xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ยกกรณี 13 ชีวิตติด “ถ้ำหลวง” สะท้อนน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน-ปลื้มอัตราว่างงานน้อยสุดอันดับ 4 ของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ยกกรณี 13 ชีวิตติด “ถ้ำหลวง” สะท้อนน้ำใจชาวไทยร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขอขอบคุณ-ชื่นชมทุกคนที่เสียสละเข้าช่วยเหลือ ปลื้มเว็บไซต์ tradingeconomics.com สำรวจไทยว่างงานน้อยสุดอันดับ 4 ของโลก ซึ่งเป็นผลจากที่รัฐบาลควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

วันที่ 29 มิ.ย. เวลา 20.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนา อย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่งว่า จากปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือเด็กและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คน ที่พลัดหลงในถ้ำหลวง จ.เชียงรายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใย ได้ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจไปยังครอบครัวผู้ประสบภัยทุกคน รวมถึงจัดตั้งโรงครัวพระราชทานให้กับครอบครัว และผู้ปฏิบัติงาน และหาเครื่องดื่มแก่จิตอาสา และผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้ประสบความสำเร็จโดยสวัสดิภาพ จะเห็นได้ว่าพสกนิกรชาวไทยทุกหย่อมหญ้า แม้จำนวนเพียง 13 จากเกือบ 70 ล้านชีวิต ก็อยู่ในพระเนตรพระกรรณของพระองค์ท่าน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

“เหตุการณ์นี้สะท้อนอะไรมากมายให้กับพวกเราทุกคน ซึ่งผมไม่อาจจะละเลย หรือปล่อยให้วิกฤตนี้ผ่านเลยไป โดยไม่ได้ชวนให้คิด หรือหยิบยกมาเป็นโอกาสในการจะสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมของเรา อาทิ น้ำจิตน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ร่วมกันเป็นหนึ่ง ยามมีสุขเราจะสุขด้วยกัน ยามมีทุกข์เราจะทุกข์ร่วมกัน และร่วมกันแก้ไขทุกข์ให้เกิดสุข โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่สำคัญคือเราต้องมีสติอันจะทำให้เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาทุกประการร่วมกันให้แคล้วคลาดและปลอดภัย” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมความพยายามร่วมกัน และความทุ่มเทในการทำงานคนละไม้คนละมือ ตามหน้าที่ตามความถนัด ความสามารถของแต่ละคน แต่ละหน่วยงาน ด้วยการบูรณาการงานกันอย่างสามัคคี ช่วยกันทั้งอาสาสมัคร จิตอาสา เจ้าหน้าที่จากหลากหลายสาขา สหวิทยาการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้มีการระดมทรัพยากร เครื่องมืออุปกรณ์ที่มีศักยภาพมากที่สุด และบุคลากรจากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญมากที่สุด ในแต่ละด้านจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ มาบูรณาการกันอย่างมีระบบ ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้จำกัดแต่เพียงคนไทย หรือหน่วยงานของไทยเท่านั้น ทั่วโลกให้ความสนใจติดตามด้วย

โดยเราได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย และนักประดาน้ำจากประเทศลาว เพื่อนบ้านใกล้ชิดของเรา ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเร่งรีบเดินทางเข้าพื้นที่ในทันที ที่ได้รับการประสานจากรัฐบาลไทย รวมทั้งเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหาร จากกองกำลังสหรัฐภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางมาพร้อมกับเครื่องมือค้นหาผู้รอดชีวิต หรือ อุปกรณ์ตรวจหาสัญญาณชีพที่ทันสมัย เป็นต้น

“ในฐานะผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลไทย ผมขอเป็นตัวแทนแสดงความขอบคุณ และชื่นชมทุกคนทุกฝ่ายด้วยใจจริงอีกครั้ง” นายกฯระบุ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ถือเป็นข่าวดีอีกครั้งที่ข้อมูลจากเว็บไซต์ tradingeconomics.com แสดงผลการสำรวจอัตราการว่างงานของ 215 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่า ประเทศไทยมีอัตราว่างงานน้อยที่สุด เป็นอันดับ 4 ของโลก มีอัตราการว่างงานเพียงร้อยละ 1.2 จากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 67 ล้านคน เป็นผลจากการที่รัฐบาลพยายามจะควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ เข้าถึงการจ้างงานที่สะดวกรวดเร็ว ให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

การจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานทั่วประเทศ การจัดกิจกรรม ปฏิรูปแรงงาน การจ้างงานผู้สูงอายุ คนพิการ และนักศึกษา บริการ แนะแนวอาชีพ การจัดตั้งกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน การบริการจัดหางานบนมือถือผ่าน Smart Job Application เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้กำชับให้กระทรวงแรงงานบูรณาการร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อจะส่งเสริมการมีงานทำอย่างจริงจัง แก้ปัญหาว่างงาน โดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีต้องมีงานทำโดยเร็ว เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องไม่เกี่ยง ไม่ปฏิเสธงาน หนักนิดเบาหน่อย ขอให้มีอาชีพ มีงานทำตลอดปี ให้ตนเองมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวให้มากขึ้น มีทั้งอาชีพหลัก อาชีพเสริม เป็นต้น อาจเหน็ดเหนื่อยหน่อยระยะนี้ ขอให้ทุกคนหาช่องทางที่จะเชื่อมต่อ ได้ประโยชน์ มีการพัฒนาฝีมืออยู่เสมอด้วย
คำต่อคำ : ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน [29 มิถุนายน 2561]

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน จากปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือเด็กและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คน ที่พลัดหลงในถ้ำหลวง จ.เชียงรายในช่วงที่ผ่านมา ตามที่มีการรายงานข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใย ได้ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจไปยังครอบครัวผู้ประสบภัยทุกคน รวมถึงจัดตั้งโรงครัวพระราชทานให้กับครอบครัว และผู้ปฏิบัติงาน และหาเครื่องดื่มแก่จิตอาสา และผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้ประสบความสำเร็จโดยสวัสดิภาพ จะเห็นได้ว่าพสกนิกรชาวไทยทุกหย่อมหญ้า แม้จำนวนเพียง 13 จากเกือบ 70 ล้านชีวิต ก็อยู่ในพระเนตรพระกรรณของพระองค์ท่าน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เหตุการณ์นี้สะท้อนอะไรมากมายให้กับพวกเราทุกคน ซึ่งผมไม่อาจจะละเลย หรือปล่อยให้วิกฤตนี้ผ่านเลยไป โดยไม่ได้ชวนให้คิด หรือหยิบยกมาเป็นโอกาสในการจะสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมของเรา อาทิ น้ำจิตน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ร่วมกันเป็นหนึ่ง ยามมีสุขเราจะสุขด้วยกัน ยามมีทุกข์เราจะทุกข์ร่วมกัน และร่วมกันแก้ไขทุกข์ให้เกิดสุข โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ที่สำคัญคือเราต้องมีสติอันจะทำให้เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาทุกประการร่วมกันให้แคล้วคลาดและปลอดภัย

นอกจากนี้ ผมขอชื่นชมความพยายามร่วมกัน และความทุ่มเทในการทำงานคนละไม้คนละมือ ตามหน้าที่ตามความถนัด ความสามารถของแต่ละคน แต่ละหน่วยงาน ด้วยการบูรณาการงานกันอย่างสามัคคี ช่วยกันทั้งอาสาสมัคร จิตอาสา เจ้าหน้าที่จากหลากหลายสาขา สหวิทยาการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้มีการระดมทรัพยากร เครื่องมืออุปกรณ์ที่มีศักยภาพมากที่สุด และบุคลากรจากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญมากที่สุด ในแต่ละด้านจากทั่วทุกสารทิศของประเทศ มาบูรณาการกันอย่างมีระบบ ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้จำกัดแต่เพียงคนไทย หรือหน่วยงานของไทยเท่านั้น ทั่วโลกให้ความสนใจติดตามด้วย ผมเห็นข่าว ตอนผมไปต่างประเทศก็มีข่าวออกทั่วโลกถึงความห่วงใย และให้กำลังใจประเทศไทยในการแก้ปัญหานี้ ทุกฝ่ายทุกประเทศต่างก็ให้ความสำคัญ และเห็นคุณค่าของ ทุกชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน โดยเราได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย และนักประดาน้ำจากประเทศลาว เพื่อนบ้านใกล้ชิดของเรา ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเร่งรีบเดินทางเข้าพื้นที่ในทันที ที่ได้รับการประสานจากรัฐบาลไทย รวมทั้งเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหาร จากกองกำลังสหรัฐฯภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางมาพร้อมกับเครื่องมือค้นหาผู้รอดชีวิต หรือ อุปกรณ์ตรวจหาสัญญาณชีพที่ทันสมัย เป็นต้น

ทั้งนี้ ในฐานะผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลไทย ผมขอเป็นตัวแทนแสดงความขอบคุณ และชื่นชมทุกคนทุกฝ่ายด้วยใจจริงอีกครั้ง

พี่น้องประชาชนที่รักครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เล่าเรื่องการปฏิบัติภารกิจ ณ สหราชอาณาจักรของผมและคณะ รวมถึงผลลัพธ์จากการหารือในหลายๆ เรื่อง และการพบปะภาคเอกชนไปแล้ว หลังจากนั้นผมและคณะได้เดินทางต่อไปยังกรุงปารีส ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้มีการพบปะหารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในการต้อนรับคณะของเราอย่างอบอุ่น และสมเกียรติ โดยผมได้เชิญชวนให้ฝรั่งเศสเข้าเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของไทย และแผนแม่บทที่มีไทยเป็นศูนย์กลาง รวมทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยไทยได้น้อมนำหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางหลักในการดำเนินงาน

นอกจากนี้ ผมขอให้ทางการฝรั่งเศสช่วยดูแลนักลงทุนไทย นักเรียนไทย และช่วยส่งเสริมการรื้อฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปให้ได้โดยเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศได้อีกด้วย ในส่วนของไทยเอง ผมแจ้งไปว่าเราพร้อมที่จะสนับสนุนบทบาทของฝรั่งเศส เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค โดยจะร่วมกันเป็นหุ้นส่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เพื่อผลักดันให้ข้อตกลงปารีสบรรลุผลสำเร็จ

นอกจากนี้ ผมและประธานาธิบดีมาครง ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลง ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศอู่ตะเภา และสัญญาซื้อขายดาวเทียมคีออส 2 เพื่อใช้ในการสำรวจทรัพยากร และการพยากรณ์สภาพดินฟ้าอากาศของไทย ซึ่งตัวเก่านั้นหมดอายุการใช้งานแล้ว และอันนี้เป็นดาวเทียมที่ทันสมัย สามารถใช้ในหลายภารกิจด้วยกัน รวมถึงมีการลงนามในในเอ็มโอยูระหว่างภาครัฐและเอกชน ไทยและฝรั่งเศส รวมทั้งหมด 11 ฉบับ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันผลักดันความร่วมมือเหล่านี้ โดยเฉพาะโครงการลงทุนในเขตอีอีซีให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเร็ว ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ตอบรับ ที่จะเดินทางมาเยือนไทย ในช่วงที่ไทยจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนใน ปี 2562 อีกด้วย

สำหรับการพบปะกับภาคเอกชน ผมได้เข้าร่วมและเปิดงานสัมมนาไทยแลนด์ บิสซิเนส ฟอรั่ม (Thailand Business Forum) ซึ่งผมได้เน้นถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง ไทยและฝรั่งเศส ที่ต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 333 ปี อีกทั้งเรายังเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญระหว่างกัน ทั้งในบทบาทของการนำเข้า และส่งออกสินค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ผมได้เล่าถึงการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะอีอีซี ซึ่งก็จะเป็นโอกาสอันดี ที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุน และสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยด้วย

นอกจากนี้ ผมได้มีโอกาสหารือถึงแผนการลงทุนในไทยให้กับนักลงทุนรายใหญ่ของฝรั่งเศสหลายราย เช่น กลุ่มทรานเซฟ Transdev ที่ทำธุรกิจหลักในการบริหารและระบบขนส่งมวลชน กลุ่มมิชลิน ซึ่งป็นผู้ผลิตยางรายสำคัญของโลก ที่เพิ่งเปิดโรงงานใหม่ที่ จ.สงขลา และจะสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยางของไทย ให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดโลก มีการพัฒนาในประเทศของเรา ใช้ในประเทศของเราให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มวินซี คอนเซสชัน เป็นบริษัทก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่สนใจจะลงทุนในประเทศไทย ในอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ประเทศไทย 4.0 และ อีอีซี รวมถึงกลุ่มซูเอซ ที่เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ ส่งเสริมการเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งมีความสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทยเช่นกัน

ผมได้แจ้งบริษัทเหล่านี้ไปว่า รัฐบาลไทยยินดีต้อนรับการลงทุนที่สอดรับกับการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะด้านนวัตกรรม และขอให้นักลงทุนมองยาวไปอีก 20 ปีข้างหน้า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งนโยบาย ไทยแลนด์+1 ที่จะเชื่อมไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ก็จะทำให้เป็นโอกาสการลงทุนที่ดีอีกด้วย

การไปเยือนต่างประเทศในครั้งนี้ผมมองว่า เราประสบความสำเร็จมาก ในการที่กระชับความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศในยุโรป และประเทศไทย ซึ่งก็จะส่งผลให้เกิดความเจริญ และกินดีอยู่ดีของคนไทย ในวันข้างหน้า อีกทั้งเป็นการสานต่อความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ที่มีมาอย่างยาวนานอีกด้วย

การเดินทางครั้งนี้ ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ไปเห็นแนวคิดในการพัฒนาบ้านเมือง ที่เราอาจนำส่วนที่ดีๆ และเหมาะสม มาช่วยสร้างจุดแข็ง จุดขาย ให้บ้านเมืองของเรา โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งเราก็มีโอกาสอยู่มาก ผมได้ไปเห็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ของชุมชนชานเมือง ที่เป็นเมืองบ้านเกิดของประธานาธิบดีมาครง ชื่อเมืองอาเมียง ที่ได้พัฒนาคูคลองให้สวยงาม มีการใช้เรือไฟฟ้า เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวน และไม่ก่อมลภาวะ ทำให้เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ มีการปลูกสวนผัก สวนดอกไม้ และปลูกป่าเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นร่มเงา และสร้างกิจกรรมให้กับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อเติมเสน่ห์ให้กับการท่องเที่ยวในบ้านเมืองเรา

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ บรรยากาศ และวิวทิวทัศน์ของบ้านเรามีความหลากหลาย ทำให้เมื่อถ่ายรูปออกมาก็จะให้อารมณ์ที่หลากหลายออกไป ซึ่งต่างจากทิวทัศน์ของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศอื่น ๆ นี่แหละคือจุดเด่นของเรา ที่สามารถจะนำมาพัฒนาต่อยอดได้ ให้แหล่งท่องเที่ยวของเราที่มีความเป็นเอกลักษณ์ น่าสนใจ สามารถจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ไปดูมา ชุมชนเขาบริหารกันเอง เพื่อจะให้เกิดการพัฒนาประเทศได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้มีรายได้น้อยด้วย ซึ่งเป็นเกษตรกร เป็นสวนผัก สวนผลไม้ อะไรก็แล้วแต่ หรือแม้กระทั่งนาข้าว ก็ขอให้มีการทำให้สวยงาม ให้สะอาดเท่านั้นเอง แล้วก็จัดทำเส้นทางที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ผมได้กลับมาแล้วก็สั่งการใน ครม. ไปแล้ว ให้มีการสำรวจคู คลอง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อเป็นโครงการนำร่องแล้ว เราจะได้ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองของเราให้สวยงาม และเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศที่มีการพัฒนา แล้ว เขาไม่เคยลืมประวัติศาสตร์ เขาใช้ประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ของเดิมที่เขามีอยู่แล้ว มาทำให้ดีขึ้น รีโนเวทใหม่ โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมเขาไว้

พี่น้องประชาชนที่รักครับ ภารกิจ ณ ต่างประเทศดังกล่าวนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงความร่วมมือในทุกมิติ ระหว่างเรากับมิตรประเทศทั่วโลก ซึ่งก็เป็นอีกนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การตลาด ในเรื่องของความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและปากท้องของพี่น้องประชาชนโดยอ้อม สอดคล้องกับสโลแกนของโครงการอีอีซี ที่่ว่า เชื่อมโลกให้ไทยแลนด์ ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างประเทศอย่างมากทั่วภูมิภาค ที่ยังถือเป็นเครื่องจักรใหม่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า สิ่งสำคัญที่ผมจะกล่าวถึงคือความพร้อมและการพัฒนาตนเองของทุกคน โดยเฉพาะการพัฒนาชาติ ที่หมายรวมถึงแรงงาน ทั้งการผลิต ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวและบริการ ล่าสุด ถือเป็นข่าวดีอีกครั้ง ที่ข้อมูลจากเว็บไซต์ tradingeconomics.com แสดงผลการสำรวจอัตราการว่างงานของ 215 ประเทศทั่วโลก ปรากฎว่าประเทศไทยมีอัตราว่างงานน้อยที่สุด เป็นอันดับ 4 ของโลก มีอัตราการว่างงานเพียงร้อยละ 1.2 จากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 67 ล้านคน เป็นผลจากการที่รัฐบาลพยายามจะควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ เข้าถึงการจ้างงานที่สะดวกรวดเร็ว ให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

การจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานทั่วประเทศ การจัดกิจกรรม ปฏิรูปแรงงาน การจ้างงานผู้สูงอายุ คนพิการ และนักศึกษา บริการ แนะแนวอาชีพ การจัดตั้งกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน การบริการจัดหางานบนมือถือผ่าน Smart Job Application เป็นต้น

ทั้งนี้ ผมกำชับให้กระทรวงแรงงานบูรณาการร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อจะส่งเสริมการมีงานทำอย่างจริงจัง แก้ปัญหาว่างงาน โดยเฉพาะผู้ที่จบปริญญาตรีต้องมีงานทำโดยเร็ว เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องไม่เกี่ยง ไม่ปฏิเสธงาน หนักนิดเบาหน่อย ขอให้มีอาชีพ มีงานทำตลอดปี ให้ตนเองมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวให้มากขึ้น มีทั้งอาชีพหลัก อาชีพเสริม เป็นต้น อาจเหน็ดเหนื่อยหน่อยระยะนี้ ขอให้ทุกคนหาช่องทางที่จะเชื่อมต่อ ได้ประโยชน์ มีการพัฒนาฝีมืออยู่เสมอด้วย

ไม่เพียงแต่เท่านี้ ที่รัฐบาลคำนึงถึงเกี่ยวกับแรงงานของประเทศ รัฐบาลได้เตรียมล่วงหน้าเกี่ยวกับอนาคตอีกหลายประการ

1. คือการเตรียมแรงงานให้มีความพร้อม รองรับการพัฒนาประเทศแบบยุทธศาสตร์ชาติ การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอีก 5 ปี ข้างหน้า
2. การจัดการศึกษาแบบทวิภาคี เพื่อให้นักเรียนอาชีวะได้ฝึกการวิชาชีพจริงในสถานประกอบการในช่วงเวลาที่ศึกษาในอาชีวะต่างๆ
3. การขึ้นบัญชีนวัตกรรม บัญชีนักเรียน นักศึกษาที่ผ่านเวที ชนะการประกวดต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้มีแนวทางในการส่งเสริมนวัตกรรมของสู่การผลิตและนำมาใช้ประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนามาทำราชการ หรืออยู่บริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการสร้างการผลิตของประเทศในอนาคต แล้วพลิกจากประเทศนำเข้านวัตกรรมไปสู่ประเทศส่งออกนวัตกรรมบ้าง ที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างมากและค่อยเป็นค่อยไป
4. การจัดทำประมาณการความต้องการของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะภาคการผลิตของประเทศ โดยเฉพาะเป้าหมาย ในพื้นที่3 จังหวัด อีซีซี เช่น อากาศยาน วิศวกรรมซ่อมแซม และการควบคุมระบบไฟฟ้า เป็นต้น
5. การกำหนดมาตรฐานแรงงานไทย และการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาวิชาชีพต่างๆ สามารถขอรับอัตราค่าแรงที่สูงกว่าปกติ ตามอัตราที่แท้จริง เพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาแรงงานไทย เราอยู่ที่เดิมไม่ได้หรอกครับ
6. การปรับปรุงแรงงานต่างด้าว เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในการจ้างงาน และสถานประกอบการต่างๆ ที่รับการดูแลและคุ้มครองสิทธิพื้นฐานสากล เช่น สวัสดิการด้านสุขภาพ เป็นต้น รวมถึง 7 การฝึกฝีมือแรงงาน สำหรับผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ ขอทาน คนเร่ร่อนด้วยในช่วงปิดเทอม ก็มีงานให้เยาวชนของเรามีรายได้ในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผมหวังใจว่า พี่น้องแรงงานของเราเหล่านั้นล้วนมีความสำคัญกับเศรษฐกิจของไทยในระดับฐานรากของประเทศ โดยเฉพาะ SMEs และ Startup ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานประกอบการ โรงงานขนาดใหญ่ของประเทศ ในลักษณะห่วงโซ่มูลค่าของระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ จะต้องได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและมีแบบแผนด้วย เพื่อหาความร่วมมือด้วย ทำให้ถูกกฎหมายซะ ขึ้นทะเบียน จดทะเบียน จะได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนต่างๆ

พี่น้องประชาชนที่เคารพครับ เมื่อพูดถึงการสร้างแรงงานของชาติในอนาคต เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เราจะต้องมองย้อนไปถึงนักเรียน นักศึกษา ณ สถานศึกษาระดับต่าง ๆ ด้วย จากข้อมูลสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายเมื่อปี 2557 พบว่าภาวะโภชนาการของเด็กไทยจำนวนมากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น กว่า 4 แสนคนเตี้ย เกือบ 5 แสนคน น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ เกือบ 7 แสนคน เป็นโรคอ้วน ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่เราต้องให้ความสำคัญกับการจัดการอาหารในโรงเรียน และที่บ้านด้วย เพื่อจะแก้ไขปัญหาโภชนาการของเด็กใน 4 มิติ ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร ความปลอดภัยทางอาหาร คุณภาพอาหาร และอาหารศึกษา ด้วยการจัดการอาหารโรงเรียนโดยโปรแกรมสำเร็จรูป และการจัดครัวกลางสำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจะเป็นความร่วมมือกันจากหลายภาคส่วน ในแต่ละชุมชน และผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมด้วย อาทิ การจัดหาวัตถุดิบเพื่อการประกอบอาหาร โดยการรับซื้อผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากคนในชุมชน นอกจากเปิดโอกาสให้ชุมชน ซึ่งก็คือพ่อแม่ ญาติพี่น้องของเด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมในการดูแลอาหารการกินของลูกหลาน ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนด้วย รวมทั้งเป็นตลาดในชุมชน และการสนับสนุนพืชผลิต ผลิตภัณฑ์ในชุมชนของตนเอง อีกด้วย ขอให้ท้องถิ่น ภาคธุรกิจเอกชน ช่วยในการบริหารจัดการ สนับสนุนเกื้อกูลกัน ดูแลเรื่องราคาให้เหมาะสม ก็รวมความไปถึงผลิตผลด้านการเกษตร GAP ด้วย ก็ขอความร่วมมือด้วย ทุกคนต้องช่วยกัน

ผลการดำเนินการในพื้นที่นำร่อง จ.สุรินทร์ โดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับจังหวัดสุรินทร์ ในการดำเนินการตามหลักการดังกล่าวเบื้องต้น ห้วงปี 2558 - 2559 เราก็ได้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เด็กๆ มีการพัฒนาการทางร่างกายที่สมกับวัยตามเกณฑ์ เนื่องจากได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ตามหลักโภชนาการ ยิ่งกว่านั้นช่วยส่งเสริมให้มีการทำเกษตรอินทรีย์ในชุมชน ทำให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย ผลผลิตก็มีตลาดที่แน่นอน และขจัดปัญหาความไม่โปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อหาอาหารของนักเรียนทุกโรงเรียนอีกด้วย ก็จะนำไปสู่การเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชนได้ในที่สุด ซึ่งโมเดลอาหารกลางวันดังกล่าว ผมได้สั่งการให้นำไปขยายผลสู่จังหวัดอื่นๆ ต่อไปด้วย

สุดท้ายนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย ลดป่วยตายโรคไข้เลือดออก ในช่วงฤดูฝนนี้ ในปัจจุบันสถานการณ์ จากการรายงานโรคไข้เลือดออกตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงมิถุนายน ปีนี้ พบผู้ป่วย 22,500 ราย เสียชีวิตแล้ว 29 ราย และจากการสำรวจลูกน้ำยุงลายช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ยังพบค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนมีอัตราที่สูง โดยเฉพาะการพบลูกน้ำยุงลายในภาชนะตามสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งโรงแรม วัด โรงเรียน โรงงาน และโรงพยาบาล

ทั้งนี้ เราต้องมีมาตรการที่จะป้องกันโรคที่จะนำโดยยุงลาย ผมอยากให้ทุกคนได้ตระหนัก และเป็นความรู้ร่วมกันเพื่อจะป้องกันไม่ให้ยุงกัด ทั้งผู้ใหญ่และเด็กเลย และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยยึดหลัก “3 เก็บ 3 โรค” ก็คือ 1. เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้ยุงลายอยู่อาศัย 2. เก็บขยะให้เกลี้ยง ไม่ให้ยุงลายเพาะพันธุ์ 3. เก็บปิดน้ำให้มิดชิด ไม่ให้ยุงลายวางไข่ จะช่วยป้องกัน 3 โรค ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกาด้วย

ขอบคุณครับ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และทุกครอบครัวมีความสุข สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น