กฎหมายกำหนด และอาจนำไปสู่การใช้วิธีการทาบทามแทนว่า ต้องรอดูการพิจารณาและผลการลงคะแนนของที่ประชุมใหญ่ สนช.ก่อนว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าเลือกบุคคลได้ไม่ครบแล้วใช้วิธีการทาบทามก็จะมีข้อครหา หรือสังคมสามารถมองได้ว่าผู้มีอำนาจต้องการส่ง หรือมีคนของตัวเองที่ต้องการให้ไปเป็น กกต.อยู่แล้วซึ่งจะทำให้ กกต.ที่ได้มาจากการทาบทามอาจไม่ได้รับความเชื่อถือในความเป็นกลาง ที่สุดกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของ กกต. ส่งผลให้การจัดการเลือกตั้งในอนาคตไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและสังคมว่าจะทำให้เกิดความสุจริต เที่ยงธรรม ได้จริงหรือไม่ ถ้าผู้มีอำนาจใช้วิธีการทาบทามจริงก็ทำให้มองได้ว่าผู้เล่นข้างหนึ่งเป็นคนเลือกกรรมการเข้ามาคุมเกมการแข่งขัน ถ้ากรรมการไม่เป็นกลางคนดูและผู้ร่วมเกมแข่งขันอื่นก็ไม่ยอมรับผลการแข่งขัน เกรงว่าที่สุดจะกลายเป็นการสร้างปมความขัดแย้งรอบใหม่ในสังคมขึ้นมาอีก
“หากเราดูตามกฎหมาย กกต. ระบุชัดในมาตรา 222 ว่าใช้การสรรหาบุคคลมาเป็น กกต. คือ 5 คนมาจากการสรรหา และอีก 2 คนมาจากการคัดเลือกมาจากที่ประชุมใหญ่ของผู้พิพากษาศาลฎีกา รวมเป็น 7 คน โดยกฎหมายไม่ได้ระบุหรือใช้คำว่า ให้มีการใช้การทาบทาม ที่เขาพูดเปิดช่องไว้ซึ่งเขาอาจจะระบุหรือเชื้อเชิญคนที่เขาถูกใจให้มาลงสมัครเป็น กกต.ก็ได้ แต่ที่ผ่านมาในการสรรหาบุคคลที่เป็นกลางเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมไม่เคยมีการใช้ระบบเช่นนี้ จึงอยาก สนช.พิจารณาให้รอบคอบถี่ถ้วน เป็นไปตามปกติตามขั้นตอนการสรรหา กกต.เพื่อมาทำหน้าที่นี้โดยสุจริตและเที่ยงธรรม แต่ก็อย่าแปลกใจ หากผลไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ในยุคนี้ ขอให้สังคมจับตามอง ตามให้ทัน” นายนิพิฏฐ์กล่าว