เมืองไทย 360 องศา
มีเรื่องให้บีบคั้นหัวใจพอสมควรกับสองสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดๆ กันในช่วงเวลานี้ นับตั้งแต่กรณี “ทีมหมูป่า” อะคาเดมี่ จำนวน 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์เครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพบก ตกที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้มีนายทหารเสียชีวิตพร้อมกันทีเดียว 3 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย (อาการปลอดภัยแล้ว) พร้อมๆ กับเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ต ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียชีวิตกว่า 30 ราย สูญหายอีก 15 ราย ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตยังมีแนวโน้มขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวนผู้ที่ยังสูญหายดังกล่าว
นั่นเป็นเหตุการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้นแบบประดังเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะขณะเดียวกัน กรณีของ “ทีมหมูป่า” ในถ้าหลวงนั้น แม้ว่าจะมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถพบตัวแล้วแต่ก็ยังต้องเจอกับข่าวน่าเศร้าสลดตามมาอีกเมื่ออดีตหน่วยซีลนอกราชการ จ.อ.สมาน กุนัน เสียชีวิตภายในถ้ำหลวงขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า
นั่นเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเวลานี้ และการกู้ภัย การช่วยเหลือก็กำลังดำเนินไปแบบแข่งกับเวลา และบางเหตุการณ์ก็เริ่มคลี่คลาย บางเหตุการณ์ก็ยังต้องลุ้นด้วยใจระทึกต่อไป
อย่างไรก็ดี ในทุกเหตุการณ์ย่อมต้องการเป็นเอกภาพ ความรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ รวมไปถึงได้เห็นภาวะผู้นำในแต่ละเหตุการณ์ได้ในคราวเดียวกันด้วยอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่กำลังจะย้ายไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ว่าราขการจังหวัดพะเยาคนใหม่ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงได้อย่างโดดเด่น
อย่างไรก็ดี นั่นเป็นภาพในเฉพาะพื้นที่ เป็นบางจุด แต่สำหรับภาพใหญ่ในระดับผู้นำรัฐบาลสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นาทีนี้หากกล่าวกันแบบตรงไปตรงมาจะยัง “ไม่ถึงขั้นพีคสุด” แต่ก็ถือว่า “นิ่ง” แต่มีการบริหารจัดการ การสั่งการที่เป็นระบบได้ดีไม่น้อย อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ความโกลาหล มีการให้อำนาจสั่งการ บัญชาการในระบบที่เป็นอยู่ให้บริหารจัดการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นการเปิดทางให้มีการ “รวมศูนย์” การทำงานในพื้นที่ทั้งที่ เชียงราย และที่จังหวัดภูเก็ต ที่ให้ผู้ราชการจังหวัดเป็น “ผู้บัญชาการเหตุการณ์” ได้อย่างเต็มที่ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่างเข้าทำหน้าที่สนับสนุนเท่านั้น
จากเหตุการณ์ประสบภัยดังกล่าวอีกด้านหนึ่ง ก็ถือว่าทำให้เกิดบทเรียนนำมาปรับใช้สำหรับ “องค์กรกู้ภัย” ระดับชาติในวันหน้า ว่า ต้องมีการแก้ไขปรับปรุงอย่างไรบ้าง เพื่อเตรียมรับมือกับภัยพิบัติที่หลากหลายและรุนแรงในอนาคตข้างหน้า
แต่หากให้โฟกัสเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับการบัญชาการเหตุการณ์ในภาพใหญ่ ก็ต้องบอกว่า “คุมสภาพ” ได้ในระดับดี มีการกระจายอำนาจมอบหมายตามภารกิจ ทำได้ในระดับดี มีความไวต่อสถานการณ์ และที่สำคัญ ที่ผ่านมา “ไม่ได้แย่งซีน” เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
สังเกตจากการลงพื้นที่ที่ถ้ำหลวงเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมไปถึงครอบครัวและบรรดาญาติๆ ของเด็กๆ ทีมหมูป่า ก็เป็นไปอย่างรัดกุม “ไม่ได้เน้นโชว์ออฟ” สร้างภาพทางการเมืองแบบโจ่งแจ้งน่าเกลียด เอาเป็นว่าที่ผ่านมาการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมเหตุการณ์ที่มีผู้ประสบภัยดังกล่าว ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางบทบาทได้ดีทีเดียว ขณะเดียวกัน ในภาพรวมยังถือว่าเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านทั้งประเทศ ได้ว่าหากเกิดเหตุการณ์หรือเภทภัยในอนาคตก็จะสามารถสร้างหลักประกันความมั่นคงได้ในระดับหนึ่ง
ดังนั้น นาทีนี้ หากพิจารณาเปรียบเทียบกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับอีกด้านหนึ่งทั้งในฝั่งพรรคการเมืองที่มีอยู่ในเวลานี้ ถือว่ายังทิ้งขาด ยังมองไม่เห็นแม้แต่เค้าหน้าของอีกฝ่าย แม้ว่าในบางมุมการเปรียบเทียบแบบนี้อาจไม่เป็นธรรมนัก เพราะอีกฝ่ายถูกกดเอาไว้จนไม่อาจเคลื่อนไหวอะไรได้ แต่ถึงอย่างไรถ้า “มีแวว” จริงมันก็คงแสดงออกมาให้เห็นบ้าง แต่ไม่ว่าเพ่งมองอย่างไรก็มองไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย
เอาเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันนี้!!