รองหัวหน้าพรรค ปชป. มองคำพูด ปธ.กรธ. ไพรมารีช้าทำเลือกตั้งช้า ตีความได้บวกลบ ทั้งตามกรอบและนอกกรอบเวลา จับสังเกตหลังๆ พูดไม่ตรง “ประยุทธ์”
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ระบุถึงการทำไพรมารีโหวต ว่า ถ้าทำไพรมารีโหวตล่าช้า การเลือกตั้งก็ช้าไปด้วย ว่า คำพูดนี้มีความหมายให้ต้องตีความได้สองทาง ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่าที่นายมีชัยระบุคำว่า การเลือกตั้งต้องช้าออกไปอีก อาจจะไม่ใช่เป็นวันที่ 24 ก.พ. 62 แต่อาจหมายถึงเป็นช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ก็ได้ เพราะเงื่อนไขเวลาถูกล็อกไว้ด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมดแล้ว คือ 90 วันแรก 90 วันหลังและอีก 150 วัน ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้มากกว่านั้น นี่คือ ความตีความหมายที่นายมีชัยพูดในแง่บวก ส่วนการตีความในแง่ลบก็สามารถบอกได้ว่าถ้าหลุดไปจากกรอบระยะเวลาที่อยู่รัฐธรรมนูญกำหนดก็สามารถทำได้เช่นกันโดยการใช้มาตรา 44 ไปแก้ไขระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งส.ส. จากเดิมที่ได้เขียนหน่วงยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายนี้ไปแล้ว 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้มีอำนาจก็สามารถใช้มาตรา 44 โดยสามารถให้รู้เรื่องเวลาจัดการต่างออกไปอีก ไม่ว่าจะเป็น 100 วัน 150 วัน เพราะฉะนั้นจึงต้องดูว่าจะช้าตามกรอบของรัฐธรรมนูญ หรือจะช้าตามกรอบบอกรัฐมนตรีโดยใช้มาตรา 44 มาแก้ไขเลื่อนเวลา การบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ออกไปอีก
“ต้องไปถามความชัดเจนจากนายมีชัยเองว่า ที่ระบุว่า ถ้าทำไพรมารีโหวตช้า การเลือกตั้งก็ช้าออกไปอีกนั้น ในความหมายของท่านหมายความว่าอย่างไร จะเป็นไปในแง่บวกตามกรอบเวลา หรือ แง่ลบนอกกรอบเวลา”
นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า ระยะหลังตนสังเกตเห็นว่านายมีชัยให้สัมภาษณ์ไม่ค่อยตรงกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.พูด กล่าวคือ ไม่ค่อยสนับสนุนความคิดของนายกฯสักเท่าไหร่ เพราะนายกฯยังยืนยันทั้งในเวทีไทยและเวทีโลกว่าการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ. 62 แต่นายมีชัยกลับพูดอีกอย่าง เพราะถ้าพูดไปแนวเดียวกับนายกฯก็ต้องระบุว่า การเลือกตั้งจะเกิดภายในเดือน ก.พ.62 ให้ได้