เมืองไทย 360 องศา
เสร็จภารกิจไปแล้วอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการกู้ภัยช่วยชีวิต “ทีมหมูป่า” ทั้ง 13 ชีวิตออกมาจาก “ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายได้สำเร็จรวมระยะเวลาในการช่วยเหลือถึง 18 วัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าได้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์มากมาย แบบที่นั่งเล่า นั่งฟังกันได้แบบประทับใจไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว เพราะสามารถสร้างภารกิจที่หลายคนคิดว่า “เป็นไปไม่ได้” ให้ “เป็นไปได้” ซึ่งก็มาจากความร่วมแรงร่วมใจ หลอมรวมความคิดจนประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น
สำหรับรายละเอียดของปรากฏการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าทุกคนคงได้เห็นประจักษ์ตากันไปแล้ว ทั้ง
การร่วมแรงร่วมใจของเหล่าจิตอาสาหากโฟกัสเอาเฉพาะคนไทยอย่างเดียว ถือว่าสุดยอด เป็นการแสดงให้เห็นว่า “พลังของคนไทย” ถือว่าสุดยอดเหนือคำบรรยายจริงๆ และที่สำคัญ ยังสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ในแบบประทับใจให้กับ “คนต่างชาติ” ได้ตะลึงกันไปเลย เพราะมีครบหมดทั้งอาหารการกินแบบไม่อั้นตลอด 24 ชั่วโมง มีจิตอาสามาตัดผมให้ฟรี อาสานวดให้อาสาสมัครได้คลายปวดเมื่อย เสื้อผ้าสกปรกเปื้อนโคลนมาอย่างไร ก็มีบริการซักรีดให้แบบไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องกังวล หรือหน่วยกู้ภัยอยากได้อุปกรณ์อะไรขอเพียงให้เอ่ยปากให้ได้ยินเท่านั้น ทุกอย่างจะมากองอยู่ตรงหน้า
ส่วนคนที่มีแรง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องการกู้ภัย ปีนป่าย ก็อุตส่่าห์อาสามาช่วยด้วยใจเกินร้อย มาจากทุกภูมิภาค ใต้ขึ้นเหนือ กลางมาเหนือ หรืออีสานมาเหนือ เรียกว่ามาช่วยกันทุกจังหวัด มากันด้วยใจแม้จะต้องเสียรายได้ เสียเงินเสียทองเท่าไหร่ก็ยอม แบบนี้ไม่เรียกว่ามหัศจรรย์แล้วจะเรียกว่าอะไร และอย่าได้แปลกใจที่พวกอาสาสมัครชาวต่างชาติ นักข่าวฝรั่งยังอึ้ง สุดประทับใจกับ “ประเทศไทย” ที่มีแบบนี้ที่เดียวในโลก
นี่ยังไม่นับในมุมที่เป็น “กระแส” จากทั่วโลก บรรดาคนดังทุกวงการ ผู้นำ นักกีฬาต่างติดตามข่าวการช่วยเหลือ และเอาใจช่วย
เอาเป็นว่ามองในมุมหนึ่งจะเห็นว่าจากเหตุการณ์คราวนี้ ทำให้ทั่วโลกรู้จักประเทศไทย ได้รู้จักคนไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แบบที่ว่าแม้จะทุ่มงบประมาณประชาสัมพันธ์สักอีกกี่หมื่นล้านก็คงไม่ได้ผลเท่านี้แน่นอน
ดังนั้น หากมองไปในด้านอื่นๆ ที่ได้มาแบบที่ไม่คาดหมาย ก็คือ ชื่อเสียง น้ำใจคนไทยที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลก ขณะเดียวกัน ภายในประเทศก็จะเป็นการสร้าง “ความสามัคคี” ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก
ขณะเดียวกัน ในมุมของฝ่ายรัฐบาลบ้าง ในมุมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องบอกว่า “คาดไม่ถึง” เหมือนกัน เพราะจากวิกฤตในถ้ำหลวงดังกล่าว ทำให้สายตาคนไทยลืมเรื่องการเมืองไปชั่วคราว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นผลดีกับฝ่ายรัฐบาล เพราะก่อนหน้านั้น เริ่มโดนถล่มจากฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จากเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงในช่วงที่ผ่านมา บทบาทของผู้นำรัฐบาล คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สร้างภาวะผู้นำในทางบวกได้ค่อนข้างดี การเดินทางไปพื้นที่ก็วางตัวได้อย่างระมัดระวัง เป็นภาพที่ต้องการไป “ให้กำลังใจ” เจ้าหน้าที่หรือให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกทั้งในด้านอุปกรณ์ กำลังพลอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ ไม่ได้ไป “แย่งซีน” ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกับผู้บัญชาการเหตุการณ์ คือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้น
ต้องยอมรับว่า ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าออกมาเป็นบวก ถือว่าสร้างความโดดเด่น มีภาวะผู้นำสูง ในลักษณะที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่ออกมาในลักษณะของการหาเสียงแบบ “หาเศษหาเลย” แบบพวกนักการเมืองที่เคยเห็นจนคุ้นตา
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ภาพดังกล่าวนั่นแหละกลับทำให้เป็นการเพิ่มภาพลักษณ์ให้โดดเด่นขึ้นมาอีกในแบบที่คาดไม่ถึง เพราะหากบอกว่าจากวิกฤตถ้ำหลวงอีกด้านหนึ่งก็กลายเป็นการ “สร้างโอกาสทอง” ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ และมาแบบไม่คาดคิดมาก่อน!!