ข่าวปนคน คนปนข่าว
**หมดข้ออ้างเสียที!! 18 มิ.ย. เดดไลน์ส่งมอบ “หมู่บ้านป่าแหว่ง”เช็กสภาพล่าสุดไม่เกิน 85% ต่อเวลาอีก 3 เดือน ก็ไม่เสร็จ ด้วยมีอุปสรรค“พื้นที่ไม่เหมาะ”ต่อการทำ “หมู่บ้านจัดสรรสุดหรู”ด้วยประการทั้งปวง ถึงเวลาเดินหน้า “รื้อถอน-ฟื้นป่าสมบูรณ์”กันซักที
ยังไม่มีคนเข้าไปอยู่ .. คำยืนยันที่ไร้ที่มาที่ไป แต่เชื่อว่าออกมาจาก “ฝ่ายตุลาการ”ของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่ต้องการแก้ “ความเข้าใจผิด” กรณีมีประเด็นเรื่อง “ไฟสว่าง” ตอนกลางคืน บริเวณ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” บ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตีนดอยสุเทพ .. ชี้แจงตรงกันกับข้อมูลที่ “ภาคประชาชน” ได้รับมาว่า เป็นเพียงการตรวจสอบระบบไฟของ “ผู้รับเหมา”เท่านั้น ไม่ได้มีใครเข้าไปอยู่ใน “พื้นที่ต้องห้าม”อย่างที่คิด .. ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า ปล่อยให้ “ผู้รับเหมา”ก่อสร้างต่อไปเพื่ออะไร เพราะ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดไว้ชัดแล้วว่า ไม่ให้เข้าพักอาศัย .. ก็ชี้แจงออกมาว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และมอบหมายให้ “เดอะโก้”สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบพูดคุยหาทางออก จนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีหนังสือออกเป็นทางการจาก “ฝ่ายบริหาร” ซึ่งก็หมายถึง “รัฐบาลลุงตู่”ให้ “ศาลยุติธรรม” ที่เป็นคู่สัญญาก่อสร้างกับเอกชนยุติการก่อสร้าง หรือให้รื้อถอนในส่วนใดทั้งสิ้น .. ดังนั้นการก่อสร้างก็ต้องดำเนินการตามสัญญาจนกว่าจะแล้วเสร็จ และส่งมอบงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฟ้องร้องค่าเสียหายกันภายหลัง ..
ตรงนี้เป็นอันว่า เคลียร์คัต เข้าใจได้ทั้ง 2 ประเด็น ที่เข้าใจง่าย ไม่อยากต่อความยาว ก็ด้วยอีกไม่กี่วันน่าจะเป็น“จุดเปลี่ยนสำคัญ” และเป็น “จุดวัดใจ”ของ “ฝ่ายศาล” ต่อเรื่องนี้ .. ด้วย “วันที่ 18 มิ.ย.”เป็น “เดดไลน์”งานก่อสร้างเสร็จตามสัญญาส่งมอบ .. และตามข้อมูล “เครือข่ายขอพื้นที่ป่าดอยสุเทพ”ที่ได้รับจาก “คณะกรรมการร่วมฯ”ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปดู “หน้างาน” .. พบว่า การก่อสร้างยังไม่เรียบร้อย “สภาพการก่อสร้างโดยรวมก็ยังไม่เกิน 85%” ด้วยมีอุปสรรค “พื้นที่ไม่เหมาะสม” ต่อการทำ “หมู่บ้านจัดสรรสุดหรู” ด้วยประการทั้งปวง .. เมื่อผ่านพ้นวันที่ 18 มิ.ย. คงไม่มีใคร “บ้าจี้”ไปขยายเวลาให้กับ “ผู้รับเหมา”แล้ว “ข้ออ้าง” เรื่องสัญญากับเอกชนก็คงหมดไป จะได้มาตั้งลำเรื่องการ “รื้อถอน-ฟื้นฟูป่า”ให้สมบูรณ์เสียที .. ไม่เท่านั้น “ฝ่ายศาล”เองก็จะ “ถือไพ่เหนือกว่า” ทาง “ผู้รับเหมา”อาจจะเรียกร้อง “ค่าปรับ-ค่าเสียหาย” โทษฐานงานไม่เสร็จตามกำหนด เพื่อมาเยียวยา “ค่าโง่”งบประมาณกว่าพันล้านบาท ที่สูญเสียไปได้ด้วย .. เห็นว่า ต่อให้มีเวลาอีก 3 เดือน ก็ยังยากที่จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ตามสัญญา .. ฟังคำบรรยายแล้วก็ต้องร้องอือหือ ทั้งหญ้าที่นำไปปลูกไว้บนผิวดินที่มีแต่หิน แนวดินสโลปเกิน 30% ดินใต้ร่องน้ำเริ่มถูกเซาะ ส่งผลให้หน้าดินเริ่มเห็นร่องรอยการไหลของน้ำ .. ได้ยินได้ฟังอย่างนี้แล้ว คงไม่ใกล้เคียงกับ “บ้านในฝัน”อย่างที่วางแผนไว้แน่ๆ “ฝ่ายต้าน - ฝ่ายแช่ง” ก็อาจจะลุ้นให้สร้างเสร็จสมบูรณ์ แล้วมีคนเข้าไปอยู่ด้วยซ้ำไป
**ตัวใหญ่ยังลอยนวล!? ปปง. สั่งยึดทรัพย์ “3 อดีตบิ๊ก พม.” รวม 88 ล้าน เซ่นทุจริตเงินคนยากไร้ แบบนี้ยังไม่สุด ก็เงินหายไปเป็น “พันล้าน”ทำไมยึดได้แค่ไม่ถึงร้อย “เดอะแจ๊ค” เชื่อส่วนใหญ่ถูกแปรไปเป็น “ค่าเก้าอี้” จ่าย “ผู้ใหญ่”แลกเลื่อนตำแหน่ง หวัง“อดีตข้าราชการ”ที่ถูกลงโทษไปแล้ว ใจกล้าเปิดโปง ระดับ “ใหญ่กว่านี้”
ให้มันได้จั๊งซี่สิ .. คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติอายัดทรัพย์ ผู้เกี่ยวข้องในคดีทุจริตเงินผู้ยากไร้ ของ “กระทรวงนักบุญ” กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่สวาปามกันไปค่อนประเทศ .. ฟันโชะไปที่ พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีต ปลัด พม. ณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัด พม. และ ธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการ พม. รวมมูลค่า 88 ล้านบาท ด้วยมีพฤติการณ์ทุจริต ยักยอกเงินช่วยเหลือคนยากไร้ .. งานนี้เด็ดขาด แต่ยังไม่สะเด็ดน้ำ ด้วยมีข้อสังเกตจาก “เดอะแจ๊ค”วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ตามเรื่องนี้มาแต่ต้น .. “เดอะแจ๊ค” มองว่า ทรัพย์สิน 88 ล้านบาท ที่ถูกยึดเป็นเพียง “ส่วนน้อย”ที่ติดตามพบเท่านั้น เพราะอย่าลืมว่า “งบเงินผู้ยากไร้” ที่ถูกยักยอกไปนั้น มีไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท .. หากคำนวณตามข้อมูลที่ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เคยระบุว่า เงินไม่ตกถึงมือคนยากไร้ โกงกันสะบัดช่อ 80-90% .. เทียบบัญญัติไตรยางค์ ก็ต้องมีเงินตกหล่นไม่ต่ำกว่าหลายร้อยล้าน หรือ “ พันล้าน”ก็ไม่แปลก .. “เดอะแจ๊ค”ระบุด้วยว่า เงินที่หายไปนั้น ถูกชักเข้ากระเป๋า “ผู้ร่วมขบวนการ”แค่บางส่วน .. แต่ “ส่วนใหญ่”ถูกแปรไปเป็น “ค่าเก้าอี้”ส่งคืนให้ “ผู้ใหญ่” ใน “กระทรวงนักบุญ”เพื่อแลกกับการเลื่อนตำแหน่ง จึงเชื่อว่าจะมีคนรับเงินทุจริตที่ “ใหญ่กว่านี้” .. ก็อยู่ที่ “อดีตข้าราชการ”ที่ถูกลงโทษไปแล้ว จะกล้าเปิดเผยหรือไม่เท่านั้น
**ตำรวจโกงตำรวจ!! “อดีตผู้การเลย”โดนฟัน “วินัย-อาญา”ปมโกง “ลูกน้อง” 229 ล้านบาทไปลงใน “ตลาดหุ้น”ผลสอบสุดแค่ “ไอ้โม่ง” ที่เป็น “คนยักเงิน”ไปลงทุนในตลาดหุ้น ที่บังเอิญไปเกี่ยวข้องหนองยุ่งกับ “คดีดัง” ที่มี “เพื่อนซี้” เพื่อนร่วมรุ่น นรต. 39 ของ “อดีตผู้การเลย” เป็นผู้ต้องหาเสียด้วย
ทำกันได้ลงคอ .. กรณี “ตำรวจจังหวัดเลย” รวม 192 นาย ร้องเรียนว่าถูก “อดีตนายเก่า” อย่าง พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผู้บัญชาการการสำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) .. โดยสมัยที่ “สุทิพย์” หรือ “ผู้การไก่”ยังเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เลย หลอก “ขายฝัน” ให้ “ลูกน้อง” ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ร่วมโครงการรวมหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย .. แล้วนำเงินที่ได้ไป “ลงทุน” ด้วยเงื่อนไขว่าจะรับผิดชอบส่งภาระหนี้สินแทน พร้อมผลตอบแทนล่อใจต่างหาก .. ที่สุดได้เงินมากว่า 229 ล้านบาท และก็เงียบหายไปเฉยๆ ไม่นำผ่อนหนี้ให้อย่างที่ตกลง ปล่อยให้ “ลูกน้องเก่า” เป็นหนี้เป็นสินกันหัวโต .. อเนจอนาถขั้นสุด บางคนต้องทำปล่อยวางอาชีพ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ต้องบากหน้าไปกู้นอกระบบก็มี หรือบางคนต้องเอาปืนประจำกายไปจำนำมาผ่อนหนี้ก็มี..
ดีที่ผู้ใหญ่ไม่ดูดาย ทันทีที่รู้เรื่อง “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการหาแหล่งเงินกู้ฉุกเฉินให้ผู้ใต้บังคับบัญชาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว .. พร้อมสั่งให้ “เดอะหม่อง”พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 สอบข้อเท็จจริงนำ “ผู้การตัวดี”มารับผิดชอบ พร้อมลงโทษอย่างเร่งด่วน .. เจตนาชัดแจ้งแบบนี้ ไม่ต้องสอบนาน แป๊บเดียวรู้เรื่อง แม้จำเลยอย่าง “ผู้การไก่”จะยึกยัก ผลัดการให้ปากคำถึง 3 ครั้ง 3 ครา .. ที่สุดก็ไม่รอดสันดอน ถูกสั่งให้เอาเรื่องทั้ง “วินัย - อาญา” ด้วยเข้าข่ายหลอกลวงฉ้อโกง ไม่ต่างจาก “แชร์ลูกโซ่”.. แถมไม่น่าให้อภัยที่ทำนาบนหลังพวกเดียวกัน ปล่อยลูกน้องที่ล้วนแต่เป็น “ตำรวจชั้นผู้น้อย”ตกทุกข์ได้ยาก .. พอไล่ “เส้นทางการเงิน”ก็พบว่า “ผู้การไก่” นำเงินก้อนโตที่ได้ไปลงทุนใน “ตลาดหุ้น” ผ่าน “เครือข่ายระดับประเทศ” ..ซึ่งในทางการสืบของตำรวจภาค 4 ระบุถึงแค่ “นายหน้า” ที่เป็นชาวขอนแก่น 2 คน โยงเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ ครอบคลุมพื้นที่ “เลย-ขอนแก่น-หนองบัวลำภู”แล้วสุดแค่ “ไอ้โม่ง” ที่เป็น “คนยักเงิน” ไปลงทุนในตลาดหุ้น เท่านั้น .. บังเอิญอย่างเหลือเชื่อ ที่โยงใยไปเกี่ยวข้องกับ “คดีดัง” ที่มี “เพื่อนซี้” เพื่อนร่วมรุ่น นรต. 39 ของ “ผู้การไก่” เป็นผู้ต้องหาเสียด้วย .. อดใจกันไว้นิด ไว้พรุ่งนี้จะมาเหลาต่อ ในท้องเรื่อง “คบคนแบบไหน เราก็จะเป็นแบบนั้น”
ช.ชฎา
