ข่าวปนคน คนปนข่าว
**สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ!! ผลงาน “ณรงค์ศักดิ์ “ผบ.เหตุการณ์ “ถ้ำหลวง” ทำ “บิ๊กป๊อก”มท.1 ไมเกรนรับประทาน เหตุโดนขุดย้าย “คนคุณภาพ” พ้นทาง หลังขวางลำงบฯท้องถิ่น แถมได้ไปอยู่จังหวัดเล็ก เหมือนบทลงโทษอีกต่างหาก
แซ่ซ้องสรรเสริญ .. ผลงาน ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะ “ผู้บัญชาเหตุการณ์”ภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ที่ติดถ้ำหลวง อ.แม่สาย เชียงราย .. หนึ่งสัปดาห์เต็ม ที่ทุกคนคุ้นชินภาพความทุ่มเท-เอาจริงเอาจัง-การแสดงภาวะผู้นำของ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” จนยกให้เป็น “ขวัญใจมหาชน”ตั้งแต่ยังไม่จบภารกิจ .. โดยเฉพาะความประทับใจในข้อเตือนใจที่ให้ทุกคนเห็น 13 ชีวิตเป็นเหมือนลูกหลาน .. เสียงชื่นชมที่ทุกฝ่ายพร้อมใจกันมอบให้ “ผู้ว่าฯเชียงราย”กลับทำให้ “ผู้เป็นนาย” อย่าง “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย ไมเกรนรับประทานขึ้นมากระทันหัน .. ก็ด้วยโดนขุดคุ้ยว่า แท้จริง “พ่อเมืองเจียงฮาย” ถูก “เด้ง” ไปเป็นผู้ว่าฯพะเยา ตั้งแต่ 2 เดือนก่อน แต่ด้วยกระบวนการแต่งตั้งยังไม่เรียบร้อยดี ก็เลยได้มาเป็นผู้นำทัพรับศึกถ้ำหลวงหนนี้ .. ซึ่งเหตุที่ “ณรงค์ศักดิ์”ถูกลดชั้นจาก “เชียงราย”ไปจังหวัดที่เล็กกว่าอย่าง “พะเยา” ก็ด้วย ทำงานไม่เข้าขากับท้องถิ่น .. ด้วยความเป็น “ผู้ว่าฯตงฉิน”ยอมหักไม่ยอมงอ ไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการของท้องถิ่น หลายสิบโปรเจกต์ เพราะ “กิน” กันมโหฬารบานตะไท ..
แล้วผู้ที่เสนอย้าย ก็ไม่ใช่ใครอื่น หนีไม่พ้น “บิ๊กป๊อก”ท่าน มท.1 ที่ระบุในเอกสารเสนอ ครม. แค่ว่า “เพื่อความเหมาะสม” .. โดยเป็นที่รู้กันว่า นอกจากจะดีด “ก้างขวางคอ”ให้พ้นทางแล้ว ยังได้อีกเด้ง ในการโยกเด็กในคอนโทรลสาย “บิ๊ก ปภ.”ให้มากินตำแหน่งในจังหวัดใหญ่แทน .. ตอนนี้เริ่มมีกระแสลุกลามในโลกโซเชียล ถึงความไม่ชอบมาพากลของ “คำสั่ง มท.1”ที่ชงให้ “ลดชั้น”ย้ายไปจังหวัดเล็ก ที่เหมือนเป็นการลงโทษ ที่ “คนมีคุณภาพ”เช่นนี้ ไม่สมควรได้รับ .. แล้วคิดว่ากระแสคงซาลง หลังจบภารกิจ ปิดจ๊อบกันเมื่อใด คำถามถึงอนาคตของ “ผู้ว่าฯณรงศักดิ์”คงจะกระหึ่มมากกว่านี้ และเชื่อว่าอานิสงส์ จาก “ถ้ำหลวง”จะทำให้อะไรๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
**คนรักเป็นร้อย คนชังเป็นล้าน!! “ศรีวราห์”โชว์เป๊ะผิดที่ เจอกระแสยี้ คนโหวตครึ่งล้านปลดพ้นตำแหน่ง แถมเสียรูปมวย เจอตอกหงาย“ชีวิตสำคัญกว่ากฎหมาย”พร้อมคำถาม “คนทำงาน - คนมาทำไม”ปิดตายประตูขึ้นเบอร์ 1 กรมปทุมวัน แต่กำลังจะได้ข้ามห้วยไปใหญ่เบิ้มที่ “กรมดีๆ”แถวแจ้งวัฒนะ นู่น
โห่กันทั้งเมือง .. กับวีรกรรม “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่โผล่ไปร่วมภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำ ในวนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ..ทั้งการไปตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อกฎหมาย กับ“ทีมเจาะถ้ำ”หรือที่ไปทำทีขึงขังขึ้น “มึง-กู” ถามหาใบอนุญาตกับ “ไอ้โจ”ลูกน้องตำรวจ ที่เป็น “ทีมบินโดรน” ..จากที่ว่าจะไปสนับสนุน ไปให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน กลายเป็นบั่นทอนการทำงานไปซะนี่ .. แล้วยังเจอตอกหน้าหงายจาก ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ดีกรี รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ที่สวนมวยประมาณว่า ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ถ้าจำเป็นต้องทำผิดกฎหมาย ก็อนุโลมกันได้ พูดง่ายๆ “ชีวิตสำคัญกว่ากฎหมาย”นั่นเอง .. แล้วยังมาเจอเปรียบภาพ “คนทำงาน”ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยซีล นักดำน้ำ อาสาสมัครต่างชาติ จิตอาสา หรือเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้า และปิดทองอยู่หลังพระ .. รวมไปกับผู้บังคับบัญชาอย่าง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่สวมชุดสนาม เดินลุยป่า สำรวจทุกโพรง ไปกับลูกน้องตำรวจพลร่ม ในขณะที่ “บิ๊กปู”เลือกที่จะไปป้วนเปี้ยน “โชว์พาว”จนป่วนกันไปหมด .. และเกิดคำถามอื้ออึงเรื่อง “คนมาทำงาน” กับ “คนมาทำไม” กระทั่ง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เชื่อว่ามอนิเตอร์กระแสโซเชี่ยลฯอยู่ พอปะหน้า “รองฯปู” ปั๊บ ก็ถามลั่น “มาทำไม มาจับใคร” ทำเอาเฮกันลั่น ..
ไม่เท่านั้น “พี่ศรี” ยังถูกขุดวีรกรรมเก่าๆ มาเปรียบ ทั้งเมื่อครั้งรับไหว้นอบน้อมกับ เสี่ยเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาฆ่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า .. หรือเมื่อครั้งใช้คำพูดรุนแรงและยึดโทรศัพท์จากประชาชน เมื่อครั้งลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน เครือข่ายวัดพระธรรมกาย ที่ จ.บุรีรัมย์ .. ขย้ำขยี้ปมที่ “บิ๊กปู” นอกจากไม่ได้เป็น “ที่รัก” และยังหนักไปทาง “คนชัง”มากกว่า .. แม้เจ้าตัวจะออกมา “ขอโทษ”พลางแก้ต่างถึง “ความปรารถนาดี”ของตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว กับ “กระแสยี้” ที่ไปไกลเหลือเกิน มีคนโหวตในโซเชี่ยลหลักครึ่งล้าน ชงให้ “ลุงตู่”ปลดออกจากตำแหน่ง .. ไม่ผิดหรอกที่ “รองฯปู”จะพยายามแสดงบทบาทตามความถนัด ในเรื่องความเป๊ะของกฎบัตร กฎหมาย แต่มันไม่ใช่ ผิดที่ผิดทาง ผิดกาลเทศะนั่นเอง .. กลายเป็นว่ายังไม่จบภารกิจสำคัญดี แต่ “บิ๊กปู”ก็จำต้องล้มละลายในสายตาประชาชน ล้มละลายในสายตาผู้ใต้บังคับบัญชาไปแล้ว .. ปฏิเสธอีกไม่ได้ว่า การเสียแต้มหนนี้ น่าจะปิดเส้นทางขึ้น “เบอร์ 1 กรมปทุมวัน”ในขวบปีสุดท้ายก่อนเกษียณ ที่ “รองฯปู” ยังหวังอยู่ลึกๆ ไปโดยปริยาย .. แต่เส้นทางการขึ้นเป็น “เบอร์ 1” ของ “ศรีวราห์” ก็ยังไม่ปิดตายซะทีเดียว ตอบแทนการสนองงาน “ผู้ใหญ่” ที่ผ่านๆ มา กับข้อเสนอข้ามห้วยไปเป็นใหญ่ที่อื่น ที่ไม่ใช่ “กรมปทุมวัน” หากแต่เป็น “กรมดีๆ” ที่มักเป็นที่พักใจของ “คนอกหัก”แถวๆ แจ้งวัฒนะนู่น
**ผิดที่ไว้ใจ(ใคร)!! “พุฒิพัฒน์”อดีตปลัด พม. ตายผิดธรรมชาติ ทิ้งปริศนาโกงเงินคนยากไร้ “กูรูอาชญาจิตวิทยา”มองเรื่องนี้มีเงื่อนงำ แนะสอบให้กระจ่างก่อนเผาศพ อดีตลูกน้องเผยปริศนา “ผมสั่งให้หยุด แต่เขาไม่ฟังผม”ที่ไม่รู้ว่าระดับ “ลูกน้อง” หรือ “ใครกันแน่” แล้วยังพบพัวพัน “ทุจริตจัดซื้อผ้าห่ม”ที่พาดพิงไปถึง “กระทรวงคลองหลอด” อีกด้วย
ช็อกไปตามๆกัน .. กับการเสียชีวิตของ พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เป็นการเสียชีวิต “ผิดธรรมชาติ” จากการ “ดื่มไวน์ผสมยาพิษ” ภายในห้องนอนหมู่บ้านย่านปทุมธานี .. ขณะที่ วาสนา ตะเภาพงษ์ ผู้ที่ระบุว่าเป็นภรรยา ถูกนำส่งรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ทัน รอดจากการเสียชีวิตอย่างหวุดหวิด .. เป็น “พุฒิพัฒน์”อดีตปลัดกระทรวง พม. ที่เพิ่งถูกให้ออกจากราชการ จากกรณีมีชื่อพัวพันการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ ร่วมกับอดีตข้าราชการระดับสูงอีกนับสิบราย .. ไม่เท่านั้น ยังถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดยึดทรัพย์สินไว้กว่า 88 ล้านบาท พร้อมด้วยคดีอาญา-คดีแพ่งอีกเพียบ .. เมื่อชั่งน้ำหนักมรสุมที่ “พุฒิพัฒน์”เผชิญ ในช่วงสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ในเดือน ก.ย.61 ที่จะถึงนี้อยู่รอมร่อ แต่ต้องมา “จบไม่สวย”ปิดฉากชีวิตราชการแบบนี้ ก็อาจจะเป็นเหตุที่เครียดจนเลือกวาระสุดท้ายเช่นนนี้ .. ทาง "บิ๊กโย่ง" พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี พม. คนปัจจุบัน ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้บีบคั้นอะไรมากมาย .. และระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กำลังจะส่งผลสอบสวนฯ ให้อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ก.ค.นี้ .. เรียกว่าห้วงเวลาสอดคล้องต้องกัน และทำให้ “พุฒิพัฒน์”เลือกจบชีวิตก่อนผลสอบสวนฯจะคลอดออกมา ทั้งที่แทบไม่มีผลใดๆ ก็ในเมื่อถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว ..
หากแต่ก็ยังมี “ข้อสังเกต” ที่น่ารับฟังบางประการ ทั้งจาก วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองประธานอนุกรรมการปราบปรามคอร์รัปชัน ของ สปช. และผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาจิตวิทยา ม.รามคำแหง ที่ระบุว่า “เรื่องนี้มีเงื่อนงำ”.. พร้อมแนะนำให้ตำรวจพิสูจน์คดีให้เป็นที่กระจ่างก่อน ที่จะเผาศพ “พุฒิพัฒน์”ซึ่งเร่งรีบดำเนินการผิดสังเกต .. หลังมีการสวดพระอภิธรรม เพียงแค่ 2 วัน และกำหนดฌาปณกิจศพในช่วงเย็นวันนี้ (2 ก.ค.) ทั้งที่ผู้เป็นภรรยายังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และยังไม่ได้มีการสอบปากคำใดๆ .. แง่หนึ่งอาจเป็นเจตนารมณ์ “ผู้ตาย” ที่ให้ตั้งสวดเพียง 2 วันตามที่ “จดหมายสั่งเสีย” ที่ทิ้งไว้.. แต่ก็ยังมีความเห็นจาก ฐณิฎฐา จันทนฤกษ์ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรปราการ ที่บอกว่า อดีตเจ้านายไม่ได้หนีคดี แต่น้อยใจบุคคลบางคน ที่ขอปรึกษาแต่เงียบหาย .. พร้อมทั้งเคยทิ้งปริศนาไว้ว่า “ผมไม่ได้ร่วมมือ ผมสั่งให้หยุด แต่เขาไม่ฟังผม ผมพลาดที่ไว้ใจคนผิด” .. กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในกระทรวง พม. ว่า ที่สั่งให้หยุดแล้วไม่หยุด คือระดับ “ลูกน้อง” หรือ “ใครกันแน่” ..หากใครติดตามกรณี “โกงเงินคนไร้ที่พึ่ง”ก็ต้องไม่ลืมว่า เรื่องนี้มีการทำเป็น “ขบวนการ”ใช้โมเดลการทุจริตเหมือนกันแทบทั้งประเทศ .. ซึ่ง “พุฒิพัฒน์”ปฏิเสธไม่ออก ด้วยเพราะมีตำแหน่งเกี่ยวข้องโดยตรง ตั้งแต่สมัยเป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) โน่น แต่ก็มีความเชื่อกันลึกๆ ว่า “พุฒิพัฒน์”ไม่ใช่ “ตัวการใหญ่” ที่แท้จริง .. ไม่เพียงแต่ประเด็นโกงเงินผู้ยากไร้เท่านั้น ยังมีกรณีทุจริตจัดซื้อ “ผ้าห่มกันหนาว” ของของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม.อีกด้วย .. ซึ่งเรื่องนี้ในชั้นสอบสวนมีการพาดพิงในเรื่องการเทียบ “ราคากลาง” ไปถึงกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นู่นเลย .. กลายเป็นว่ามีผลกระทบในวงกว้างไปถึง “กระทรวงคลองหลอด”ต่างจากกรณี “โกงเงินคนไร้ที่พึ่ง”ที่ผู้ร่วมขบวนการเป็น “แนวดิ่ง”ภายในกระทรวง พม.เท่านั้น.
ช.ชฎา